ตราสารหนี้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ให้ผู้ลงทุนใช้ตัดสินใจได้
ผู้ลงทุนในตราสารหนี้จะมีข้อมูลที่ผู้ออกตราสารเปิดเผยตามที่ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อให้ผู้ลงทุนประเมินความเสี่ยงในการลงทุนได้ ซึ่ง 5 ข้อ ควรรู้ก่อนก่อนลงทุน คือ
1. รู้จักผู้ออกหุ้นกู้ : เราจะให้ใครยืมเงิน ควรรู้จักให้ดีว่าทำธุรกิจอะไร มีฐานะอย่างไร อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากหรือไม่
2. รู้จักลักษณะหุ้นกู้ : เป็นหุ้นกู้ประเภทไหน หุ้นกู้มีประกันหรือไม่มีประกัน ด้อยสิทธิหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับลำดับที่จะได้รับเงินคืนเมื่อบริษัทเลิกกิจการ จ่ายดอกเบี้ยอย่างไรเหมาะกับความต้องการเราไหม เช่น แบบจ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดเป็นงวด ๆ แบบสะสมดอกเบี้ยไว้จ่ายครั้งเดียวพร้อมคืนเงินต้น หรือแบบทยอยคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยระหว่างทาง หรือมีเงื่อนไขพิเศษหรือไม่ เช่น ผู้กู้สามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้
3. รู้ความเสี่ยงของหุ้นกู้ : ความเสี่ยงหลัก ๆ คือ ความเสี่ยงในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งดูได้จากอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ credit rating แบ่งเป็น (1) กลุ่มหุ้นกู้ระดับลงทุนได้ (investment grade) หรือน่าลงทุน มีความน่าเชื่อถือสูงสุดและมีความเสี่ยงต่ำสุด กับ (2) กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง (non-investment grade) เป็นกลุ่มหุ้นกู้ที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูง จึงมักให้ผลตอบแทนสูงจูงใจผู้ลงทุน นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในการเปลี่ยนมือ ที่ผู้ลงทุนอาจขายไม่ได้ราคาตามที่ตั้งใจ ถ้าหุ้นกู้ไม่มีสภาพคล่อง
4. รู้อายุของหุ้นกู้ ควรเลือกหุ้นกู้ที่มีอายุสอดคล้องกับกำหนดการใช้เงินของเรา เช่น หากจะลงทุนในหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ บริษัทไม่จ่ายคืนเงินต้นเลย เราจะได้รับแค่ดอกเบี้ย ส่วนเงินต้นที่ลงทุนในหุ้นกู้ประเภทนี้จะไม่ได้รับคืน สามารถส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้
5. รู้ว่าหุ้นกู้มีความเสี่ยงอะไรบ้าง แล้วจึงประเมินว่าคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่จะได้รับหรือไม่ หุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่สูง มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง จึงอย่ามองแต่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว