20 ต.ค. 2020 เวลา 13:42 • การเมือง
"ภาษีกู ภาษีกู ภาษีกู"
ได้ยินเขาตะโกนว่า ภาษีกู กันกึกก้อง ความหมายของมันก็คือ ไม่อยากให้ในหลวงใช้เงินภาษีที่ตัวเองเสีย ว่างั้น
ทำให้ผมนึกสงสัยว่าเงินที่เราเสียภาษีไปแต่ละเดือนเนี่ย ถูกแบ่งไปให้สถาบันฯ เดือนละเท่าใด ก็เลยเปิดงบประมาณแผ่นดินดู
งบประมาณแผ่นดินปี 63 = 3,200,000 ล้านบาท
เป็นส่วนของสถาบันฯ = 29,000 ล้านบาท
เพราะฉะนั้นงบสภาบันฯ = 0.9% ของงบประมาณแผ่นดิน
ทีนี้สมมุติเราได้เงินเดือน 15,000 บาทแล้วจ่ายหมดไม่เหลือ รัฐบาลก็จะได้ภาษีจากเรา 1,050 บาท แล้วก็แบ่งให้สถาบันฯ ไป 0.9% ก็คือ 9.45 บาทนั่นเอง
ผมจึงคิดว่าเราจ่ายภาษีให้พระเจ้าแผ่นดินน้อยมากเลยนะ เดือนละเก้าบาทเศษ ๆ ปีละร้อยเศษ ๆ เทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่เราได้รับมาจากพระเจ้าแผ่นดิน
เอาเข้าจริง ๆ ที่ดินที่เราอยู่อาศัย เรือกสวนไร่นาที่เรามี เมื่อก่อนก็เป็นของพระจ้าแผ่นดินนะ เพียงแต่เราได้รับมาตั้งแต่รุ่นทวด ซึ่งเรายังไม่เกิด เราก็ลืมไป คิดว่ามันเป็นของเรา
ไฟฟ้า น้ำประปา สาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เราได้ใช้ โรงเรียนที่เราได้เรียน ก็ล้วนแล้วแต่เริ่มมาจากพระเจ้าแผ่นดินจัดให้ทั้งนั้น นี่ยังไมนับถึงโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด ที่เราได้พึงพาอาศัยใช้สอยกันอยู่ทุกวันอีก
ทั้งหลายแหล่เหล่านั้นถ้าเอามาเทียบเป็นเงิน แล้วเทียบกับเก้าบาทสี่สิบห้าสตางค์ที่เราจ่ายให้พระเจ้าแผ่นดินไปในแต่ละเดือน ผมว่าเราก็ยังได้กำไรอยู่มากนะ
เอาง่าย ๆ ถ้าไม่อยากจะคิดถึงบุญคุณกันแล้ว ก็คิดว่าภาษีที่เสียให้พระเจ้าแผ่นดินเป็นการทำประกันภัยเสียก็ได้ ไม่แน่ในชีวิตหนึ่งเราก็อาจจะประสบภัยเข้ามั่งแหละ เจอน้ำท่วม ไฟไหม้ พายุ แผ่นดินไหว หรือเจออะไรเข้าสักครั้ง แล้วก็ได้รับถุงยังชีพพระราชทานมาถุงนึง มูลค่าข้าวของในถุงนั้นมันก็มากกว่าภาษีที่เราเสียให้พระเจ้าแผ่นดินไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว
นั่นแหละ ถ้ามาคิดกันให้ละเอียด ยังไงเราก็ยังได้กำไรจากพระเจ้าแผ่นดินอยู่ดี เราก็อย่าไปคิดมากเลย ไม่ต้องไปตรวจสอบหรอกว่าพระองค์จะเอาภาษีไปใช้ทำอะไร
เราได้มาตั้งเยอะแล้ว จะเอาอะไรกันหนักกันหนา? ฮึ
โฆษณา