Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โลจิสติกส์เพื่อการนำเข้าส่งออก
•
ติดตาม
24 ต.ค. 2020 เวลา 02:12 • การศึกษา
E-Government กับภาคธุรกิจโลจิสติกส์ส่งออก
ความท้าทายในอนาคตของไทย
ก่อนอื่นเรามาทราบความหมายของคำว่า E-Government กันก่อนนะคะ
E-government หรือ “รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์” คือ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการทำงานและปรับเปลี่ยนระบบองค์กรให้มีความคล่องตัวและตรวจสอบได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อ......
- แก้ไขปัญหาระบบราชการแบบเดิมที่มีการดำเนินงานหลายขั้นตอนในการอนุมัติ
- ลดทะเบียนเอกสารมากมายที่มีความซ้ำซ้อน
- การใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป ทำให้ผู้ใช้บริการต้องเสียเวลาในการรอคอย
สำหรับภาคการส่งออก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็น่าจะเป็นหน่วยงานที่เราเกี่ยวข้อง คือ
1.กรมการค้าต่างประเทศ ที่ได้พัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเทศคู่ค้าต่างๆ เพื่อให้บริการแบบ Paperless เช่น การใช้ระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่ต้องส่งเอกสารประกอบ ในรูปแบบกระดาษ สามารถส่งแบบคำขอได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และ เมื่อคำขอฯ และเอกสารประกอบผ่านการตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว จะได้รับแจ้งผลอนุมัติผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สามารถนำไปดำเนินการทางพิธีการศุลกากรได้ทันที เนื่องจากระบบของกรมการค้าต่างประเทศเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับกรมศุลกากรแล้ว
https://www.ditp.go.th/
2.ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ “One Stop Export E-Service Center” ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นการส่งใบรับรองการส่งออก ซึ่งสามารถเลือกออกใบรับรองหรือเอกสารส่งออกจาก 7 หน่วยงานที่ร่วมโครงการได้พร้อมกัน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมการค้าต่างประเทศ กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการกงสุล ทั้งนี้เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกลดเวลาการขอเอกสารจากเดิม 1 วันเป็น 1 ชั่วโมง
http://www.depthai.go.th/
3. ระบบ e-Tracking ของกรมศุลกากร เป็นระบบที่ให้บริการ การติดตามสถานการณ์ผ่านพิธีการศุลกากรทางอินเตอร์เน็ต เช่น ข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า, ใบขนสินค้าขาออก, ข้อมูลบัญชีสินค้าและข้อมูลใบกำกับการขนย้ายสินค้า เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการทำงานในขั้นต่อไปได้รวดเร็วขึ้น และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไม่ว่า จะอยู่ ณ สถานที่แห่งใดสามารถสอบถามข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา
https://www.customs.go.th/
4.กระทรวงการคลัง
โดยกรมศุลกากรยังอยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการพัฒนาระบบการชำระเงินค่าภาษีอากรด้วย
"บัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์"
(Digital Tax Compensation: DTC)
เพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงินชดเชยค่าภาษีอากรตาม
พระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524 จากระบบเดิมที่กระทำในรูปแบบบัตรภาษี (กระดาษ) ให้การชำระค่าอากรค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นเปลี่ยนเป็นระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบ
4.กรมศุลกากรมีการพัฒนาระบบงานการให้บริการประชาชนด้านภาษีของ 3 กรมภาษี คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และ กรมศุลกากร โดยการใช้รหัสผ่านเดียว เรียกว่า
"ระบบบริการ Tax Single Sign On (Tax SSO)"
เพื่อเป็นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อลดความยุ่งยากในการจดจำรหัสผู้ใช้และรหัสผ่านเข้าใช้บริการของ 3 กรมภาษี เพื่อเป็นการรักษษความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจ ด้วยการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานผ่านหัส One Time password (OTP) ทางโทรศัพท์มือถือและอีเมล และเพื่อความสะดวกในการให้บริการยื่นแบบและธุรกรรมภาษีของ 3 กรมภาษี
นี่คือตัวอย่างของการพัฒนาที่ใกล้ตัวเราในฐานะผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้ามากที่สุดที่เราพอจะมองเห็นภาพค่ะ ข้อมูลที่รวบรวม สรุปมาให้นี้ ดาวหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่าน
2 บันทึก
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย