3 ต.ค. 2020 เวลา 04:18 • ความคิดเห็น
โพสต์นี้เป็นโพสต์นอกเรื่องนะครับ นอกจากเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว บางทีผมนึกอะไรขึ้นมาได้ ก็อยากจะแชร์มุมมอง แนวคิดของตัวเองบ้าง คงไม่ว่ากัน
ผมนึกอยู่นานว่าจะเขียนอะไรดีที่นอกเรื่อง ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ จะให้วิเคราะห์ข่าว ก็เพิ่งวิจารณ์เรื่องโรงเรียนสารสาสน์ไป และก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก และก็มาคิดขึ้นได้ถึงสิ่งที่คิดและรู้สึก
ผมคิดว่าตรรกะ (บางคน) เป็นตรรกะที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร (ไม่กล้าพูดว่าผิดนะครับ แต่ละคนก็มีมุมมองต่างกัน)
เคยมั้ยครับ บางทีที่เราคุยเรื่องคนรวยคนจน หรือคนที่ดีกว่า เรา เรามักจะได้ยินคำพูดประมาณว่า
“เขารวยแต่คงไม่มีความสุขหรอก”
“จนแต่มีความสุขดีกว่า”
“รวยแต่ไม่มีความสุข”
พูดตรงๆ สำหรับผม นี่คือตรรกะ Loser นะ
คือตรรกะคนขี้แพ้
ประมาณว่าเห็นคนอื่นดีกว่า ก็ต้องพยายามหาอะไรที่จะปลอบใจตัวเอง แล้วก็กดคนที่ดีกว่าเรา
ผมไม่เถียงนะว่าคนรวยแล้วไม่มีความสุขมันก็มี คนจนที่ชีวิตมีความสุขมันก็มี
แต่ในขณะเดียวกัน คนรวยที่รวยด้วย มีความสุขด้วย มันก็มี
คนจนที่ชีวิตไม่มีความสุขมันก็มี
แต่ตรรกะของบางคนคือ
คนรวย=ชีวิตไม่มีความสุข
คนจน=ชีวิตมีความสุข ครอบครัวอบอุ่น
ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่
ถ้ายกตัวอย่างตรรกะ Loser อีกอย่าง ผมขอเล่าเรื่องของเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่งให้ฟัง (จะว่าประจานเพื่อนก็ไม่เชิงครับ เพราะผมก็ไม่ได้เอ่ยชื่อ แล้วคงไม่มีใครรู้จักอยู่แล้ว)
เพื่อนผมคนนี้เป็นคนหน้าตาไม่ดี (เข้าขั้นอัปลักษณ์เลยครับ) ไปชอบผู้หญิงคนไหน ผู้หญิงก็มักจะไม่เล่นด้วย แต่ผมว่าไม่ใช่เพราะมันหน้าตาไม่ดี แต่เป็นเพราะตรรกะเพี้ยนๆ ของมันที่ทำให้คนไม่ชอบ
มันจะชอบพูดประมาณว่า “กูหน้าแย่ (จริงๆ คำหยาบกว่านี้นะครับ) แต่กูจริงใจ ไอ้พวกหล่อๆ หน้าตาดีๆ แม่_ไม่จริงใจ ผู้หญิงก็โง่ เลือกคนหล่อๆ แทนที่จะเลือกคนจริงใจ”
บังเอิญมีผู้หญิงที่มันชอบ แต่เช่นเคย ไม่ชอบมัน แต่ผู้หญิงคนนั้นดันมาชอบผม (ไม่ได้บอกว่าตัวเองหล่อนะครับ อาจจะบังเอิญเป็นสเปคผู้หญิงคนนั้น) มันก็พูดเหน็บผม แดกดันผมทั้งวัน (ไม่ได้พูดแซวๆ ขำๆ ครับ แต่ดูออกว่ากำลังเหน็บ)
ผมรู้สึกรำคาญมากเข้า เลยพูดกับมันไปว่า
“กูพูดตรงๆ นะ ถ้ากูเป็นผู้หญิง เจอผู้ชายอย่างมึง กูก็ไม่เอา ไม่ใช่เพราะหน้าตานะ เพราะตรรกะ ความน่ารำคาญของมึงนี่แหละ ตรรกะของมึงคือคนหล่อ คนหน้าตาดี คือคนไม่จริงใจ ส่วนคนหน้าเหมือนส้นตีนอย่างมึงคือจริงใจ คือคนดี ใครไม่เลือกมึงคือโง่ คนหน้าตาดีๆ ทั้งหมดคือคนเลว ไม่จริงใจ ถ้าคิดอย่างนี้ทั้งชาติก็ไม่ต้องหวังหรอกว่าใครจะมาชอบ ผู้หญิงไม่ได้รังเกียจคนหน้าตาไม่ดีนะ คนหน้าตาไม่ดีที่ได้แฟนดีๆ ได้ผู้หญิงสวยๆ มีเยอะแยะ แต่ผู้หญิงไม่ชอบคนขี้แพ้ ตรรกะป่วยๆ”
ตัวผมเองนั้น เวลาเจอใครที่เขาเหนือกว่าเรา ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม ผมก็ไม่กล้าคิดอย่างนั้นนะ
“เขารวยกว่าเรา แต่คงไม่มีความสุขหรอก เรามีความสุขกว่า”
“เขาดังกว่าเราแต่ครอบครัวไม่อบอุ่น สู้เราก็ไม่ได้ เราครอบครัวสมบูรณ์”
ไอ้ความคิดอย่างนี้ ผมไม่คิดเด็ดขาด เพราะอย่างที่บอก ผมรู้สึกว่ามันคือตรรกะ Loser และต่อให้คนที่เขาดีกว่าจะเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ คือชีวิตไม่มีความสุข ครอบครัวไม่อบอุ่น ผมก็จะไม่คิดอย่างนั้นอยู่ดี
ผมคิดว่าทุกคน จะรวย จะจน ชีวิตมันต้องมีปัญหาบ้างอยู่แล้ว การที่เขาดีกว่าเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องปลอบใจตัวเองด้วยการไปกดเขา เพราะยังไงซะ เขาเองก็ต้องมีปัญหาในแบบของเขา ตัวเราเองก็มีปัญหาในแบบของเราเหมือนกัน ดังนั้นตรรกะ Loser อย่างนี้ ผมไม่คิดเด็ดขาด
อีกเรื่องที่ผมอาจจะมองต่างจากหลายๆ คน (แต่หลายคนก็คิดเหมือนผมนะ) คือเรื่องของความ “พอเพียง”
คนส่วนมากคิดว่าคำว่า “พอเพียง” คือต้องใช้ของถูกๆ มีชีวิตอย่างสมถะ แต่ผมว่าไม่ใช่
คำว่าพอเพียง คือใช้ตามอัตภาพ ตามกำลังของตน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ไม่เดือดร้อนใคร และตัวเองต้องไม่เดือดร้อน
สมมติมีคนสองคน คนแรกเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือน 20,000 อยากได้ไอโฟนราคา 30,000 เลยเลือกที่จะผ่อนจ่ายทุกเดือน
คนที่สองนั้นบ้านรวย ทำธุรกิจ ที่บ้านมีเงิน 10,000 ล้าน คนนี้ซื้อรถสปอร์ต ราคา 30 ล้าน
สำหรับผม ผมว่าคนที่สองพอเพียง แต่คนแรกน่ะฟุ่มเฟือย ไม่พอเพียง
คนแรกเงินเดือนแค่ 20,000 แต่อยากได้โทรศัพท์มือถือราคาเกินเงินเดือน เลยเลือกที่จะผ่อน ซึ่งทำให้ในแต่ละเดือนเงินก็เหลือน้อย อาจจะพอใช้บ้าง ไม่พอใช้บ้าง (ผมไม่กล้าพูดว่าไม่พอใช้ เพราะบางคนก็อาจจะไม่ได้ใช้จ่ายเยอะ อาจจะเหลือก็ได้)
คนที่สองมีเงิน 10,000 ล้าน ซื้อรถราคา 30 ล้าน เหลือเงินอีก 9,000 กว่าล้าน ไม่ได้เป็นหนี้ ไม่เดือดร้อนใคร ตัวเองก็ไม่เดือดร้อน
ผมว่าคนที่ฟุ่มเฟือยน่าจะเป็นคนแรกมากกว่านะ
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของผม ซึ่งบางทีก็อยากจะมีสอดแทรกไว้บ้าง นอกเหนือจากเรื่องราวของประวัติศาสตร์ อาจจะถูกใจบางคน ไม่ถูกใจบางคน แต่ก็ถือว่าเปลี่ยนแนว อ่านเรื่องอื่นคละๆ กันไปบ้างแล้วกันนะครับ ^^
โฆษณา