24 ก.ย. 2020 เวลา 14:49 • การศึกษา
☄️ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านเอง☄️ ตอนที่ 3
☀️"เณรน้อย อคาเดมี่ "☀️
พลายแก้ว ทำไมถึงมีคำว่า พลาย นำหน้า ?
ขุนไกรพ่อของพลายแก้วเป็นคนที่มีเชื้อสายมอญค่ะ พลายในภาษามอญแปลว่า หนุ่ม หรือผู้ชายที่แข็งแรง จึงไม่แปลกที่พ่อจะตั้งคำนำหน้าชื่อลูกชายว่า พลาย
ขุนไกรเป็นข้าราชการมอญ ก็คงจะสังกัดกรมอาทมาต คือ หน่วยสืบราชการลับ รวบรวมข้อมูลจากสายลับ นักสืบที่ด้อมๆอยู่ตามแนวชายแดนที่ติดกับพม่า มีไพร่พลในสังกัดถึง 700 นาย
" ☀️เป็นทหารชาญชัยใจฉกรรจ์
คุมไพร่ทั้งนั้นได้เจ็ดร้อย
อาจองคงกระพันชาตรี
เข้าไหนไม่มีทีจะถอย
รบศึกศัตรูอยู่กับรอย
ถึงมากน้อยเท่าไรไม่หนีมา"☀️
🎈พลายแก้วได้เห็นพ่อเก่งกล้าสามารถ เห็นว่า พ่อเป็น “ไอดอล” อยากจะเป็นทหารที่เก่งเหมือนพ่อ สืบสกุลมอญที่เป็นทหารต่อเนื่องกันมา แต่พ่อกลับถูกประหารชีวิต เป็นเหตุให้แม่ต้องพาพลายแก้วระเห็จมาถึงกาญจนบุรี
พลายแก้วจึงมีทั้งแรงจูงใจ และแรงผลักดัน ให้อยากเรียนรู้วิชา เพื่อเป็นทหารกล้า กอบกู้ชื่อเสียงพ่อขึ้นมาให้ได้
พลายแก้วจึงบอกกับแม่เองว่าอยากเรียน
🌿"จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว
เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่ในกาญจน์บุรี
กับนางทองประศรีผู้มารดา
อยู่มาจนเจ้าเจริญวัย
อายุนั้นได้ถึงสิบห้า
ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา
แต่นึกนึกตรึกตรามากว่าปี
อยากจะเป็นทหารชาญชัย
ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
จึงอ้อนวอนมารดาได้ปรานี
ลูกนี้จะใคร่รู้วิชาการ
พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี
แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
ให้เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์
อธิษฐานบวชลูกเป็นเณรไว้ 🌿"
ในสมัยก่อนไม่มีโรงเรียน เด็กผู้ชายก็ต้องบวชเป็นเณรเข้าไปศึกษาหาวิชาความรู้ ในวัด ขอเรียกว่า เข้า "☀️เณรน้อย อคาเดมี่ ☀️"นะคะ วัดไหนสมภารเก่งด้านไหนก็ไปขอบวชเรียนที่นั่น
นางทองประศรี พาพลายแก้วไปบวชเณรที่วัดส้มใหญ่
๏ 🌿ครานั้นทองประศรีผู้มารดา
ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน
ท่านขรัววัดส้มใหญ่แลดีครัน
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา
แม่จะพาไปฝากขรัวบุญนั่น
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน
ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร”🌿
เณรแก้วมีความเฉลียวฉลาด เรียนทั้งอักขระไทย อักขระขอม เพื่อจะได้อ่านคาถาอาคมท่องจำให้ขึ้นใจ เรียนได้ไม่ถึงปี ขรัววัดส้มใหญ่บอกว่า สอนจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ให้ไปต่อที่อาจารย์อื่น แนะนำให้ไปที่วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณ
ขรัวมีที่วัดป่าเลไลยก์ก็รับไว้แล้วบอกว่า
🌿"สมภารจึงว่าอย่าร้อนใจ
ไม่ฟังสอนเลี้ยงได้ฤๅยายโหวย
แต่ทว่าข้าก็ไม่ใคร่ทำโพย
จะสั่งสอนไปโดยปัญญามัน
ถ้าเด็กดีเด็กก็มีแต่คนชม
ชั่วแล้วเขาก็ถมผู้ใหญ่นั่น
เพื่อนก็เป็นเชื้อผู้ดีมีเผ่าพันธุ์
จะผ่าเหล่าเสียนั้นเห็นผิดไป"🌿
นี่คือ การเรียนตามความชอบ ความสามารถ ของผู้เรียนโดยแท้!
ขรัวมีท่านทันสมัย สอนแบบ " 🎈ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง" 🎈ไม่ต้องมีโพย ไม่มีหลักสูตรอะไรตายตัวทั้งนั้น จัดให้ตามสติปัญญาของเด็ก แต่ละคนรับได้มากน้อยต่างกัน
เณรแก้วเรียนได้ไวมาก หัดเพียง3 เดือนก็เทศน์มหาชาติได้ เสียงก็มีเสน่ห์ ขึ้นเทศน์ครั้งใดชาวบ้านร้านตลาดแทบคลั่ง
เป็นสมัยนี้ก็เปรียบกับ นักร้องที่มีแฟนคลับคอยติดตามกรี๊ดอยู่หน้าเวทีอย่างนั้นเลยค่ะ
ต่อจากเรียนเทศน์เรียนธรรมะสวดมนต์ก็ต่อด้วย ตำราพิชัยสงคราม จับฤกษ์ยาม ล่องหน อยู่ยงคงกระพัน
และที่สำคัญ คือ เรียน "เสกเป่าเป็นเจ้าชู้ ผูกจิตหญิงอยู่ไม่เคลื่อนคลาย" ท่านอาจารย์ก็บอกว่า อย่าได้ไปทำร้ายเมียคนอื่น แต่ "สาวแก่แม่หม้ายเอาเถิดวา"
อ่านแล้วก็ค่อนข้างงงอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าวิชาแบบนี้มีสอนกันในวัดด้วยหรือ? คิดว่า ก็คงจะเหมือนเป็นสำนักวิชา แต่เผอิญว่ามาตั้งอยู่ในวัด อาจารย์เจ้าสำนักถนัดวิชาอะไรก็สอนได้หมด ไม่มีใครมาคอยกำกับดูแล ก็เลยมีวิชา เสกเป่าเป็นเจ้าชู้ ซึ่งเณรแก้วของเราก็คงจะสอบได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งแน่ๆเลยค่ะ
เรามาดูกันต่อว่า เณรแก้วจะได้ใช้วิชาดังกล่าวนี้อย่างไรบ้างนะคะ😀
เมื่อถึงงานวันสงกรานต์ ที่วัดมีการทำบุญ สวดมนต์ ถวายข้าวปลาอาหารให้พระและเณรซึ่งนั่งเรียงกันไปเป็นแถว
พิมพิลาไลยก็มาวัดพร้อมแม่ เดินตักอาหารถวายพระจนมาถึงเณรแก้ว ก็ตะหงิดตะหงิดว่าเคยรู้จักกันไหมหนอ หน้าตาคุ้นๆ นางก็เลยตักอาหารให้เณรแก้วทัพพีโตๆ จนล้นกินคนเดียวไม่หมด
“เณรแก้วก้มหน้าไม่ทันรู้
เห็นของมากเงยดูก็ตาแข็ง
ปะหน้าสีกาพิมยิ้มตะแคง
สีกานี้มิแกล้งข้าฤๅไร
ตักบาตรเหลือล้นจนโอสิ้น
จะรู้ที่เปิบกินกะไรได้”
1
ก็เลยได้สนทนากันเล็กน้อย แต่ใจเณรเต้นไม่เป็นจังหวะเลยล่ะค่ะ
"เณรใจบึกๆ นึกเป็นครู่
เหมือนเคยเล่นกับกูกูจำได้
ชื่อว่าสีกาพิมพิลาไลย
สาวขึ้นสวยกะไรเพียงบาดตา"
❣️เรียกว่าปิ๊งกันตั้งแต่แรกสบตาเลยค่ะ❣️
ต่อมาในวันสารทเดือนสิบ ที่จะมีการเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ มีเจ้าภาพรับแต่ละกัณฑ์ไป บ้านขุนช้างรับกัณฑ์กุมาร ส่วนบ้านพิมพิลาไลยรับกัณฑ์มัทรี พอใกล้ถึงเวลา พิมพิลาไลยก็แต่งตัวสวยเดินไปวัดป่าเลไลยก์
🌸"ครานั้นนางพิมพิลาไลย
ว่าจวนกัณฑ์เราไปเถิดแม่ขา
แล้วก็ลุกไปพลันมิทันช้า
อาบน้ำผลัดผ้าด้วยฉับพลัน
จึงเอาขมิ้นมารินทา
ลูบทั่วกายาขมีขมัน
ทาแป้งแต่งไรใส่น้ำมัน
ผัดหน้าเฉิดฉันดังนวลแตง
เอาซี่สีฟันเป็นมันขลับ
กระจกส่องเงาวับดูจับแสง
นุ่งยกลายกระหนกพื้นแดง
ก้านแย่งทองระยับจับตาพราย
ชั้นในห่มสไบชมพูนิ่ม
สีทับทิมทับนอกดูเฉิดฉาย
ริ้วทองกรองดอกพรรณราย
ชายเห็นเป็นที่เจริญใจ”🌸
🚩ไว้ต่อตอนที่ 4 พรุ่งนี้ จำสีสไบที่พิมแต่งไว้ให้ดีๆนะคะ🚩

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา