° พระเมตตาล้นฟ้าค้ำแผ่นดิน °
วันนี้นึกมุกเก่าได้ล่ะ .. ผมมานั่งนึกถึงความหลัง เมื่อในอดีตว่า มีอยู่สองสามครั้ง ที่ผมได้ออกไปรับตัวลูกเรือประมงไทย กลับมาจากเวียดนาม เพราะโดนจับตัวไป ...
... ว่าทำไม ในหลวง ร.๙ ท่านทรงเจรจาสำเร็จได้แบบง่ายๆ ...
... แต่ความจริงก็ไม่ง่ายหรอก ...
... เพราะพระองค์ ต้องทรงเสียทรัพย์ส่วนพระองค์ด้วย ขอจากรัฐบาลด้วย เอาไปจ่ายค่าปรับ ให้กับเวียดนาม ...
... เขาจึงยอมปล่อยตัว คนไทยออกมา
ทางการไทย มีข้อต่อรอง ...
... คือเรามีศูนย์อพยพแบบลับๆ ที่มีชาวเวียดนามหนีตายมา อยู่ที่ แหลมงอบ สีคิ้ว จ. โคราช และที่ บ้านไม้รูด จ. ตราด
รวมไปถึง โป่งน้ำร้อน ...
... แต่มันเป็นความลับ เปิดเผยไม่ได้ เปิดได้ก็ได้ไม่หมด สิ่งที่ต้องแบกภาระ ก็เรื่องนี้ ...
... ในหลวง ร.๙ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ ถูกโจมตีจากต่างชาติ ทั้งๆที่ทำดีทุกอย่าง ช่วยเหลือทุกอย่าง ...
... จนคนไทยบางส่วน จนได้มีคำกล่าวว่า ...
“... คนไทยเองจนจะตายไม่ดูแล ดันไปเลี้ยงดูชาวกัมพูชา กับชาวเวียดนาม ...”
... แต่ผมกลับมองว่า ท่านเป็นหนังหน้าไฟ และยอมช่วยเหลือ ทั้งผู้อพยพชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม ก็เพราะทรงมองการณ์ไกล ...
... ทางการเวียดนามนั้น อยากให้ส่งพวกอพยพกลับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าส่งไปก็โดนฆ่าทิ้ง โดนตัดหัว ลอยเกลื่อนทะเล เพราะทางการของเขาถือว่าพวกนี้เป็นกบฎ ...
... สมเด็จพระนางเจ้าฯ จึงบอกว่า ...
“... ไม่ส่งกลับหรอก จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ...
... ที่นี่เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นสุวรรณภูมิ
ใครหนีร้อนมาพึ่งเย็น เรายินดีต้อนรับ ...”
... แต่ผู้อพยพร้อยทั้งร้อย อยากไปประเทศที่สาม เป็นทางเลือกต่อจากอยู่ประเทศไทย ...
... องค์การยูนิเซฟ ส่งตัวแทนมาร่วมงานกับพระองค์ รวมถึงข้าหลวงใหญ่จากสหประชาชาติ ...
... ผมไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านกับศูนย์อพยพ จนเกิดความรู้สึกลึกซึ้งขึ้นภายในใจ และสมัครเข้าเป็นอาสารักษาดินแดน เพื่อ ร่วมทำงานกับในหลวงและพระราชินีนารถ ...
... จากนักเรียนมาดูงานที่ศูนย์อพยพ เป็นชาวบ้านมาเยี่ยมชม จนมาเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานชายแดน ทั้งที่แหลมงอบ เกาะช้าง เกาะกูด ...
... ทำให้เข้าใจพระราชกรณียกิจของในหลวงมากขึ้น ...
... ในหลวงทรง ร.๙ ใช้หลักการ “การเมืองนำการทหาร” ในการเจรจา กับต่างประเทศ ทั้งเวียดนามและกัมพูชา ...
... หากเจรจาไม่ดี เราจะเป็นคู่สงครามของสองประเทศนี้ไปโดยปริยาย ...
... นอกจากดูแลผู้อพยพแล้ว คนไทยตามแนวชายแดนก็ทรงต้องดูแล และให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ...
... ที่ จ. ตราดนี่เอง พระองค์ทรงรับสั่งให้ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทำหมู่บ้านทับทิมสยาม 01 ขึ้น ที่บ้านชุมพล จัดเป็นหมู่บ้านชายแดน ให้ชาวบ้านที่อยู่ในป่า ในสวนในไร่ มาอยู่ร่วมกัน ฝึกอาวุธ จัดเวรยาม ...
... ส่วนเหนือเขาบรรทัดขึ้นไป เมื่อสงครามสงบลงนิดหน่อย ...
... ได้ทรงทดลองผลักดัน ให้ชาวกัมพูชากลับไปยังประเทศของตน โดยมีทหารคอย ให้การคุ้มครองตามแนวชายแดน ...
... พระองค์ไม่อยากให้ชาวกัมพูชา ทิ้งประเทศไปอยู่ที่อื่น แต่อยากให้รวมกันเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง ...
... แต่ก็ทรงบอกตรงๆ ไม่ได้ เพราะเขมรสามฝ่าย รบชิงแย่งอำนาจกัน เข่นฆ่าชาวบ้านแบบไร้ปราณี คนไทยเชื้อสายเกาะกง ที่พูดไทยได้ ...
... ปารถนาจะอยู่เมืองไทย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ หากทำเช่นนั้น ทางกัมพูชา จะกล่าวหาว่าไทยฉวยโอกาส และจะหาโอกาสประกาศสงครามกับไทยทันที ...
... นอกจากนี้ ข่าวจากหน่วย นปข. ยังระบุว่าญวนแอบเข้ามาแซกแซงไทยจากด้านฝั่งลาว ร่วมกับคนไทยที่คิดกบฎ ตั้งเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ปลดแอกแห่งประเทศไทย ...
“... เสียงวิทยุจากกรุงไซง่อนดีซี ...”
... พวกนั้นออกข่าวทุกคืน เราก็ได้แต่ฟัง
ใจเต้นตุ๋มๆ ต๋อมๆ พลางคิดในใจว่า ...
“... เราจะรอดไหมหนอ ... จะเอาอะไรไปสู้กับเขา ... มีเจ้าฟ้าชายฯพระองค์เดียว ที่เป็นทหาร และลุยอยู่กับทหารหาญ ในยามนี้ ...”
... รักพ่อให้รีบบอก ...คิดถึงเทวดาที่อยู่บนฟ้า.....
ขอขอบคุณเค้าโครงเรื่องราว จาก จามร จรมา ...
วันนี้นึกมุกเก่าๆ ไม่ได้หยุดนะครับ.. ขอตัวไปออกหน่วยจิตอาสารับบริจาคเลือดในวันสำคัญนี้.. บ่่ายๆค่อยเข้ามาตอบเม้นท์นะขอรับ
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
