14 ก.ย. 2020 เวลา 00:30 • ครอบครัว & เด็ก
เรียน ๆ เล่น ๆ ทำไมเก่งกันยกชั้น?
การเรียนการสอนในแบบต่างประเทศในหลาย ๆ ประเทศมักจะให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันสมวัยและต้องสอนเด็ก ๆ ให้เรียนรู้ทุกวิชาให้ได้ตามมาตรฐานสากลและตามมาตรฐานที่กระทรวงการศึกษาในแต่ละประเทศกำหนดไว้...เขาทำยังไงกัน....วันนี้แอดจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ที่ฮอล์แลนด์ตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นประถมจะให้เด็ก ๆ ได้ทั้งเรียนและเล่นกันตามแต่ละวัยเพราะเวลาไม่เคยย้อนกลับค่ะ เด็ก ๆ จึงควรจะได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กกันอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่การบ้านจะมามีก็ตอนป.4 ค่ะ สัปดาห์ละครั้งเช่นให้วันศุกร์จะส่งอีกทีก็ภายในวันพฤหัสบดีหน้าค่ะ
หลังเลิกเรียนเด็ก ๆ ก็ได้เล่นกันตามปกติ ไปบ้านเพื่อนคนโน้นที คนนี้ที ถึงเวลาพ่อแม่ก็ขี่จักรยานไปรับหรือหากโตแล้วเด็ก ๆ ก็ปั่นจักรยานกลับมาบ้านเองค่ะ
วิธีการเรียนการสอนที่นี่จะเน้นทั้งด้าน EQ และ IQ ไปพร้อม ๆ กันค่ะ แต่จะค่อยเป็นค่อยไปตามแต่ละวัย เรียกง่าย ๆ คือไม่เร่งจนเกินไปเพราะเมื่อเด็กพร้อมที่จะเรียนรู้ เด็ก ๆ จะเรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนุกและเข้าใจถึงเนื้อหาต่าง ๆ ไปอย่างเป็นธรรมชาติและจดจำได้แม่นยำค่ะ
ที่นี่ในการเรียนการสอนในทุกเรื่องจะแทรกเรื่องคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ประวัติศาสตร์ ภาษา การสื่อสาร ศิลปะด้านต่าง ๆ ลงไปด้วยค่ะ ส่วนด้านกีฬามรสัปดาห์ละครั้งโดยจะมีการสอนผสมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างเช่น ฟุตบอล ปิงปอง ยิมนาสติก โยคะ ปาเป้า กระโดดไกล ยูโด คาราเต้ เป็นต้น เด็ก ๆ เรียนฟรีค่ะ ใช้งบส่วนกลางของโรงเรียนซึ่งก็มาจากค่าบำรุงการศึกษานั่นเอง ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ค่ะ
แต่เอาเข้าจริง ๆ โรงเรียนก็แทบจะไม่ได้จ่ายเพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในการสอนกีฬานั้น ๆ หรือการทำกิจกรรมเสริมความรู้เรื่องอื่น ๆ มาสอนให้ฟรีค่ะ ถือว่าเป็นการช่วยเพื่อส่วนรวม เพื่อการพัฒนาเด็ก ๆ รวมถึงลูกหลานของตัวเองที่เรียนในโรงเรียนนั้นด้วยค่ะ
การเรียนการสอนในทุก ๆ วิชาจะฝึกให้เด็กกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด กล้าตัดสินใจ ส่วนครูจะสรุปและแนะนำหากมีอะไรต้องแก้ไขนักเรียนในตอนท้ายค่ะ สอนวิชาไหนก็ทำแบบฝึกหัดในชั่วโมงนั้นเลย หากใครไม่เข้าใจจะถามครูหรือให้เพื่อนที่นั่งใกล้ ๆ กันสอนก็ได้ค่ะครูไม่ว่า ใครทำเสร็จก่อนในบางครั้งครูก็อนุญาติให้ไปเล่นเกมส์ในคอมพิวเตอร์รอเพื่อน ๆ ได้ค่ะ
เด็กอนุบาลจนถึง ป. 3 จะเรียนวันพุธและวันศุกร์ครึ่งวันค่ะ ส่วนเด็ก ป.4 - ป.6 เรียนวันพุธครึ่งวันค่ะ ส่วนหลังเลิกเรียนในแต่ละวันเด็กเล็กมักจะไปเล่นตามบ้านเพื่อนแต่เด็กโตนอกจากจะไปเล่นกับเพื่อนแล้ว...จะมีบางวันไปเล่นกีฬาหรือเล่นดนตรีด้วยค่ะ
ถ้าถามว่าทำไมเด็ก ๆ เรียนเก่งกันยกชั้น เรียนดีกันยกประเทศและมีความรู้แทบจะเทียบเท่าเสมอกัน เป็นเพราะว่า....
1. ครูทำการสอนมาดี ทำให้เด็ก ๆ เข้าใจง่าย สนุก เกิดการกระตุ้นให้เด็ก ๆ อยากรู้อยากเห็น กล้าซักถามรวมถึงครูมีวิธีการในการตอบ เทคนิคในการแนะนำที่ดีและมีเมตตาค่ะ
2. เรียนเรื่องไหนก็ทำแบบฝึกหัดในห้องเรียนเรื่องนั้นเลยค่ะ เด็กไม่เข้าใจก็จะได้ถามได้ทันที ส่วนครูก็จะได้รู้ว่าควรปรับปรุงการสอนอย่างไรเพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการพัฒนาการสอนของตนเอง พอเด็ก ๆ ทำเสร็จก็ไม่ต้องมีการบ้าน...หลังเลิกเรียนก็จะได้ไปเล่นตามวัยของตนเอง
3. ไม่มีการเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนี่งที่ทำให้นักเรียนไม่มีความรู้ที่เลื่อมล้ำกัน เด็ก ๆ จะมีความรู้เท่า ๆ กันจากการเรียนการสอนในโรงเรียน....โดยที่ระดับความรู้ความสามารถของเด็ก ๆ จะต้องอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยมาตรฐานโดยรวมของประเทศตามที่รัฐกำหนด. ตามมาตรฐานสากลและในบางโรงเรียนจะมีค่าเฉลี่ยของโรงเรียนตัวเองด้วย เนื่องจากบางโรงเรียนมีการสอนเสริมความรู้ด้านต่าง ๆ มากขึ้นกว่าทางมาตรฐานที่ทางกระทรวงศึกษาตั้งไว้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการสอบจะเน้นวัดผลตามที่กระทรวงกำหนดค่ะ ส่วนโรงเรียนไหนจะสอนอะไรเสริมเพิ่มเติมก็เรื่องของโรงเรียนนั้นค่ะ (โรงเรียนและครูต้องรับผิดชอบในการสอนการเรียนในทุก ๆ วิชาทุก ๆ เรื่องให้เด็ก ๆ เข้าใจและปฏิบัติได้อย่างถูกต้องค่ะ .....งานนี้ได้ใจผู้ปกครองเต็ม ๆ )
แต่ว่าในบางครั้งเด็ก ๆ อาจจะมีความรู้บางอย่างที่มากน้อยต่างกันค่ะ...โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เด็ก ๆ ชอบและสนใจเป็นพิเศษ เช่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดาราศาสตร์ สัตว์โลก ดนตรี ฟุตบอล พลังงานสีเขียว การอนุลักษณ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้นค่ะ อันนี้อยู่นอกเหนือจากที่โรงเรียนสอนต้องถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของเด็ก ๆ เขาล่ะค่ะ
ส่วนคุณพ่อคุณแม่จะสอนอะไรลูก ๆ พิเศษเพิ่มเติมหรือให้ลูกไปเรียนอะไรที่ลูกชอบเพิ่มเติมก็ไม่ผิดกติกานะคะเพราะเป็นการเติมความรู้ให้ลูก....เพียงแต่อย่ากดดันเด็ก อย่าทำให้เด็กอึดอัดจนต้านและไม่มีความสุขกับการเรียนก็เพียงพอค่ะ
4. เด็ก ๆ ได้มีการพ้ฒนาการสมวัย ได้เล่น ได้กิน ได้นอน ไปเรียนก็สนุก เพื่อน ๆ ก็น่ารัก ครูก็ใจดี ทำให้เกิดแรงจูงใจในการอยากจะไปโรงเรียน อยากจะเรียนหนังสือ และที่สำคัญเด็ก ๆ รู้ว่าเรียนแล้วได้อะไร มีประโยชน์อย่างไร เด็ก ๆ เข้าใจซึ่งมีผลต่อการทำให้เด็ก ๆ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ค่ะ
5. ไม่มีการแข่งขันกันในโรงเรียน ที่นี่ไม่มีผลคะแนนสอบว่าใครได้ที่เท่าไร มีแต่ผ่านหรือไม่ผ่าน ส่วนวิชาไหนดีมากดีน้อยจะมีกราฟมาให้ดูหลังสอบเสร็จค่ะ
ทางโรงเรียนหรือครูไม่มีการบอกว่าใครเรียนดีกว่าใครแต่เด็ก ๆ จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเพื่อนคนนั้นเก่งเลข คิดเลขไว...เพื่อนคนนั้นเล่นดนตรีเก่ง เล่นดนตรีได้ไพเราะ....เพื่อนคนโน้นเล่นฟุตบอลเก่งเป็นต้น
ที่นี่ไม่มีใครเก่งกว่าใคร นักเรียนทุกคนเก่งสำหรับคุณครูค่ะ แต่หากใครต้องพัฒนาด้านไหนเพิ่มครูจะสังเกตและหาวิธีการเสริมให้โดยที่เด็กไม่รู้ตัวค่ะ ถ้าหากอันไหนต้องให้ผู้ปกครองช่วยครูก็แจ้งผู้ปกครองให้ทราบ ซึ่งเรื่องนี้เด็กจะไม่รู้ ผู้ปกครองท่านอื่นๆ ก็จะไม่ทราบ บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะไม่ทราบรวมถึงครูที่ไม่เกี่ยวข้องท่านอื่นด้วยนะคะเพราะถือว่าเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของเด็กด้วยค่ะ
เท่าที่แอดเล่าคร่าว ๆ นี่ เพื่อน ๆ พอจะมองภาพออกใช่ไหมคะว่าทำไม เด็กประเทศ Netherlands หรือ ฮอล์แลนด์ ถึงเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลกติด ๆ มาหลายปีซ้อน ส่วนเรื่องความเก่ง ความมีคุณภาพก็ไม่เป็นรองใคร
สิ่งต่าง ๆ เหล่าเกิดจากการคิดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ลงมือทำกันอย่างมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่ภาครัฐไปถึงบุคคลในครอบครัวกันเลยล่ะค่ะ...อย่างนี้จะเรียกได้ว่า.....รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย...อยากพัฒนาเพื่อลูกหลานทั้งหลาย จงรักและอย่าทำลายความสามัคคีจะได้ไหมคะเนี่ย
โฆษณา