ทีนี้หนังสือที่แต่งในรูปของเอสเสที่พูดถึงเนื้อหาปรัชญาตรงๆ จริงแล้วมันมีงานปรัชญาชนิดหนึ่งที่เราเรียกว่างานเขียนปรัชญาในรูปของ “งานวรรณกรรม” งานวรรณกรรมภาษาอังกษเราเรียกว่า Literary work หรือ literature ซึ่งถ้าเขียนได้ดีพอมันก็จะเป็นวรรณคดี
เพราะงั้นถ้าอยากจะพูดถึงแนวคิดอะไรบางอย่างที่ซาร์ตคิดว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องโน้มน้าวใจเพื่อนมนุษย์ให้เอาไปใช้ในชีวิต ซาร์ตก็จะแต่งเป็นหนังสือปรัชญา เช่น Being and Nothingness หรือ The Transcendence of the Ego มันจะเป็นงานเขียนที่อยู่ข้างบนเชิงอุดมการณ์ โดยซาร์ตขาบอกว่า งานแบบนี้เขาแต่งเพื่อให้คนอ่าน อ่านแล้วก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเอามาใช้ในชีวิตจริงได้ แต่ถ้าเห็นว่าความคิดที่เขาอยากจะเสนอ เขาอยากจะให้ผู้อ่านเขาได้เอามาใช้ในชีวิตจริงๆ ให้แง่คิดต่อชีวิตจริงๆ เขาจะเขียนเป็นนิยาย เรื่องสั้น หรือว่า บทละคร