9 ก.ย. 2020 เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้หรือไม่? เหรียญ 25 หรือเหรียญ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 10 บาท
เปิดข้อกำหนดของการจ่ายหนี้ด้วย 'เหรียญ' ชนิดต่างๆ ตามกฎหมายที่ผู้ใช้เหรียญต้องรู้!
บทความโดย ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ข้อกำหนดของการจ่ายหนี้ด้วย 'เหรียญ' ชนิดต่างๆ
ช่วงวิกฤติ "โควิด-19" ทำให้ใครหลายๆ คนที่ได้รับผลกระทบหลายมิติ งานชะลอ เงินเดือนถูกลด หรือยิ่งไปกว่านั้นคือ หลายคน "ตกงาน" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่บางคนอาจจำต้อง "ทุบกระปุก" นำเงินออมที่มีอยู่ออกมาใช้ จ่ายเพื่อเสริมสภาพคล่อง และประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
"เหรียญกษาปณ์" หรือ "เหรียญ" ชนิดต่างๆ ที่หลายคนเก็บสะสมไว้จากการใช้จ่าย ผันตัวเองจาก "เศษเงิน" มาเป็น "ตัวช่วย" แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในระยะนี้ได้
ทว่าการจ่ายหนี้ หรือชำระค่าสินค้าต่างๆ ด้วยเหรียญ มีข้อกำหนดทางกฎหมายไว้อย่างชัดเจน ว่าเหรียญชนิดใด สามารถรวมกันเพื่อจ่ายได้ไม่เกินเท่าไรบ้าง
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมข้อมูลจาก "กรมธนารักษ์" ชัดๆ ว่าปัจจุบัน กฎหมายกำหนดให้เราสามารถใช้เหรียญได้ไม่เกินเท่าไรบ้าง โดยข้อมูลจากกรมธนารักษ์ ณ วันที่ 9 ก.ค.63 ระบุว่า ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เราสามารถชำระหนี้ด้วยเหรียญได้ตามกฎหมาย แต่มีข้อกำหนดที่สำคัญ ประกอบด้วย
เหรียญ 25, 50 สตางค์
เหรียญ 25 หรือเหรียญ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 10 บาท (เหรียญ 25 สตางค์ล้วนจำนวนไม่เกิน 40 เหรียญ และเหรียญ 50 สตางค์ล้วนจำนวนไม่เกิน 20 เหรียญ)
เหรียญ 1 บาท
เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 500 บาท (เหรียญ 1 บาทล้วน จำนวนไม่เกิน 500 เหรียญ)
เหรียญ 5 บาท
เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 500 บาท (เหรียญ 5 บาทล้วน จำนวนไม่เกิน 100 เหรียญ)
เหรียญ 10 บาท
เหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท (เหรียญ 10 บาทล้วน จำนวนไม่เกิน 100 เหรียญ)
ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการกำหนดจำนวนเหรียญที่ใช้ชำระแต่ละครั้งตามข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกัน เช่น กรณีที่มักมีข่าวคราวออกมาให้เห็นบ่อยๆ ว่ามีการขนเหรียญจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำให้จ่ายเจ้าหนี้ ฯลฯ จนมีข้อถกเถียงขึ้นมาบ่อยครั้งเมื่อถูกปฏิเสธการรับ ซึ่งหากมีการใช้เหรียญชำระหนี้ต่างๆ ในจำนวนที่เกินจากที่กฎหมายกำหนด ผู้รับมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย
มีเหรียญเยอะมาก ทำอย่างไรดี?
ในกรณีที่ออมเงินไว้เป็นเงินเหรียญจำนวนมาก สามารถ "ฝากเงิน" ที่ธนาคารต่างๆ ก่อนถอนออกมาชำระหนี้ หรือชำระหนี้กับธนาคารได้โดยตรง โดยอาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละธนาคาร เนื่องจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุญาตให้ธนาคารสามารถคิดค่าบริการการฝากเงินเหรียญได้ เนื่องจากการบริการเหล่านี้มีต้นทุนในการปฏิบัติงาน และใช้เวลาในการนับเหรียญ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบโดยชัดเจน
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวมตัวอย่างค่าธรรมเนียมการฝากเรียนแบงก์ใหญ่ 6 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ก.ค.63) ดังนี้
ธนาคารออมสิน
1. เพื่อแลกเป็นธนบัตร รวมถึงการฝากเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม 1% ของจำนวนเงิน เศษของร้อยไม่คิด ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่า 10 บาท
2. เพื่อฝากเงินเข้าบัญชี ไม่เกิน 3,000 บาท ไม่คิดค่าธรรมเนียม ส่วนที่เกินกว่า 3,000 บาท คิด 1% ของจำนวนเงินส่วนที่เกิน เศษของร้อยไม่คิด ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่า 10 บาท
ธนาคารกสิกรไทย
- กรณีนำฝากเหรียญเข้าบัญชีบุคคลธรรมดาทั่วไป หากทำการฝากผ่านสาขาที่อยู่ในเขตเดียวกันกับสาขาที่เปิดบัญชี
นำฝากไม่เกิน 500 เหรียญไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก หากนำฝากตั้งแต่ 501 เหรียญขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียม 1% ของมูลค่ารวม ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 20 บาท หรือตามแต่ที่ได้มีการทำสัญญากับธนาคารไว้ โดยแนะนำให้คัดแยกประเภทเหรียญเพื่อความรวดเร็วในการรับบริการ เช่น เหรียญ 1 บาทถุงละ 100 , เหรียญ 5 บาทถุงละ 100 เป็นต้น
- กรณีนำฝากเหรียญข้ามเขตสำนักหักบัญชี
จะคิดค่าธรรมเนียมฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารโดยมีค่าธรรมเนียม 0.10% ของจำนวนเงินฝาก ต่ำสุด 10 บาท และมีค่าบริการ 20 บาท/รายการ และหากนำฝากตั้งแต่ 501 เหรียญขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียมการนับเหรียญ 1% ของมูลค่ารวม ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 20 บาท หรือตามแต่ที่ได้มีการทำสัญญากับธนาคารไว้
ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน ยังคงเปิดให้บริการ "เครื่องฝากเหรียญ" อัตโนมัติ เฉพาะวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น. หยุดวันเสาร์ , วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ สำหรับเครื่องรับฝากสามารถใช้งานได้สูงสุด วันละ 5,000 บาท/ครั้ง/วัน เท่านั้น หากต้องการฝากมากกว่า 5,000 บาท จะต้องใช้บริการที่สาขา ซึ่งการฝากเงินตั้งแต่ 200 เหรียญขึ้นไป อัตราค่าบริการ 2% ของจำนวนรวมมูลค่าเหรียญ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรณีที่การฝากหรือแลกเงินแต่ละครั้งมีจำนวน 100 เหรียญขึ้นไป จะมีค่าบริการ 2% ของมูลค่าที่ฝากหรือแลก ถ้าจำนวนเหรียญไม่เกิน 100 เหรียญ จะไม่มีค่าธรรมเนียม โดยสามารถติดต่อทำรายการได้ทุกสาขา
ธนาคารกรุงไทย
ค่าธรรมเนียมการรับฝากเหรียญคิด 1% ของมูลค่าเหรียญที่นำฝาก โดยเรียกเก็บเมื่อนำฝากเข้าเลขที่บัญชีเดียวกันภายในคราวเดียวกัน หรือในหนึ่งวันรวมกันเกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไป
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ฝากเหรียญไม่เกิน 2,000 บาท ไม่คิดค่าธรรมเนียม เกิน 2,000 บาท คิดค่าธรรมเนียม 1%
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการฝากเหรียญ หรือแลกเหรียญควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคารผู้ให้บริการโดยตรง เนื่องจากข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
โฆษณา