17 ก.ย. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“แคทเทอรีน ฮาเวิร์ด (Catherine Howard)” อีกหนึ่งหญิงผู้มีจุดจบอนาถจาก “พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII)”
ผมได้เคยเขียนเรื่องของ “พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII)” รวมทั้งเรื่องของผู้หญิงแต่ละคนของพระองค์ ซึ่งล้วนแต่จบไม่สวยทั้งนั้น
“แคทเทอรีน ฮาเวิร์ด (Catherine Howard)” คือหนึ่งในนั้น
ฮาเวิร์ดเกิดในปีค.ศ.1524 (พ.ศ.2068) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เริ่มจะยุติความสัมพันธ์กับ “พระนางแคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)” มเหสีของพระองค์ และเริ่มจะมีความสัมพันธ์กับ “แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)”
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII)
พระนางแคทเทอรีนแห่งอารากอน (Catherine of Aragon)
แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn)
ฮาเวิร์ดมาจากครอบครัวที่ทรงอำนาจ หากแต่ชีวิตในวัยเด็กของเธอก็ไม่ดีนัก เนื่องจากพ่อของเธอติดหนี้เป็นจำนวนมาก และได้ส่งเธอไปให้ย่าเป็นคนเลี้ยง
ฮาเวิร์ดนั้นถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ยังเด็ก ขณะมีอายุได้เพียง 13 ปี เธอก็ถูกครูสอนเปียโนที่ชื่อ “เฮนรี่ แมน็อกซ์ (Henry Manox)” ล่วงละเมิด
ในขณะเดียวกัน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่กำลังหลงไหลในตัวแอนน์ โบลีน ก็ได้กล่าวอ้างว่าพระนางแคทเทอรีนนั้นไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์ และได้โกหกมาโดยตลอด และพระองค์ทรงต้องการจะแต่งงานกับโบลีน
ในราวค.ศ.1538 (พ.ศ.2081) ฮาเวิร์ดได้มีสัมพันธ์กับขุนนางที่ชื่อ “ฟรานซิส เดียร์แฮม (Francis Dereham)” ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว
ฟรานซิส เดียร์แฮม (Francis Dereham)
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จบลงเมื่อเดียร์แฮมย้ายไปไอร์แลนด์ ส่วนฮาเวิร์ดก็ได้เข้าไปทำงานในราชสำนัก เนื่องจากลุงของเธอได้ฝากฝังให้เธอได้เป็นนางสนองพระโอษฐ์ รับใช้ “พระนางแอนน์แห่งคลีฟส์ (Anne of Cleves)”
พระนางแอนน์แห่งคลีฟส์ (Anne of Cleves)
ในช่วงเวลาที่ฮาเวิร์ดเข้ามาเป็นนางสนองพระโอษฐ์ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ได้ทรงเบื่อแอนน์ โบลีน และได้กล่าวหาว่าโบลีนมีชู้และเป็นกบฎ ให้ตัดหัว จากนั้น มเหสีคนที่สาม “เจน ซีมัวร์ (Jane Seymour)” ก็ได้ให้กำเนิดพระราชโอรส หากแต่อยู่ไม่นานก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 จึงรับพระนางแอนน์แห่งคลีฟส์เป็นมเหสี
แต่ไม่นาน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ทรงเบื่อพระนางแอนน์อีกเช่นกัน หากแต่พระนางแอนน์ก็ได้หนีไปก่อนจะถูกประหาร
ในเวลานี้ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เริ่มทอดพระเนตรและพอพระทัยในฮาเวิร์ด และได้รับฮาเวิร์ดเป็นมเหสีในปีค.ศ.1540 (พ.ศ.2083)
ในช่วงแรก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ต่อมา ฮาเวิร์ดได้รับเดียร์แฮม ซึ่งตนเคยมีสัมพันธ์ด้วย เข้ามาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนก็กล่าวว่าที่เป็นอย่างนี้ เพราะเดียร์แฮมข่มขู่จะแฉ หากฮาเวิร์ดไม่สนับสนุนตน
ต่อมา ได้มีผู้ใหญ่ในคริสตจักรโปรเตสแตนท์กล่าวหาว่าฮาเวิร์ดนั้นมีชู้
เป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นแผนการทำลายฮาเวิร์ด เนื่องจากฮาเวิร์ดนั้นเป็นคาทอลิก ทำให้ผู้ใหญ่ในคริสตจักรโปรเตสแตนท์ไม่ยอมรับ
เมื่อการสอบสวนดำเนินไป ได้มีการจับตัวทั้งแมน็อกซ์และเดียร์แฮมมาสอบสวน และเมื่อทั้งคู่รับสารภาพ ทั้งคู่จึงถูกคุมขังและทรมาน
จากการสอบสวนนั้น ทำให้ทราบว่าฮาเวิร์ดได้มีสัมพันธ์กับหนึ่งในขุนนางของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อีกคนหนึ่ง นั่นคือ “โทมัส คัลเปเปอร์ (Thomas Culpeper)”
หากแต่เรื่องนี้ก็ยังไม่แน่ชัด แต่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่กำลังทรงกริ้วหนัก ได้มีรับสั่งให้ประหารทั้งหมด มีเพียงแมน็อกซ์ที่หนีไปได้ทัน ส่วนฮาเวิร์ดและคัลเปเปอร์ถูกตัดหัว ส่วนเดียร์แฮมนั้นถูกทรมานหนัก ทั้งถูกจับห้อยหัวและทรมานสารพัด ก่อนที่จะนำไปตัดหัว
ฮาเวิร์ดถูกประหารในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1542 (พ.ศ.2085) ขณะมีอายุ 19 ปี
ปิดฉากชีวิตหญิงอีกคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
โฆษณา