14 ก.ย. 2020 เวลา 06:35 • สุขภาพ
ทำไมถึงต้องมี Cheat day...
ในคนที่กำลังทำโปรแกรมไดเอทลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร มักจะมีวันหนึ่งที่ไม่ควบคุมปริมาณอาหารหรือแคลอรี่ ซึ่งเราเรียกวันนั้นว่า cheat day
วันดังกล่าวมีเพื่อเป็นแรงกระตุ้น หรือรางวัลเพียงเท่านั้นหรือเปล่า?
และเราสามารถกินอะไรก็ได้ พิซซ่า ขาหมู เค้ก ตามใจปากเป็นความเชื่อที่ถูกต้องแล้วหรือ?
มารู้จักวิทยาศาสตร์เบื้องหลังของวันดังกล่าวกัน
<a href='https://www.freepik.com/vectors/food'>Food vector created by rawpixel.com - www.freepik.com</a>
การที่เราจำกัดแคลอรี่หรืออาหารเป็นเวลานาน ร่างกายเราจะรับรู้ว่าเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร (starvation)
การตอบสนองของร่างกายนั้นเหมือนกับสัตว์ที่เวลาเผชิญฤดูหนาว นั่นคือการจำศีล (hibernation)
เนื่องจากมีอาหารน้อย ร่างกายจึงต้องลดการใช้พลังงาน หรือลดการเมตาบอลิซึม (metabolism) ของร่างกาย
จะสังเกตได้ว่าการอดอาหาร จะทำให้น้ำหนักลดลงเร็วแค่ช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักก็จะหมดไป
และเมื่อกลับมากินในปริมาณปกติ ก็จะเกิดภาวะน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือที่เราเรียกว่า Yo-yo effect เนื่องจากการเผาผลาญของร่างกายยังคงน้อยกว่าปกติ
Cheat day จึงถูกนำมาใช้ในสูตรไดเอทอาหาร เพื่อคอยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายไม่ให้ลดต่ำลง
แน่นอนว่าในวันดังกล่าวเราไม่ควรจะกินอะไรก็ได้ หรือแคลอรี่เท่าใดก็ได้
ไม่เช่นนั้นการไดเอทก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เช่นบางคนกินพิซซ่า 2-3 ถาดในวันเดียว อาจจะได้แคลอรี่เท่าการกินอาหารปกติมาทั้งอาทิตย์
วัน cheat day เราอาจจะเพียงแค่กินอาหารมากกว่าวันอื่น 500-1,000 แคลอรี่ และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงน้ำตาล และไขมันอิ่มตัวปริมาณสูง
และแน่นอนว่านอกจากเรื่องของการเสริมระบบการเผาผลาญของร่างกาย
วันดังกล่าวยังมีผลในเรื่องจิตใจ เป็นแรงกระตุ้นให้สามารถควบคุมอาหารต่อไปได้
Cheat day ก็เหมือนวันอื่นทั่วไป เพียงแค่ทานได้มากกว่าปกติ และสารอาหารที่ได้รับก็ควรมีประโยชน์ คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน
ไม่ใช่อาหารอะไรก็ได้ เพื่อเป็นการสร้างนิสัยการกินที่ดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดต่อสุขภาพ และการควบคุมน้ำหนักในระยะยาว
โฆษณา