6 พ.ย. 2020 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# ราชาขอทาน
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนคนนั้นดีพอหรือพอดีสำหรับเราแล้วจริง ๆ อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
ราชาผู้ไม่มีทายาท
ประเทศแห่งหนึ่ง ถูกปกครองโดยกษัตริย์ ผู้ซึ่งไม่มีบุตรชายในการสืบทอดราชบัลลังก์ อีกทั้งในตอนนี้ พระองค์ก็เริ่มชราภาพมากขึ้นแล้ว เขาจึงต้องการเลือกรัชทายาทที่เหมาะสมเพื่อมาปกครองประเทศ
กษัตริย์ได้สั่งให้เหล่าทหารทั้งหลาย ไปประกาศให้ทั่วประเทศ เพื่อเชิญชายหนุ่มผู้ทรงคุณวุฒิทุกคนในประเทศเข้ามาสัมภาษณ์กับพระองค์
ซึ่งผลของการสัมภาษณ์นั้น กษัตริย์จะเป็นผู้ตัดสินโดยคุณสมบัติเดียวที่พระองค์ทรงคาดหวังไว้ ก็คือ “เขาคนนั้นควรมีความรักอันยิ่งใหญ่ต่อเพื่อนมนุษย์ทุกผู้ทุกคน”
3
ความต้องการ
และในวันนั้น ชายหนุ่มทุกผู้ทุกคนจากทั่วทุกสาระทิศก็ต่างตื่นเต้นในความเป็นไปได้ ที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้ปกครองประเทศคนต่อไป
ซึ่งอีกด้านหนึ่งของเมือง ชายหนุ่มผู้ยากไร้ จากหมู่บ้านอันแสนห่างไกล ก็ได้อ่านประกาศดังกล่าวด้วยเช่นกัน และเขาก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ที่กษัตริย์ กำลังจะจัดขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ชายคนนี้เป็นเด็กใจดี ทำงานหนัก แต่เขายากจนมากเนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เขาจึงไม่มีเสื้อผ้าที่ดีพอ หรือเรียบร้อยพอ ที่จะใช้ในการเข้าเฝ้า หรือเผชิญหน้ากับกษัตริย์ของเขาได้เลยสักชุดเดียว
1
ครุ่นคิดและพยายาม
ดังนั้นชายหนุ่ม จึงทำงานหนักมากขึ้น และมากขึ้น เพื่อเก็บเงินสำหรับซื้อเสื้อผ้า ไปจนถึงของใช้ที่เหมาะสม เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลไปยังพระราชวังในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้
หลังจากที่เขาได้สิ่งของ และเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับการสัมภาษณ์แล้ว ชายหนุ่มก็ออกเดินทางไปยังพระราชวังในทันที เขาใช้เวลาในการเดินทางมาแล้วหลายวัน และเกือบจะถึงจุดหมายมากขึ้นทุกที
แต่แล้วการเดินทางของเขาก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อเขาได้พบกับขอทานผู้น่าสงสารข้างถนนคนหนึ่งเข้า ซึ่งขอทานผู้น่าสงสารคนนี้ กำลังนั่งตัวสั่นเทา กับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเกินกว่าวันไหน ด้วยเศษผ้าที่ขาดรุ่งริ่งห่อหุ้มตัวไว้
ขอทาน
ซึ่งทันทีที่ขอทานเห็นชายหนุ่ม เขาก็ยื่นแขนออกมาและทำท่าทางวิงวอนขอความช่วยเหลือ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น สีหน้าที่เศร้าหมอง และสภาพร่างกายที่ดูอ่อนแอว่า “ฉันหิวและหนาวมาก ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะ…..”
หลังจากที่ได้ฟังเช่นนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกสะเทือนใจกับสภาพที่ได้เห็นของขอทานคนนี้เป็นอย่างมาก เขาจึงถอดชุดใหม่และเสนอให้เขาใส่ในทันที นอกจากนี้เขายังจัดหาอาหารที่มีอยู่อย่าง จำกัด ให้ขอทานคนนั้นไปอีกด้วย ซึ่งอาหารนั้นก็เป็นอาหารชุดเดียวและชุดสุดท้ายที่เขาเหลือติดตัวมาตลอดการเดินทางด้วยเช่นกัน
ขอทาน ที่ได้ของมา จึงรีบกล่าวคำขอบคุณ ชายคนนั้นด้วยท่าทางที่ยินดีปรีดาเป็นอย่างมาก ที่ได้พบกับชายหนุ่มคนนี้ ที่ยอมสละเสื้อผ้าที่ดีให้กับขอทานสกปรก ๆอย่างเขาโดยไม่คิดลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้พบกัน
และเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ชายหนุ่มก็เกิดลังเลใจว่าเขาควรจะไปสัมภาษณ์ทั้งสภาพเช่นนั้นดีไหม แต่หลังจากยินครุ่นคิดได้ครู่หนึ่ง เขาก็คิดได้ว่า เขารวบรวมความกล้ามามากพอแล้ว ที่จะเข้าไปในพระราชาวังด้วยเสื้อผ้าสกปรกเก่า ๆ ที่เขาสวมเป็นปกติเช่นนี้
จนเมื่อเขามาถึงพระราชวัง ทหารองครักษ์ก็ชี้ให้เขาได้เห็นทางที่จะไปยังห้องโถงใหญ่ ซึ่งระหว่างทางเดิน เขาก็ได้หยุดเพื่อปัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากตัวเขาเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ถูกนำทางเข้าไปยังห้องที่กษัตริย์ทรงนั่งอยู่บนบัลลังก์เพื่อเฝ้ารอสัมภาษณ์
ชายหนุ่มก้มหัวลงต่ำ ทันทีที่กษัตริย์เดินเข้ามาใกล้ ๆ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองที่พระพัก เขาก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของกษัตริย์ท่านนี้ ดูคล้ายกับชายขอทานคนที่เขาได้พบระหว่างทางอย่างหน้าประหลาดใจ
น่าแปลกใจ
กษัตริย์ ที่เห็นความตกใจในแววตาของชายคนหนุ่ม พระองค์จึงตรัสว่า "ใช่...ฉันเป็นขอทานที่คุณพบระหว่างทางนั้นแหล่ะถูกแล้ว"
“แต่…ทะ…ทะ…ทำไม พระองค์จะต้องแต่งตัวเหมือนขอทานด้วยล่ะครับ ทั้งที่คุณเป็นถึงกษัตริย์เลยนะ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำเช่นนั้นกับผมเลย” ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก
“เพราะฉันต้องแน่ใจว่า คุณจะเป็นคนที่มีจิตใจดี และรักเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงหรือไม่ ยังไงล่ะ” กษัตริย์ตรัส “ฉันรู้ว่า ถ้าฉันมาหาคุณในฐานะกษัตริย์ คุณก็อาจจะทำทุกอย่างเพื่อให้ฉันประทับใจ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็คงไม่มีทางรู้ว่าแท้จริงแล้วในใจคุณคิดอะไรอยู่ ฉันจึงต้องใช้อุบาย ปลอมเป็นขอทานที่ไม่มีอะไรติดตัวเลยไปเฝ้าดูพฤติกรรมของคุณ
พิสูจน์
เพราะความเอื้ออาทร และความรักต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน คือสัญลักษณ์ของหัวใจที่ยิ่งใหญ่
และเมื่อพิจารณาถึงความรัก ความเอื้ออาทรต่อขอทานคนที่คุณได้ช่วยไปนั้น มันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคุณรักเพื่อนมนุษย์ด้วยความจริงใจ ประเทศนี้ต้องการผู้นำที่ทำงานเพื่อความผาสุกของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่คนที่หวังเพียงรับตำแหน่งและนั่งบนบัลลังก์เฉย ๆ
และฉันก็ได้เห็นมากพอแล้วว่าคุณ เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด ที่จะเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไปของฉัน” กษัตริย์กล่าว ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “ถ้าจะล้างสิ่งใดให้สะอาด ก็ต้องล้างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คนเราก็เช่นกัน ถ้าคิดจะเป็นคนดี มันก็จะต้องดีทั้งต่อหน้าและลับหลังเช่นกัน”
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา