18 ก.ย. 2020 เวลา 05:25 • นิยาย เรื่องสั้น
ชีวิตเราเจอแต่คนไม่ดี หรือว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
นิทานปรัมปราของชายตาบอด เด็กชายผู้เดินทางไปต่างเมือง
กาลครั้งหนึ่วนานมาแล้ว เด็กชายคนหนึ่งอยากออกเดินทางจากหมู่บ้านเพื่อไปผจญภัย เผชิญโลกกว้าง อยากเห็นและเรียนรู้สึกต่างๆ ใหม่ๆ
พ่อผู้ใจดีก็ไม่ได้มีใจห่วงลูกเล้ยยย
เปล่าๆ คือใจดีนั่นล่ะ และอยากให้ลูกชายได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตด้วย
นอกจากไม่ห้ามยังให้ถุงทองมาถุงหนึ่งพร้อมกับบอกว่า
"ถ้าไม่ไหวก็ให้เดินทางกลับมา
ถ้ากลับมาไม่ได้ ก็หาทางเอาตัวรอดเองนะลูก
สมัยนี้มันยังไม่มีโทรศัพท์ อีเมล์ก็ไม่มี คนส่งจดหมายก็ใช้ไม่ได้ ถ้าออกไปก็ตัวใครตัวมันนะ"
แม้คุณพ่อจะดูเกรียนๆ แต่ก็เป็นห่วงลูกชายอย่่างจริงจัง จึงบอกให้ระวังตัวและเดินทางไปที่หมู่บ้านถัดไปดูก่อน ซึ่งไม่ไกลนัก
เดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึง ขี่จักรยานก็เร็วหน่อย วาร์ปไปก็แป๊ปเดียว แต่พ่อไม่มีตั๋ว
เอาล่ะ ตัดประโยคไร้สาระทิ้งซะเนื้อเรื่องก็จะสั้นลงและหดความเกรียนไปมาก
เด็กชายเริ่มเดินทางออกจากหมู่บ้าน โดยไม่สนใจคำแนะนำของพ่อ เขาบิดฮาเล่ย์ของสาวข้างบ้าน ไปถึงหมู่บ้านถัดไปในเวลาไม่ถึงช.ม.
ที่หน้าประตู เจอลุงคนหนึ่งหน้าตาถมึงทึง จึงร้องตะโกนทักไป
ไม่รู้เสียงมอเตอร์ไซค์มันดังไปหรือแกไม่สนใจ ลุงแกเงียบไม่ไหวติง
เด็กชายดับเครื่องจอดรถหลบข้างๆ ประตูหมู่บ้านพร้อมล็อครถด้วยโซ่แส้กุญแจมือ แล้วเดินไปทักลุง
ลุงก็เหลือบตามองหน่อยๆ ด้วยหน้าบึ้งๆ ปากเหี่ยวๆ แล้วหันกลับไปทางเดิม ใช้ชีวิตเยี่ยงวิถียามเฝ้าหมู่บ้านทั่วไปต่อไป
"อ่า ไม่พูดด้วยก็ช่างเถอะ" เด็กชายคิดดังนั้นและเดินเข้าประตูหมู่บ้านไป
ขณะที่เดินโต๋เต๋ก็มีคนทักด้วยสำเนียงยี่เกชวนเขาให้มาเหล่ซื้อของกินมากมายสารพัดในร้าน
วาจาคารมเสวนาสนุกสนาน ฟังแล้วเพลินอุรารู้ตัวอีกทีก็ซื้อของเต็มตะกร้าอนิจจาทองหายไปเกือบครึ่งถุง
กว่าจะรู้ตัวว่าช๊อปมาเสียเยอะก็ตอนที่บอกร่ำราเจ้าของร้านเสียแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นเงินค่าความมันฟังทอล์คโชว์ก็พอได้
เขาเดินต่ามอ (ต่อมา) จนมาเจอหญิงชราแต่งเสื้อผ้าซ่อมซ่อวอนขอสตางค์ไว้กินข้าว
ด้วยความสงสารและอาหารมากมีที่ซื้อมาจากพ่อค้าคนนั้น จึงแบ่งให้หญิงชรา
เธออึ้งไปนิดและจับมือขอบคุณและอวยพรสารพัดยาวเหยียดจนขี้เกียจจะฟัง
พอรู้สึกอิ่มใจจัง ตังไม่เสีย (เพราะจ่ายไปเยอะ) เด็กชายก็เดินจากมา แล้วพบว่า...
กระเป๋าสตางค์หาย เอ้ย ถุงทองหาย
พอหันซ้ายหันขวาเห็นหญิงชราเอาอาหารไปทิ้งแล้วไปนั่งนิ่งๆ พนมมือ รอขอตังต่อไป
พอเด็กชายนึกแล้วก็เกิดหมั่นไส้เตรียมถกแขนเสื้อโชว์ขนจักแร้แพลมๆ จะเดินเข้าหายาย แต่แล้ว...
มีเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งดึงกางเกงไว้จนแทบหลุด จนสะดุดหน้าคะมำกับพื้น
พอจะยืนพร้อมจะหันไปด่าเธอก็พูดว่า...
"ถุงทองนี้ของพี่หรือเปล่าคะ"
"อ่อสรุปนี้เราทำตกและหัวร้อน เกือบไปต่อยคนแก่แล้วสิ" เด็กชายคิดในใจและขอบคุณเด็กหญิง แต่ก็ไม่วายระแวงเปิดถุงนับทอง
เธอก็ยิ้มไม่ว่าอะไรรอจนเขานับเสร็จ
เด็กชายหันมาพบกับตาบ๊องแบ๊ว ยังไม่ทันจะกล่าวคำถัดไป เสียงประหลาดบางอย่างก็ดังขึ้น...
จากหน้าท้องเรียวบางของเธอ
เด็กชายจึงหยิบอาหารที่มีมากมายให้เธอ เธอรับมายิ้ม แล้วบอกว่า...
"ขอเพิ่มได้ไหมคะ" เอ้า กล้าถามก็กล้าให้ ยังไงก็กินไม่ทัน
เขาจึงเอาอาหารที่มีอีกให้เธอเพราะว่า...
กำจัดความหนัก 😂
เธอยิ้ม ขอบคุณ เดินจากไป และในเวลาไม่นานก็มีเด็กเล็กๆ อีกสองสามคน และหมาแมวอีกนิดนึงมาสมทบกับเธอ
"คนเรานี่ก็หลากหลายจริงนะ"
คิดได้ดังนั้นเด็กชายก็เดินทางกลับหมู่บ้านของตน
อ้าว ตกลงยอมกลับแล้วไม่ผจญภัย ก็ไม่รู้สินะครับ แต่ที่แน่ๆ เขาก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง
นั่นคือ คนมากมายปฏิบัติตนกับผู้อื่นไม่เหมือนกัน
ซึ่งมันบอกไม่ได้เลยว่าเราปฏิบัติตัวกับเขาไม่ดีหรือเปล่า
บางทีเราทำดี เขาไม่ดี
บางทีเฉยๆ เขาก็ทำดีกับเรา
บางครั้งเราเฉยๆ เขาก็ทำร้าย
1
ฉะนั้นจะคบใครหรือทำอะไร ก็ระวังดูความเหมาะสมไว้บ้าง
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมากเกินไป
เพราะมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราเพียงฝ่ายเดียวสักหน่อย
มันต้องพอดีๆ กัน ถึงจะโอเค
เนอะ
Martin Zen
โฆษณา