26 ต.ค. 2020 เวลา 04:19 • กีฬา
นายด่านเมนดี้ และ 3 เซนเตอร์ของเขา
6 เกมแรกที่ผ่านไป อะไรคือจุดที่ต้องเปลี่ยนอย่างเร่งด่วนของ สิงห์บลู
ไม่ใช่คู่กองกลางที่ลงตัวอย่าง จอร์จินโญ่
และ เอ็นโกโล ก็องเต้
ไม่ใช่ความหลากหลายในเกมรุกที่มี ติโม แวร์เนอร์ หน้าสารพัดนึกเล่นทุกตำแหน่งและทำปะตูได้แล้ว สลับกับตัวเพลย์เมกเกอร์ที่พร้อมลงสนามครบครัน
คริสเตียน พูลิซิช ไค ฮาเวิร์ตซ์ เมสัน เมาท์ และสำรองมากมาย
ไม่ใช่ แบ็กซ้ายขวาที่ลงตัวไม่ว่าจะสายประสบการณ์ เซซาร์ อักปิลิกูเอตา หรือสดอย่าง รีส เจมส์ รวมทั้งซ้ายสมบัติชาติอังกฤษ เบน ชีเวลล์
ใช่ปัญหาอยู่ที่คุณคิดนั่นแหละ
เกมรับที่ยังไม่ลงตัวไม่รู้ใครทำหน้าที่ไหน หนักอย่างชัดเจนก็คือคู่เซนเตอร์ ที่เปลี่ยนสลับจับคู่ยังไงมันก็ไม่ใช่สักที ติอาโก้ ซิลวา อันเดรียส คริสเตียนเซน เคิร์ท ซูม่า หรือเด็กอย่าง โทโมริ แต่ไม่ว่าใครจะลงก็ดูชะงักลดทอนศักยภาพไปหมดเมื่ออยู่หน้ามหาเทพ เกป้า เปลี่ยนปรับอย่างไรก็ไม่เข้าที
จนหลายครั้งที่มีความคิด หรือไอ้ต้นตอปัญหามันไม่ใช่เรื่องความผิดพลาดส่วนบุคคล ไม่ได้เป็น Human Error อย่างที่คนเขากล่าวอ้างแต่เป็นทัศนะคติและแนวทางการทำทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่มองไม่ขาดเสียทีว่าไอ้หลังที่เล่นไม่ได้เพราะมันไม่มีผู้นำและมันกลัวประตูตัวเองไปหมดจนก้าวไปทางไหนก็หลอน
การใช้ 2 เซนเตอร์และเพิ่มจ๊อบเกมรุกให้ ชีเวลล์ ขึ้นลงสุดท้ายตลอดริมซ้ายมันได้ไม่คุ้มเสีย แม้จะเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดถึง 9 ครั้งแต่หลัง 75 นาทีพื้นที่โดยสอยอยู่ประจำ ต้องชั่งน้ำหนัก
จนเป็นที่มาของโฉมหน้าเกมรับเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกๆในฤดูกาลนี้ที่ แลมพ์ ใช้ผู้เล่นกับ 3 เซนเตอร์ เอาเก๋าลงมา 2 ราย เซซาร์ -ซูม่า รับหน้าที่ชนก่อนแล้วปล่อยให้เสือเฒ่าอย่าง ติอาโก้ เก็บกวาดเป็นด่านคัดกรองสุดท้ายก่อนจะถึงผู้รักษาประตู
แม้จะเสียตัวไปกับเกมรับมากกว่าเดิมหนึ่งคน จนกลางเติมรุกไม่ค่อยทัน ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของสามตัวเข้าทำซื้อเวลามากกว่าที่เคยเกมจบสกอร์จึงเกิดขึ้นอย่างที่คิด ส่วนมากก็โดนรุมเสียเยอะกว่าจะได้ยิง
ผลที่ออกมาไม่ถึงกับดีเลิศในแบบที่แฟน เชลส์ คุ้นตายุคมี จอห์น เทอร์รี่ ริกกี้ คาวัลโญ่ แต่ลงตัวที่สุดเท่าที่เล่นในซีซานนี้แล้ว ที่สำคัญไม่รู้เป็นเพราะหน้าแมนยูไม่ค่อยคม อ่อยให้ หรือ เอดู เมนดี้ ผีเข้า ยิงมาตรงไหนก็รับได้ ปัดได้ ยืนดี ปฏิกิริยา แจ่มเกะกะหยุดเอาไว้ได้ตลอด
เชลซี เก็บ คลีนชีต ในพรีเมียร์ลีกนอกลอนดอน ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เสมอ 0-0 กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดปิดฤดูกาล 2018-19 ยุค เมาริซิโอ ซาร์รี่ แน่นอนว่า เมนดี้ กลายเป็นผู้รักษาประตูคนแรกของ เชลซี ที่รักษาคลีนชีตได้ใน โอลด์แทรฟฟอร์ด ต่อจาก ติโบ คูร์ตัวส์ มื่อ ธันวาคมปี 2015 และเป็นคนแรกของเชลซี ที่มาเล่น โอลด์แทรฟฟอรืดครั้งแรกแล้วไม่โดนยิง ก่อนหน้านั้นคือ เควิน ฮิทช์ค็อก ธันวาคม 1994
แล้วก็เป็น เมนดี้ อีกนั่นแหละ ที่เล่นพรีเมียร์ลีก 2 เกมแรกแล้วไม่เสียประตูต่อจาก ปีเตอร์ เช็ก ปี 2004
โดยเฉพาะจังหวะดวลเดี่ยวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และสกัดได้ด้วยขา มันคลาสสิกทีดียว
ไม่ถึงกับดีขึ้นอย่างพลิกหน้ามือเป็นยอดเขาแต่ลงตัวกว่าที่เคยไม่ว่านัดไหนก่อนหน้านี้ มองในแง่ดี ไม่เสียประตู 3 จาก 4 เกมหลังสุดพอจะมองออกในแนวทางที่ดีขึ้น ขอเพียงรักษาความสม่ำเสมอได้อย่างมั่นคงแค่ไหนเท่านั้น
ปล. จังหวะของ เซซาร์ อักปิลิกูเอต้า โดน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กระโดดคว้าคอกลางอากาศแล้วกรรมการรวมทั้งทีม VAR บอกโอเครับได้ไม่ผิดกติกาอะไร ก็โอเค ไม่ผิด
ไม่เคืองแต่จำแม่น ล็อกคอได้ มาร์ติน แอตกินสัน ไม่ถือ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา