IKEA เตรียมเปิดโครงการ "Buy Back" รับซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่า (มือ 2) ใน 27 ประเทศทั่วโลก ช่วงปลายปีนี้ โดยให้ราคาสูงสุดถึง 50% จากป้าย เพื่อผลักดันการรีไซเคิล และวางแผนเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มอีก 50 แห่ง ในกว่า 40 เมืองทั่วโลก !!!
IKEA เตรียมเปิดโครงการ "Buy Back" รับซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่า (มือ 2) ใน 27 ประเทศทั่วโลก ช่วงปลายปีนี้ โดยให้ราคาสูงสุดถึง 50% จากป้าย เพื่อผลักดันการรีไซเคิล และวางแผนเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มอีก 50 แห่ง ในกว่า 40 เมืองทั่วโลก !!!
IKEA เชนร้านเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่สัญชาติสวีเดน เตรียมเปิดโครงการ "Buy Back" รับซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่าคืน จากลูกค้าที่ไม่ต้องการหรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์นั้นๆ อีกต่อไป โดยที่ลูกค้าหรือผู้ที่นำเฟอร์นิเจอร์มือสองมาขายนั้น จะได้รับ บัตรกำนัล หรือคูปองเงินสดแบบไม่มีวันหมดอายุเป็นการตอบแทน สำหรับนำมาใช้จ่ายที่ร้านค้า IKEA เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เก่า ที่สาขา IKEA ในกว่า 27 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 27 เดือน พ.ย. นี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าโครงการการรับซื้อหรือจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์มือสองของทาง IKEA นั้นจะมีในไทยหรือไม่
โดยราคารับซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองนั้น จะขึ้นอยู่กับตามสภาพของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น โดยสินค้าสภาพเหมือนใหม่ ไม่มีตำหนิจะรับซื้อคืนสูงสุดอยู่ที่ 50% ของราคาสินค้าที่จำหน่ายใน IKEA ส่วนสินค้าที่มีสภาพดีมาก แต่มีตำหนิเล็กน้อย ก็จะรับซื้อคืน 40% ของราคาเดิม และลดลงตามสภาพของสินค้า ซึ่งทาง IKEA จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่สาขามาสำหรับให้บริการรับซื้อ และขายสินค้ามือสองอีกด้วย
ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์มือสองที่ IKEA จะรับซื้อคืนนั้นจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของทางบริษัท อาทิ มีส่วนประกอบของสินค้าครบถ้วน และมีการประกอบอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในเงื่อนไขโครงการครั้งนี้ มีหลายประเภท อย่างเช่น ตู้, โต๊ะเครื่องแป้ง, ชั้นวางของ, โต๊ะ และเก้าอี้ เป็นต้น ยกเว้น เฟอร์นิเจอร์จำพวกเครื่องหนังต่างๆ ทางบริษัทจะไม่รับซื้อคืน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สามารถขายต่อได้ ก็จะถูกนำไปรีไซเคิล
สำหรับโครงการดังกล่าวของ IKEA เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของทางบริษัทที่ได้พยายามผลักดันบริษัทสู่การเป็นธุรกิจหมุนเวียน โดยมีการนำวัสดุและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้แล้วกลับมาใช้หรือทำการรีไซเคิลใหม่ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวนอย่างมากในปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้กระตุ้นให้ยอดออนไลน์ของ IKEA เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 45% หรือคิดเป็น 15% ของยอดขายทั้งหมดของ Inter IKEA โดยมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ IKEA มากถึงกว่า 4 พันล้านครั้ง เนื่องจากผู้คนต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น เพื่อรองรับการกักตัว การทำงานหรือการเรียนจากที่บ้านหรือทางไกล
อย่างไรก็ตาม ยอดขายทางหน้าร้าน 378 แห่ง ลดลงเหลืออยู่ที่ 4.67 หมื่นล้านเหรียญฯ หลังจากที่สาขาหลายแห่งถูกปิด เนื่องจากมาตรการต่างๆ
ในช่วงก่อนหน้านี้ IKEA ได้ทดลองจำหน่ายสินค้ามือสองใน Edinburgh และ Glasgow มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการช่วยรักษาโลก ตามเป้าหมายรักโลกภายในปี 2030 ด้วยการนำสินค้าเก่ามาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มอีก 50 แห่งในกว่า 40 เมืองทั่วโลก ในปีนี้ ทั้งในยุโรป, รัสเซีย, อเมริกาเหนือ, เอเชีย และโอเชียเนีย ขณะที่ ในสหรัฐฯ จะเปิดสาขาในนิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส และชิคาโก จากปัจจุบันที่มีสาขาราว 445 แห่งทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นหน้าร้านขนาดใหญ่ แต่ทางบริษัทยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบ และการตกแต่งภายในแต่อย่างใด
กลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นแผนเปิดสาขาเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจมา โดยทางด้าน Jon Abrahamsson Ring ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านแบรนด์ของ IKEA เผยว่า กลยุทธ์นี้เป็นความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการจะเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ แผนการเปิดสาขาหน้าร้านขนาดเล็กนั้นไม่ใช่แผนสูงสุดของทาง IKEA เนื่องจากบริษัทได้มีการลงทุนเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2017 ที่ผ่านมา IKEA ได้เข้าซื้อกิจการ TaskRabbit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับฟรีแลนซ์ และได้ประกาศปลดพนักงานกว่า 7,500 คน ในปีต่อมา เพื่อนำเงินไปลงทุนในกิจการด้านดิจิทัลอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ในอุตสาหกรรมค้าปลีก
📲 เปิดพอร์ตหุ้นไทย/ต่างประเทศ, ออมหุ้น (DCA), กองทุน หรือ TFEX คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี้ครับ 👇👇👇
#คลินิกการลงทุน
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
