Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปภังกร..กฎหมายจะรู้เมื่อได้อ่าน
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2020 เวลา 07:11 • การศึกษา
พยานในสัญญากู้ยืมเงินกับความผิดฐานปลอมเอกสาร 📜📜
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน ...ช่วงนี้ไม่ได้ลงบทความบ่อย เนื่องจากติดภารกิจของงานที่ทำอยู่มากพอสมควร..อาจจะมีบทความทางกฎหมายน้อยลงในแต่ละอาทิตย์บ้างนะครับ ..และอีกใจนึงก็คิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะมีใครมานั่งอ่านบทความกฎหมายให้เครียดเพิ่มขึ้นไปอีก..นานาจิตตังครับ ..แต่ก็เขียนดีกว่า อย่างน้อยเราเองก็ได้อ่าน..แฮะ แฮะ...
วันนี้ผมขอนำเสนอข้อเท็จจริงเรื่องปลอมเอกสารสักเรื่องหนึ่ง ...
เคยไหมครับ อยู่ดี ๆ มีคนเอาเอกสารมาให้ลงชื่อเป็นพยานในสัญญา โดยเฉพาะสัญญากู้ยืมเงิน.. นายโฉด กับนายชัง ทั้งสองคนทำสัญญากู้ยืมเงินกัน 80,000 บาท โดยนายโฉด เป็นผู้ให้กู้ นายชังเป็นผู้กู้ ทั้งสองคนทำสัญญากันเสร็จแล้ว หลังจากนั้นต่อมา นายโฉดก็คิดว่า ..เออ..มันต้องมีพยานในสัญญาสักหน่อย น่าจะดี...
โดยปกติ ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะลงลายมือชื่อตัวเองหากไม่ใช่เป็นผู้ทำสัญญา แม้แต่ในฐานะพยาน เพราะไม่เห็นตัวเป็น ๆ ขณะทำสัญญา แต่ก็ยังมีบางคนยอมลงชื่อเป็นพยาน..
นายโฉดจึงเอาสัญญากู้ ไปให้นายยิ้ม วานให้ช่วยลงลายมือชื่อเป็นพยานหน่อย นายยิ้มก็ยิ้มอย่างเดียว ก็ลงลายมือชื่อไปยิ้มไป .. เรียบร้อย สัญญากู้มีทั้งลายมือชื่อผู้ให้กู้ ลายมือชื่อผู้กู้ ลายมือชื่อพยาน ครบถ้วน..
ภาพจาก pexels.com
ปัญหาคือ นายยิ้ม ผู้ที่ลงลายมือชื่อเป็นพยาน จะมีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือไม่ หากข้อเท็จจริงนั้นฟังได้ว่ามีการกู้ยืมเงินกันจริง..
ในเรื่อง ความผิดฐานปลอมเอกสาร ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 มีองค์ประกอบความผิดก็คือ " มีการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ แก้ไขประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง ประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใด หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ...."
ครับ นั้นคือองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร แล้วจากข้อเท็จจริง นั้น นายยิ้ม จะมีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นการแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง .. นายชังผู้กู้ เห็นว่า นายยิ้มลงลายมือชื่อ เป็นพยานโดยพลการ จึงนำคดีไปฟ้องศาล ว่านายโฉด และนายยิ้ม ปลอมเอกสาร ...ส่วนนายยิ้มก็คงยิ้มอยู่เหมือนเดิม....ทั้งที่อนาคตจะติดคุกหรือเปล่าก็ไม่รู้
เรื่องนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกา วินิจฉัยไว้เป็นคำพิพากษาฎีกาที่ 1126/2505
ศาลฎีกาเห็นว่า " การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 จะต้องเป็นการกระทำที่น่าจะเกิดหรืออาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือประชาชน คดีนี้ โจทก์ ( นายชัง ) ยอมรับว่า ได้ลงลายมือชื่อในฐานะว่ากู้ ให้แก่ จำเลยที่ 1 (นายโฉด ) ไปเป็นจำนวน 80,000 บาท จริง สัญญาดังกล่าว จึง มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว การที่จำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 (นายยิ้ม ) ลงชื่อในสัญญาภายหลัง ตามกฎหมายจึงไม่น่าจะเกิด หรือ อาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร ..."
โชคดีนะครับ คดีนี้มีการทำสัญญากู้ยืมกันจริง เพราะการกู้ยืมเพียงมีข้อความกู้ยืมกันและมีลายมือชื่อผู้กู้ฝ่ายเดียวก็สมบูรณ์แล้วละครับถือว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ..
แต่ ลองมองในทางกลับกันนะครับ หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปว่า ไม่มีการยอมรับว่าได้ทำสัญญากู้กันจริง หรือสัญญากู้มีการปลอมกันมาแต่แรก ..คำพิพากษาคดีนี้อาจเปลี่ยนไป ...นายยิ้มก็อาจนั่งยิ้มอยู่ในคุกก็ได้..หากมีส่วนรู้เห็นในการปลอมเอกสาร....
การปลอมเอกสารเป็น เรื่องละเอียดอ่อนเรื่องหนึ่ง เพราะต้องใช้ปรับกับ.
สภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป กฎหมายก็ต้องขยายความให้ทันการตีความกฎหมายก็จะกว้างขึ้น ..ฉะนั้นเรื่องของนิติกรรมสัญญา หากเราไม่ใช่คู่กรณีก็ปล่อยให้มันสมบูรณ์ด้วยตัวของมันเองจะดีกว่า หากไม่จำเป็นไม่ควรลงลายมือชื่อโดย ไม่รู้ข้อเท็จจริงหรือหากจะลงก็ควรพูดคุยกับคู่สัญญาให้เรียบร้อย ...จะดีกว่ามาก ....ทำอะไรโดยไม่รู้ไม่เห็นบางทีก็เป็นภัยนะครับ ..
ช่วงนี้เทศกาลกินเจ ครับ ..เพื่อนผมเขาก็กินเจเหมือนกัน เมื่อวานเสร็จจากงานว่าความ เผอิญเขาวานให้ผมไปส่งในตลาดเพราะ รุ่นน้องเขาที่สำนักงานเอารถกลับไปก่อน...ผมถามว่าจะไปทำอะไรที่ตลาด ..เขาบอกว่า เขากินเจ จะไปซื้อน้ำปลาเจ ในตลาด ...
ขับรถถึงตลาด ผมรอในรถเขาก็เดินเข้าไป หายไปนานมาก ผมจึงลงไปตาม
ปรากฎว่า มีคนเถียงกันและมุงดูหน้าร้านอาหารเจ จึงเข้าไปดู...
ปรากฎว่า เพื่อนผมทะเลาะกับเจ้าของร้าน จึงไปห้ามและสอบถามเรื่องราว
ปรากฎว่า เพื่อนผมมาซื้อน้ำปลา เจ แต่ที่ขวดเขียนว่า น้ำปลาไส้ตันแท้ แต่มีคำว่า.... .."เจ ".. ..ถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ....
1
ผมหยิบขวดน้ำปลาขึ้นมาดู ..ถึงกับสะดุ้ง ...แล้วก็หันไปกระซิบบอกเพื่อนว่า
" มึงกลับเหอะเดี๋ยวจะโดนกระทืบ " แล้วผมก็หยิบขวดน้ำปลาให้มันดูใกล้ ๆ..
" ที่มึงบอกว่าเจนะ ..มันราคา 17 บาท ไอ้ฟาย....."
เราอยู่ในยุคไซเบอร์เต็มขั้น ที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร จริงบ้างเท็จบ้าง หากเราเดินตามแบบสุ่มห้าสุ่มหก ( เพราะสุ่มสี่สุ่มห้ามันน้อยไป) ผลที่ตามมาอาจสวนทางกับความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงของตน..
🌻บุญรักษาทุก ๆ ท่านนะครับ 🙏🙏🙏
4 บันทึก
19
36
1
4
19
36
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย