#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่24,
(1/11/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
คืนวันอาทิตย์นี้ ขอส่งจันทร์เจ้าขา ตอนใหม่ ให้เพื่อนๆได้อ่านเพลิดเพลินก่อนนอนกันนะครับ 😇❤️💙💚🎶🎵
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 24 จันทรารัศมี (2)
#บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงผ่านวัดสุทธิฯ
แม่มดจ่ายเอามือลูบศีรษะคุณไกรสรที่นอนสะอื้นเสียใจอยู่บนตัก.. พลางถอนหายใจ แล้วพูดว่า..
“ข้าเคยบอกพ่อไกรสรหลายครั้ง แล้วว่า ข้าหลวงในราชสำนักทั้งหลาย มิเคยเห็นคุณไกรสรเป็นเพื่อนแต่อย่างใด..
ความผิดในครั้งนี้ของพ่อก็ยังไม่ปรากฏ..แต่ถึงกับลงมือฆ่าแกงกัน..โดยไม่มีแม้แต่จะคิดถามไถ่ไต่สวน..
ถ้าจะถือว่า พ่อไกรสรพาแม่หนูน้อยซ์ มาโดยมิสมควร
ก็นับว่าผิดโดยธรรมเนียมอยู่..แต่โทษนั้นก็คงเพียงแค่ลงหวาย..
แต่พอพ่อไกรสรจะส่งหนูน้อยซ์คืนให้ กลับใช้ยันต์อสุนิบาตฟาดใส่..จนหนูน้อยซ์ต้องเซ่นสังเวยเพลิงอัคคีนั้น..
แล้วยังจะยิงกระสุนไล่ตามหลัง อีกจนลับตา ..
นี่รึคือ เพื่อนของพ่อไกรสร
ช่างใจคออำมหิต อะไรเช่นนี้..นะพ่อไกรสร”
คุณไกรสรสะอื้นเบาๆ เอ่ยตอบว่า..
“กระผมเป็นคนผิดเองขอรับ..ที่พาคุณหนูน้อยซ์มาจนเกิดเหตุเช่นนี้ ..ฮือออ.. ฮือออ..
คุณหนูน้อยซ์ เธอจิตใจงาม..มิเคยคิดร้ายกับผู้ใด แต่กลับต้องโดนทำร้ายอย่างนี้.. มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆขอรับ..
ฮือออ..”
คุณไกรสรหลับตาสะอื้น ตัวโยน น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย เมื่อคิดถึงคุณหนูน้อยซ์..
“จนป่านนี้ พ่อไกรสร ก็ยังจะไม่คิดแค้น ราชสำนักและบรรดามิตรของพ่ออีกเลยรึ..นี่พ่อต้องเห็นคนตายอีกกี่คน ..
ต้องเห็นการพลัดพรากสูญเสียอีกกี่หน.. พ่อถึงจะคิดสู้ และต่อต้านราชสำนักจริงๆจังๆ เสียที ฮึ..”
แม่มดจ่าย เอ่ยขึ้นอย่างขัดใจ แล้วจึงค่อยระบายลมสีเขียว เป็นเส้นยาว ออกมาช้าๆ บนฝ่ามือ..
จากนั้นลมสีเขียวมรกตนี้ ก็หมุนวนขยับได้เองราวกับมีชีวิต.. และค่อยๆไต่เลื้อยวน ลงจากมือ ..เข้าไปในหูของคุณไกรสร อย่างไม่รู้ตัว..
แม่มดจ่าย มองหนอนคุณไสยที่ชอนไชหายเข้าไปในคุณไกรสรแล้ว จึงเอ่ยวาจาสำทับ พร้อมกับ เป่าโอมสวาหะ..กำกับอีกครั้ง..
“เพลิงเผา ผลาญพราก
ชีวิต,
ลิขิต เข่นฆ่า
อาสัญ,
เพลิงแค้น สุมโหม
โรมรัน,
พยาบาท ลงทัณฑ์
เพลิงเผา..”
“โอม สวาหะ”
..
..
คุณไกรสร จึงค่อยสงบได้และก่อนที่คุณไกรสรจะหลับตาลง ..
สีเขียววาววาบ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาคุณไกรสร..
พร้อมกับ ละเมอสบถ ออกก่อนที่จะเข้าสู่ภวังค์นิทราว่า..
“ไอ้พวกชาติชั่ว..ข้าจะส่งพวกเจ้าทุกคน ที่มีส่วนในการพรากชีวิตคุณหนูน้อยซ์
ลงไปชดใช้กรรมในอเวจีนรก กันเสียทุกคน..”
..
..
..
เรือลำน้อย ค่อยๆลอยห่าง ออกไปจากวัดวิสุทธิวราราม แลพระนคร..
พร้อมกับ ฝูงอีกาฝูงใหญ่ ที่บินวนเวียนติดตาม.. และส่งเสียงร้องคล้ายเสียงหัวเราะของปีศาจ..ดังไล่ตามหลังอย่าง ยินดีกับการกำเนิดของปีศาจแห่งความโกรธแค้นตนใหม่..
นามว่า “เจ้าไกรสร”
..
..
จบบทที่4 ตอนที่ 24
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
#วัดสุทธิวราราม
เมื่อครั้งพระยานครศรีธรรมราช ได้ถูกนำตัวเข้ามาพักในพระนคร สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน
พระยานครศรีธรรมราชได้
ขอพระราชทานสร้างวัดใกล้ๆ กับวัดคอกควายหรือที่เรียกว่า “วัดยานนาวา” ในปัจจุบัน โดยยกเนื้อที่พระราชทานถวายเป็นที่วัด 48 ไร่ เบื้องต้นไม่ปรากฏชื่อวัดชัดเจน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2319 สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงแต่งตั้งให้พระยานครศรีธรรมราช (หนู) กลับไปครองเมืองนครศรีธรรมราชดังเดิม และพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระเจ้านครศรีธรรมราช ให้มีเกียรติเสมอเจ้าประเทศราช มีอำนาจแต่งตั้งขุนนางตามแบบจตุสดมภ์ได้เช่นเดียวกับราชธานี
วัดแห่งนี้ก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่าอยู่ในอุปภัมป์ของผู้ใดหลังจากนั้น ต่อมาภายหลังมีชาว "ลาวเวียง" ซึ่งถูกการกวาดต้อนมาจากกรุงเวียงจันทน์ตั้งแต่สงครามเจ้าอนุวงศ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้กับวัด จึงเป็นที่มาให้คนทั่วไปเรียกวัดแห่งนี้ว่า "วัดลาว"
เมื่อวัดลาวตั้งมาได้เป็นระยะเวลาประมาณ 100 ปี ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดเพลิงไหม้วัดทั้งหมด จึงต้องย้ายวัดไปสร้างในที่ป่าช้าของวัด ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดสุทธิวรารามในปัจจุบัน..
นอกจากนี้ จากจารึกในแผ่นศิลาที่ติดไว้หน้าโบสถ์หลังเก่า ระบุว่า วัดนี้เดิมเป็นวัดร้าง เมื่อปี ร.ศ. 100 ปีมะเส็ง จุลศักราช 1243 ตรงกับพุทธศักราช 2424 ท่านผู้หญิงสุทธิ์ ภริยาเจ้าพระยาสงขลา (เม่น ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ลำดับที่ 6 ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสร้างขึ้นใหม่ และเมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดสุทธิวราราม” ตามนามของท่านผู้หญิงสุทธิ์
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
1/11/2020
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
