24 ก.ย. 2020 เวลา 15:53 • ข่าว
ทำไมคนกรุงเทพฯ ถึงต้องจมอยู่กับปัญหาน้ำท่วม
ฝนตก ยังคงเป็นฝันร้ายของคนกรุงเทพฯ เพราะหากฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง นั่นหมายถึง น้ำจะท่วมขัง รถจะหยุดนิ่งเข้าขั้นวิกฤตทันที ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ดูจะสอบตกไปกันแทบทุกคน แต่ก็น่าคิดว่า แล้วทำไมคนกรุงเทพฯ ถึงต้องยอมจมอยู่กับปัญหานี้
ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯไม่ได้เกิดจากน้ำเหนือหลากเข้าท่วมเหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 แต่ในฤดูฝน ฝนที่ตกลงมากเกินกว่าที่กรุงเทพฯ รับได้ 60 มม./ชม.
ทำให้ กทม.มีน้ำท่วมขังเพราะน้ำต้องรอการระบายจากถนนเดินทางไปไม่ถึงอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ
ขณะที่ปัญหาขยะหน้าอุโมงค์ระบายน้ำซึ่งมีมากมายหลายประเภท ทั้งซากทีวีเก่า โซฟารับแขก ยางล้อรถยนต์ ท่อนไม้ ฝาผนังบ้าน รวมถึงที่นอนเก่า โดยขยะเหล่านี้มาจากคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าวซึ่งลอยมาติดหน้าอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เป็นปกติแทบทุกวัน ทั้งหมดนี้ ยังไม่นับรวมขยะในครัวเรือน
เจ้าหน้าที่สำนักระบายน้ำต้องใช้เวลาเก็บขยะออกจากอุโมงค์ วันละ 3 ครั้ง โดยต้องมุดดำน้ำเก็บขยะซึ่งต้องอยู่ในน้ำไม่ต่ำกว่าครั้งละ 1 ชม. แต่ขยะวันละ 4- 5 ตันกลับทำให้ทุกอย่างช้าลง
1
กองขยะเศษไม้
ที่ผ่านมาขยะถูกมองว่าเป็น 1 ในสาเหตุทำให้น้ำระบายช้า ไทยพีบีเอสจึงสำรวจปริมาณขยะในคลองลาดพร้าว คอกดักขยะขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯที่เต็มไปด้วยขยะในครัวเรือน ไม่ต่างจากท่อระบายน้ำย่านใจกลางเมืองกรุงฯ เราพบว่ามีขยะพลาสติก โฟม ถูกทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำมากกว่าถังขยะเสียอีก
ทุกปี กทม.จะต้องขุดลอกท่อระบายน้ำขยะในครัวเรือน ไขมัน เศษอาหาร หรือแม้แต่อุจจาระคนก็ยังถูกทิ้งรวมลงในท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องตักขึ้นมาทิ้งและมันได้กลายเป็นปัญหาให้การขุดลอกท่อเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะผู้ทิ้งขยะสิ่งปฎิกูลลงท่อมากขึ้นแต่คนเก็บยังเท่าเดิม
เศษขยะที่ปะปนดินและวัสดุจากการก่อสร้างถนน เหล่านี้เป็นฝีมือของคนไทยที่ทิ้งลงไป แม้ท่อระบายน้ำจะถูกลอกอย่างสะอาดพร้อมรอรับน้ำฝน แต่ท่อระบายน้ำที่มีขนาดเล็ก ยังเป็นปัญหาที่ทำให้กรุงเทพฯไม่สามารถระบายน้ำด้วยวิธีธรรมชาติเหมือน 30 ปีที่ผ่านมาได้อีกต่อไปได้
ศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ยอมรับว่า กรุงเทพฯกำลังถูกคุกคามจากภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับหลายประเทศ จากสาเหตุน้ำท่วม คือเมืองขยายพื้นที่รับน้ำหาย ขยะอุดตันท่อระบายน้ำ แผ่นดินทรุด และท่อระบายนน้ำไม่ทัน ผลงานวิจัย IPCC ระบุว่าน้ำท่วมจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับกรุงเทพฯ ปีละ 20,000 ล้านบาท
“เมื่อโลกเผชิญกับ new normal สภาพอากาศแล้งก็แล้งหนัก ท่วมก็ท่วมมาก นั่นหมายถึงว่าพื้นที่ต่ำเสี่ยงน้ำท่วมสูงในกรุงเทพฯ เช่น ลาดพร้าว บางเขน บางกะปิ มีนบุรี พระโขนง ลาดกระบัง จะใช้วิธีการระบายน้ำแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไป นับเป็นโจทย์ท้าทายไม่น้อยของกรุงเทพฯว่าจะทำอย่างไรให้กรุงเทพฯไม่ต้องจมน้ำ ”
ชมคลิปข่าว The EXIT ได้ที่ >> https://news.thaipbs.or.th/content/296818
โฆษณา