11 ก.ย. 2020 เวลา 12:00 • เกม
Survival Horror : 10 เกมเอาชีวิตรอดที่หลอนสุดขั้ว
แน่นอนว่า ความสนุกของเกมมาจากการที่ผู้เล่นได้เผชิญสถานการณ์ที่ (อาจ) ไม่สามารถไปพบเจอได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เกม Survival Horror หรือเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด จึงเหมาะกับคนจิตแข็ง เพราะมันสร้างความตื่นเต้นระทึกขวัญ ชวนให้หวาดผวาราวกับพาผู้เล่นไปเจอสิ่งลี้ลับหรือสัตว์ประหลาดในรูปแบบต่าง ๆ จริง ๆ
Survival Horror คือหนึ่งในหมวดย่อยของเกมแนวแอคชั่นผจญภัย ที่แม้ว่าบางเกมจะมีซีนที่ผู้เล่นต้องต่อสู้ แต่ผู้เล่นจะรู้สึกเสียเปรียบและรู้สึกว่ามีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์การน้อยกว่าเกมแอคชั่นทั่วไป
นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบของเกมที่ต้องการกดดันผู้เล่นแบบสุดขีด ตั้งแต่บรรยากาศที่มักจะมืด มองเห็นยาก ดนตรีชวนหลอน สภาพแวดล้อมแปลก ๆ ที่ผู้เล่นต้องเดินสำรวจเพื่อค้นหาไอเทมนำทาง และบางครั้งก็โดนศัตรูจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว รวมถึงการไม่มีค่าพลังหรือความเร็วแบบเกมแอคชั่น
โดยผู้เล่นต้องพยายามหนีเอาตัวรอดด้วยปัจจัยต่าง ๆ จากพื้นที่จำกัดนี้พร้อมทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ และมีสถานการณ์ให้ต้องตัดสินใจในแบบที่ว่า เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว
1. Resident Evil
นาทีนี้ ไม่ว่าใครก็คงได้ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ Resident Evil วิดีโอเกมที่ถือเป็นต้นกำเนิดของเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด ที่โด่งดังจากค่าย Capcom โดยในปี ค.ศ. 1996 โปรดิวเซอร์ของเกม ชินจิ มิคามิ สร้างเกมนี้ขึ้น โดยตั้งใจจะรีเมค (Remake) เกมสยองขวัญของ Capcom ในอดีตที่ชื่อ Sweet Home เกมที่สร้างจากหนังญี่ปุ่นชื่อเดียวกัน แต่เพราะพวกเขาไม่ได้ถือลิขสิทธิ์เกมดังกล่าวไว้แล้ว มิคามิและลูกทีมจึงต้องสร้างจักรวาลขึ้นมาใหม่หมด
สำหรับภาคที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นตำนาน ต้องยกให้ภาคสองและภาคสาม โดยในภาคสองที่แม้จะเปิดตัวในปี 1998 แต่ระบบการเล่นมีความแปลกใหม่ เพราะมีการดำเนินเรื่องด้วยตัวละครสองคน ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนตัวละครเล่นได้ และสำหรับในภาคสามนั้น โดดเด่นด้วยองค์ประกอบของเกม ที่ขับอารมณ์ความเป็นผู้ถูกไล่ล่าของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าจะมีแก่นเรื่องร่วมกัน คือการต่อสู้กับผีชีวะในรูปแบบต่าง ๆ แต่ Resident Evil ในแต่ละภาค ทั้งภาคหลักและภาคแยกไม่ต่ำกว่า 20 ภาคจะมีธีมเนื้อเรื่องที่แตกต่างกัน สร้างความหลากหลายในอรรถรสความสยอง และด้วยความฮิตของเกม มีการนำ Resident Evil ไปสร้างเป็นหนัง หนังสือการ์ตูน นิยาย แอนิเมชั่น และสื่ออื่น ๆ อีกมากมาย
2. Clock Tower
Clock Tower เป็นเกมสยองในตำนานที่แม้จะเป็นรุ่นเก่า ไม่ได้มีภาพกราฟิกสมจริงเฉกเช่นเกมในปัจจุบัน แต่ก็มีเสน่ห์และชวนขนหัวลุกไม่แพ้กัน
เกมนี้เป็นผลงานของค่าย Human Entertainment โดยในปี 1995 ฮิฟุมิ โคโนะ ต้องการสร้างเกมที่มีบรรยากาศสยองขวัญในแบบที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในยุคนั้น โดยผู้สร้างได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ หนังของผู้กำกับชาวอิตาลี Dario Argento อย่างเรื่อง Susperia หรือ Zombi
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Clock Tower เป็นเรื่องราวของ Jennifer Simpson เด็กกำพร้าจากสถานเลี้ยงเด็กและเพื่อน ๆ ที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ตระกูล Barrows ที่รับอุปการะพวกเธอ ซึ่งพวกเธอไม่รู้เลยว่า ที่แห่งนี้มีความสยองขวัญกำลังรอพวกเธออยู่
ที่น่าสนใจคือ ตัวฆาตกรในเกมก็มีต้นแบบจากหนังเรื่อง The Burning (1981) ที่ใช้กรรไกรยักษ์เป็นอาวุธสังหาร ซึ่งไม่ว่าออกมาทีไร ก็สะดุ้งทุกที อาจด้วย Sound Effect ที่ชวนขนหัวลุก จนไม่น่าเชื่อว่าเกมสยองยุคนั้นจะสร้างความหลอนให้ผู้เล่นได้ขนาดนี้
ความฉลาดของคนทำเกมเก๋านี้คือ การมีระบบการเล่นแบบสุ่มห้องสำหรับฉากต่อไป ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นจะเล่นจนถึงตอนจบที่สมบูรณ์ตั้งแต่การเล่นในทีแรก ชวนให้ต้องเล่นซ้ำอยู่หลายรอบ
3. Dead by Daylight
เกมที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น Dead by Daylight เกมสยองขวัญเขย่าประสาทแนว MMO - Survivor ผลงานจากค่าย Behaviour Digital Inc. ที่อึดอัดและกดดันผู้เล่นแบบขีดสุด
ที่มาที่ไปของการต้องหนีและต้องไล่ล่าในเกมนี้ คือการที่ผู้เอาชีวิตรอด (Survivors) เข้าไปใกล้สถานที่ที่ฆาตกรหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะถูกดึงออกไปจากโลกแห่งความจริงสู่อีกโลกที่ Entity หรือปีศาจแมงมุมสร้างขึ้น เหล่าผู้เอาชีวิตรอดจึงถูกดูดเข้าไปในโลกของ Entity ไปด้วย
เมื่อเข้าสู่โลกของ Entity มีทางเดียวที่ผู้เอาชีวิตรอดจะรอดชีวิตไปได้ นั่นคือการหนี ส่วนฝั่งฆาตกรก็ต้องไล่ล่าและฆ่าเหล่าผู้เอาชีวิตรอดเพื่อสังเวยให้แก่ Entity
สำหรับเกม multiplayer นี้ เป้าหมายของผู้เล่นฝั่งผู้เอาชีวิตรอด (Survivors) ทั้ง 4 คน คือการต้องหาทางหนีจากฆาตกรไม่ให้โดนจับตัวได้ ส่วนผู้เล่นฝั่งฆาตกร (Killers) 1 คน ต้องขัดขวางผู้เอาชีวิตรอดไม่ให้หนีออกไปได้ โดยอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเกมล้วนนำมาใช้ประโยชน์ได้
เสน่ห์ของ Dead by Daylight คือ ตัวละครแต่ละตัวมีที่มาที่ไปและคาแรคเตอร์แตกต่างกัน โดยเฉพาะเหล่าฆาตกรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงมีการซื้อลิขสิทธิ์ นำตัวละครจากหนัง ซีรี่ส์ หรือแม้แต่เกมดังมาเสริมเป็น DLC ทำให้ตัวละครของเกมมีมิติ ผู้เล่นจึงเข้าใจเป้าหมายของตัวละครได้ดีและอินตามได้ง่าย
4. Silent Hill
เกม Silent Hill คือเกมผีในตำนาน ที่ถูกพัฒนาโดยทีม Silent จาก Konami Computer Entertainment Tokyo โดยภาคแรกของเกม Silent Hill ออกจำหน่ายครั้งแรกในอเมริกาเหนือ ญี่ปุ่นและยุโรปเมื่อปี 1999
มุมมองของผู้เล่นจะเป็นมุมมองบุคคลที่สาม มีการใช้หมอกและความมืดสร้างบรรยากาศน่าสะพรึง โดยตัวเอกในเกมเป็นคนธรรมดาที่ต้องฝึกฝนการต่อสู้
แก่นเรื่องของทุกภาค จะมีจุดร่วมกันคือ เรื่องราวแปลกประหลาดชวนสยอง (และชวนคลื่นไส้ในบางที) ที่เกิดขึ้นในบริเวณเมืองสมมุติ นามว่า Silent Hill หรือรอบ ๆ บริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม Silent Hill ได้ถูกยกเลิกการพัฒนาแล้ว โดยภาคหลักตอนสุดท้ายที่ได้วางจำหน่ายคือ Silent Hill: Downpour ในปี 2012 และยังมี P.T. เกมเดโมที่สุดของความหลอนที่ว่ากันว่าจะกลายเป็น Silent Hill ภาคที่ดีที่สุด ด้วยความร่วมมือของ กิลเยร์โม เดล โตโร ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด และ ฮิเดโอะ โคจิม่า โปรดิวเซอร์ยอดพรสวรรค์ของโคนามิ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงโครงการสวรรค์ล่มที่ Konami ชักปลั๊กก่อนเกิด และโคจิม่าก็ยกทีมออกไปเปิดสตูดิโอของตัวเองในชื่อ Kojima Productions
5. The Last of Us
The Last of Us เป็นเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่พัฒนาโดยค่าย Naughty Dog และจัดจำหน่ายโดย Sony Interactive Entertainment วางจำหน่ายครั้งแรกลงเครื่องเพลย์สเตชัน 3 เมื่อปี 2013
The Last of Us เป็นเรื่องราวของโลกที่ล่มสลายจากเชื้อรามรณะที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้หัวเห็ดกระหายเลือด
ในภาคแรก ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น Joel ชายที่เคยเสียลูกสาวไปผู้ได้รับมอบหมายให้พาตัวเด็กสาววัยรุ่น นามว่า Ellie ไปส่งที่อีกฟากหนึ่งของประเทศ เพราะตัวสาวน้อยแม้จะโดนซอมบี้กัดแต่ไม่ติดเชื้อ เธอจึงกลายมาเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือโลก
ในเกม ผู้เล่นจะใช้อาวุธปืนป้องกันภัยจากศัตรูที่เป็นมนุษย์ และสัตว์ประหลาดกินคนที่ติดเชื้อในมุมมองบุคคลที่สาม
หลังจากที่ภาคแรกได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม จนในที่สุดเมื่อปี 2020 ทางค่ายได้มีการปล่อย The Last of Us Part II ออกมา แต่กลับกันกับภาคแรก ภาคนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งดูเหมือนแตกเป็นสองขั้วสุดโต่ง เพราะมีทั้งคนที่ชอบมากและไม่ชอบสุด ๆ
อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องในภาคสองไม่ใช่ภาคต่อของภาคแรกแต่อย่างใด แต่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการแก้แค้นของเด็กสาว Ellie ทำให้ผู้เล่นได้เล่นเป็น Ellie แทนในภาคนี้
6. Until Dawn
อย่างที่ทราบกันดีว่า สำหรับโลกภาพยนตร์ หากมีกลุ่มวัยรุ่นอยู่ด้วยกัน และรวมหัวกันทำเรื่องซ่าเมื่อไหร่ แปลว่าความอันตรายถึงชีวิตกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อนั้น ...
และเกม Until Dawn จะทำให้เราเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเหล่านั้นในฐานะวัยรุ่นจอมสร้างเรื่อง โดย Until Dawn เป็นเกมไล่ล่าฆ่าฟันที่พัฒนาโดย Supermassive Games
ระบบของเกมจะมีตัวละคร 8 ตัวที่ได้เข้าไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศในฤดูหนาว ที่ที่เคยมีการแกล้งกันจนมีคนเสียชีวิต แต่ไม่มีใครพบศพคนตาย ผ่านไป 1 ปี กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมได้กลับมายังบ้านพักหลังนี้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขาต้องหลบหนีฆาตกรกลางป่า เพื่อหาทางเอาชีวิตรอดให้จงได้จนกว่าจะรุ่งเช้า
7. Home Sweet Home
ต้องยอมรับว่า สำหรับหลายท่าน ผีสัญชาติไทยน่ากลัวที่สุด นั่นทำให้ Home Sweet Home เกมที่อิงจากความเชื่อไสยศาสตร์และเรื่องลึกลับของไทยรวมถึงสร้างโดยทีมงานชาวไทย มีเนื้อหาที่ใกล้ตัวจนหลอนเข้าขั้น เพราะยกขบวนกันมาทั้งผีนางรำ ตำนานลิฟต์แดง เสาตกน้ำมัน และอื่น ๆ อีกมากมาย
นี่ยังไม่รวมถึง ความรู้สึกสมจริงเพราะผู้เล่นต้องเล่นในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และบรรยากาศภายในเกม ที่ทำให้เราเหมือนเข้าไปอยู่ในหนังผีไทยที่คุ้นเคย ท่ามกลางความหลอนเหล่านี้ ผู้เล่นต้องใช้ไหวพริบในการไขปริศนาและเอาตัวรอดจากสถานการณ์สุดบีบคั้นต่าง ๆ
Home Sweet Home ออกมาแล้วสองภาค โดยในภาคแรกเล่าเรื่องผ่านติม ตัวละครหลัก ที่ตื่นนอนขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลก ๆ และมีวิญญาณผีสาวคอยตามทำร้าย โดยเขาต้องตามหาเจน ภรรยาที่หายตัวไป
ส่วนในภาคสอง เป็นเรื่องราวที่คลี่คลายปมต่าง ๆ ของตัวละครจากภาคแรก ไม่ว่าจะสาเหตุที่เจนหายตัวไป หรือทำไมติมถึงมาอยู่ในที่แปลกประหลาด แต่เกมก็ยังไม่ได้เฉลยให้กระจ่างทั้งหมด จึงน่าลุ้นว่าอาจจะมีภาคต่อไปให้แฟน ๆ ได้คอยติดตาม
8. SOMA
SOMA เป็นเกมแนวสยองขวัญไซไฟจากค่าย Frictional Games ผู้สร้างเกม Amnesia ที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเนื้อเรื่องแฝงไปด้วยปรัชญาที่ลึกซึ้ง จนผู้เล่นต้องทั้งหลอนไปด้วย ทั้งตั้งคำถามกับการมีอยู่ของตัวเองไปด้วย แถมยังไม่มีอาวุธใด ๆ ให้ผู้เล่น นอกจากขาให้วิ่ง
เรื่องราวเริ่มต้นปี 2015 เมื่อ Simon Jarrett ตัวเอกของเรื่อง รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงในสมองและเลือดออกในกะโหลกศีรษะ Simon Jarrett จึงตกลงที่จะเข้ารับการสแกนสมองในการทดลองภายใต้การควบคุมของ David Munshi นักศึกษาปริญญาโท
ในระหว่างการสแกนสมอง Simon Jarrett สลบไปและฟื้นขึ้นมาบนศูนย์วิจัยเรือดำน้ำที่ถูกทิ้งร้าง ที่ซึ่งเขาพบตัวละครมากมายระหว่างการเดินทาง ทั้งหญิงสาวที่บอกว่า เขาตื่นขึ้นในปี 2104 หนึ่งปีหลังจากดาวหางทำลายโลก และยังมีหุ่นยนต์ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นมนุษย์ รวมถึงมนุษย์กลายพันธุ์ ดูจากตัวละครต่าง ๆ แล้วบอกได้เลยว่า คอหนังไซไฟไม่ควรพลาด
9. This War of Mine
This War of Mine เป็นเกมสงคราม ที่ไม่เหมือนเกมสงครามทั่วไป หรือจะพูดอีกอย่างคือไม่เหมือนเกมทั่วไปเลยด้วยซ้ำ
เกมแนวสงครามเอาชีวิตรอดนี้ ถูกพัฒนาและเผยแพร่โดย 11 bit studios บริษัท พัฒนาเกมสัญชาติโปแลนด์ เกมนี้ต่างจากวิดีโอเกมแนวสงครามส่วนใหญ่เพราะมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของพลเรือนในสงคราม มากกว่าการสู้รบของทหาร และเกมนี้ ไม่มี Happy Ending
ตัวละครต้องเอาชีวิตรอดจากอันตรายในชีวิตประจำวัน โดยเนื้อเรื่องมีตอนจบที่หลากหลายสำหรับตัวละครแต่ละตัว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นในสถานการณ์ที่แสนจะโหดหินและบีบคั้นหัวใจของฉากต่าง ๆ ในเกม
กล่าวคือ ผู้เล่นจะต้องมีการตัดสินใจทางศีลธรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่าง หากเลือกที่จะมีสิ่งหนึ่ง ก็ต้องยอมเสียสละอีกสิ่งหนึ่งไป
สำหรับเกมทั่วไป ผู้เล่นเพียงแค่ใช้ความพยายามก็ไขปริศนาได้หรือฝึกฝนทักษะการเล่นก็ "ชนะ" ได้แล้ว แต่ความสมจริงของสถานการณ์ต่าง ๆ ของ This War of Mine ได้เปลี่ยนนิยามของคำว่า "ชนะ" แบบเดิม ๆ ไปเลย โดยเกมนี้สะท้อนถึงโลกความเป็นจริงที่โหดร้ายในสงครามที่ดูเหมือนไม่เคยมีใคร "ชนะ" อย่างมีความสุข และไม่มี Happy Ending อย่างแท้จริง
10. Outlast
Outlast คือเกมสยองขวัญในมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่พัฒนาและเผยแพร่โดย Red Barrels ค่ายเกมสุดอินตี้ ในปี 2014
Outlast ภาคแรกเป็นเรื่องราวของนักข่าวสืบสวนอิสระนามว่า Miles Upshur ผู้ตัดสินใจเดินทางไปตรวจสอบโรงพยาบาลจิตเวชที่ห่างไกลชื่อ Mount Massive Asylum ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกในรัฐโคโลราโด เพราะเธอได้รับอีเมลแจ้งข่าวว่ามีการทดลองที่ไร้มนุษยธรรมเกิดขึ้นที่นั่น
โดยต่อมาในปี 2017 ทางค่ายเกมได้มีการปล่อย Outlast 2 ออกมา ซึ่งในภาคนี้จะมีธีมเกี่ยวกับหมู่บ้านลัทธิบูชาปีศาจ และกลุ่มคนที่คลั่งศาสนาอย่างสุดโต่ง โดยภาคนี้แม้จะเปลี่ยนรสชาติความหลอน แต่ยังคงเสน่ห์รูปแบบเดิม ๆ ของเกมไว้
Outlast เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องใช้ความมืดให้เป็นประโยชน์ โดยเกมใช้แสงและเงาในการกดดันผู้เล่นได้เป็นอย่างดีทั้งสองภาค และยังโดดเด่นด้วยการให้ความสามารถในการควบคุมท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวละครได้อย่างสมจริง
เรื่องโดย พิมพ์พันธุ์ จันทร์แดง
โฆษณา