เหตุผล เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคุณยอมจ่ายแพงขึ้น ก็ย่อมต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด ซึ่ง iPhone 12 Pro Max สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว รวมถึงสามารถตอบสนองการถ่ายภาพและวิดีโอได้ในทุกรูปแบบ และโดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมด
4. ภาพรวมการออกแบบ และข้อดีข้อเสียของทั้ง 4 รุ่น
โดยภาพรวมการออกแบบทั้ง iPhone 12 iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max แทบไม่ได้มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความคมชัดของจอแสดงผล มาตรฐานกันน้ำที่ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตรภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) และมีแถบแม่เหล็ก MagSafe สำหรับรองรับการชาร์จเร็วและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในอนาคต และแน่นอน ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
แต่จุดที่แตกต่างที่น่าสนใจ คือ iPhone 12 Pro Max มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ซึ่งสามารถรองรับประสบการณ์สมจริงในการชมภาพยนตร์ เล่นเกมที่เน้นกราฟิก รวมถึง Video Conference ได้ดีที่สุด
ในขณะที่ การถ่ายวิดีโอนั้น ความแตกต่างระหว่าง iPhone 12 iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max คือ iPhone 12 สามารถถ่ายวิดีโอด้วยโหมด HDR (High Dynamic Range) Dolby Vision ที่ 30 เฟรมต่อวินาที แต่ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ในขณะที่การซูมภาพถ่ายวิดีโอนั้น iPhone 12 ซูมได้สูงสุด 3 เท่า iPhone 12 Pro ซูมได้สูงสุด 6 เท่า ส่วน iPhone 12 Pro Max ซูมได้สูงสุด 7 เท่า
แต่คุณสมบัติเฉพาะด้านการถ่ายภาพที่มีเพียง iPhone 12 Pro Max เท่านั้นก็คือ ระบบเซนเซอร์ป้องกันภาพสั่นไหว ที่ปกติจะมีในกล้องถ่ายภาพระดับพรีเมียมเท่านั้น ซึ่งนั่นเท่ากับ การถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอของ iPhone 12 Pro Max จะมีความเสถียรมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมดอย่างแน่นอน