. .ว่าด้วยโรคใต้สะดือ ๑๕
. .“ผู้หญิงควรรู้”
. .หลังจากบทความที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีโอกาสที่จะเป็นมากที่สุดในฝ่ายชาย บทความนี้ผมจะมากล่าวถึงในฝ่ายหญิงกันบ้าง เดี๊ยวสาว ๆ จะน้อยใจ หลาย ๆ โรคก็จะคล้าย ๆ เหมือนกับของผู้ชาย ดังนั้นควรจะตรวจร่างกายอยู่เสมอ เพราะบางโรคไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น หรือในบางโรคอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้มีบุตรยาก มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่คุณสุภาพสตรีควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งคือ
💋โรคหนองในแท้ รายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ https://www.blockdit.com/articles/5dfda35b9cbd880ced67906f
💋โรคหนองในเทียม รายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ https://www.blockdit.com/articles/5f921bedf01c7a1215aef055
💋ซิฟิลิส รายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ด่านล่างเลยครับ https://www.blockdit.com/articles/5e525956d175c40ca89ec187
💋 การติดเชื้อเอชไอวี และ โรคเอดส์ ยังคงเป็นโรคทีไม่สามารถรักษาให้หายได้ ติดต่อผ่านทางของเหลวในร่างกาย เช่น นมแม่ เลือด น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่นในช่องคลอด โดยส่วนใหญ่ได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ป้องกัน ถึงจะรักษาไม่หายแต่ก็สามารถแต่เราสามารถควบคุมอาการได้หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
💋 ไทรโคโมนิอาสัส (Trihomoniasis) เป็นเชื้อชนิดหนึ่งที่สามารถแพร่เชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ทางปาก อวัยวะเพศ และทางทวารหนัก หากไม่ได้ตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีเชื้ออยู่ในร่างกายแล้ว เพราะจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็นเลย ถ้าหากใครมีเชื้อปรสิตชนิดนี้อยู่เท่ากับว่าเพิ่มความเสี่ยงให้มีโอกาสติดเชื้อ HIV อีกด้วย ยิ่งตรวจเจอไวก็สามารถรักษาหายได้ แนะนำให้ไปตรวจซ้ำภายใน ๓ เดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจจะกลับมาเป็นอีกได้ในอนาคต
💋 เริ่มที่อวัยวะเพศ เป็นเชือไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็ก ไวรัส (Herpes Simplex Virus : HSV) ซึ่งเมื่อติดแล้วจะฝังตัวในบริเวณรากประสาทใกล้ ๆ กับเส้นสันหลัง ทำให้เชื้อสามารถอยู่ยงคงกระพัน แม้ว่าอาการของโรคจะสงบลงแล้วก็จริงแต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำไดัแค่ควบคุมไม่ให้อาการกำเริบเท่านั้นถ้าเพิ่งรับเชื่อในครั้งแรกอาการจะหนักพอตัว โดยเป็นตุ่มน้ำ มีอาการบวมแดงบริเวณอวัยวะเพศหรือตามส่วนอื่น ๆของร่างกาย เช่นปาก อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เจ้าไวรัสตัวนี้ชอบไปยึดอยู่ จะแสดงอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอ ซึ่งถ้าหากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน มีความเครียดหรือต้องใช้ยาที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการกำเริบบ่อยและเป็นนานกว่าผู้ป่วยทั่ว ๆ ไป
. .ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง โรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากถ้าหากไม่ป้องกันหรือระมัดระวังความปลอดภัยของน้องชายและจิมิน้องสาวให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ถ้าหากมีอาการผิดปกติให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
แถมให้อีกสักนิดเกี่ยวกับจุดสงวนชวนฝันที่เป็นดั่งถ้ำสวรรค์ของท่านชายทั้งหลาย . “กับเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับมน้อง จิมิ”
📌เยื่อพรหมจารีไม่ได้มีกันทุกคน เพราะอาจจะหลุดตอนเล่นกีฬาหรือการสอดใส่แทมพอนหรืออาจเกิดมาโดยไม่มีเยื่อพรหมจารี และในบางคนกับมีเยื่อพรหมจารีที่หนามากจนไมาสามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์ไดั แต่ยังถือว่าโชคดีที่วิวัฒนาการสามารถผ่าตัดตกแต่ง และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป
📌ช่องคลอด คือส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธ์เท่านั้นโดยหน้าที่ของช่องคลอดคือมีหน้าที่เพื่อให้ความสุขทางเพศ เป็นช่องทางให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาและเป็นเส้นทางให้กำเนิดทารก
📌บางคนมีน้ำหล่อลื่นมากบางคนมีน้ำหล่อลื่นน้อย
📌ร่างกายจะสร้างช่องคลอดขึ้น ๔ เดือนก่อนหน้าของคุณจะเกิดขึ้นเสียอีก ซึ่งต่อ ๆ มาจะพัฒนากลายเป็นอวัยวะเภศหญิง หรือชาย เมื่ออายุครรภ์ได้ ๑๐ สัปดาห์ ถ้า DNA รุะบุว่าเป็นเพศชาย ร่างกายก็จะสร้างองคชาตและลูกอัณฑะขึ้นมา แต่ถ้าเป็นผู้หญิงช่องคลอดจะเริ่มเป็นรูปร่าง
📌ปุ่มกระสันอยู่ลึกเข้าไปในช่องคลอดประมาณ ๑ นิ้ว เรียกว่า “จุดจีสปอต”
📌บริเวณช่องคลอดมีแบคทีเรียอยู่มาก เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ เป็นเหมือนทหารคอยคุ้มกันร่างกายไม่ให้ติดเชื้อ ซึ่งมีประมาณ ๑๕ ชนิดด้วยกันที่อาศัยอยู่ในช่องคลอด และคอยทำให้ภายในช่องคลอดมีภาวะเป็นกรด ซึ่งทำให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายไม่สามารถเจริญเติบโตได้
📌จิมิก็จำเป็นที่จะต้องได้รับอากาศบริสุทธิ์ อย่าใส่กางเกงที่คับเกินไปและชุดชั้นในที่ทำจากใยสังเคราะห์ ทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เป็นที่หมักหมมของเหงื่อไคล จนมูกเมือกต่าง ๆอบอยู่ภายในเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
📌สองด้านของอวัยวะเพศอาจไม่เท่ากัน เหมือนกับเต้านม
📌ขนที่อวัยวะเพศมีเหตุผลรองรับ เพาาะขนมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีในระหว่างที่กำลังโล้สัมเภากัน
📌จำเป็นต้องตรวจสภาพในทุก ๆ ๓ เดือน คอยสอดส่องว่ามีส่วนไหนที่โตขึ้นผิดปกติบ้างหรือเปล่า โดยใช้กระจกส่องแล้วค่อย ๆ แหวกดูภายใน มีอาการเจ็บผิดปกติบ้างหรือไม่ มีสีผิดเพี้ยนไปบ้างหรือเปล่า หากพบสิ่งที่ผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที
📌การคลอดลูกทำให้ช่องคลอดขยายใหญ่ได้ถึง ๕ เท่า แต่ไม่ต้องตกใจหลังจากนั้นประมาณ ๖ สัปดาห์ ช่องคลอดก็จะหดกลับเหมือนเดิม
📌ประจำเดือนไม่ได้ออกมามากอย่างที่คิด แต่ในละรอบเดือนจะเสียเลือดไปแค่ประมาณ ๒ – ๓ ช้อนโต๊ะเพียงเท่านั้น
📌ควรหลีกเลี่ยงผล้ตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม อาจทำให้ช่องคลอดเกิดการระคายเคืองหากสัมผัสกับสารเคมีบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการคัน ควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
📌ผู้หญิงบางคนไม่มีช่องคลอด เด็กหญิงที่เกิดมาในทุก ๆ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ คน จะมี ๑ คนที่เกิดมาโดยไม่มีช่องคลอดืซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่มีมดลูกด้วย แต่ถือว่าโชคดีที่สมัยนี้สามารถผ่าตัดเสริมช่องคลอดได้และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป
. .แต่อย่างไรก็ตามการมีเพศสัมพันธ์ควรรอให้ถึงวัยอันควรก่อนจะดีกว่าหรือถ้ายังไม่พร้อมจริง ๆ ควรป้องกันให้ดีทั้ง ๒ ฝ่ายเพราะถ้าพลาดขึ้นมาปัญหาต่าง ๆ คงเกิดขึ้นแน่ ไม่ว่าจะเป็นท้องก่อนแต่ง ติดเชือทางเพศสัมพันธ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้พ่อ แม่ ญาติ พี่ น้องเสียใจอีกด้วย เพราะอดีตที่มันผ่านพ้นไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้อีก ถ้าหากพลาดพลั้งลงไปแล้วก็ขอจงมีกำลังอยู่ต่อ เพื่อเปรียนแปลงอนาคตให้สดใสดีกว่า
. . .แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้าครับ
😁 ถ้าชอบกด "ไลค์"
ถ้าใช้กด "แชร์"
กด "ติดตาม" เพื่อไม่พลาดการอัพเดตเรื่องราวต่างๆ
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
