2 พ.ย. 2020 เวลา 05:52 • ประวัติศาสตร์
บทความที่ 51 Joan of Arc (สตรีผู้พิชิตสงคราม 100 ปี)
โยน ออฟอาร์ต เป็นใคร
Who was Joan of Arc
วีรสตรีแห่งชาติฝรั่งเศส, โยน ออฟอาร์ค ในวัยเพียง 18ปี ได้นำกองทับบกฝรั่งเศสรบชนะกองทัพอังกฤษที่ Orleans. ในปีต่อมาโยน ได้ถูกชาวอังกฤษและนักรบผู้กล้าที่ร่วมอุดมการณ์จับกุมตัว เธอถูกประหารชีวิตด้วยถูกมัดติดกับเสาและจุดไฟเผาทั้งเป็นด้วยข้อหาเป็นคนนอกรีต (คนนอกศาสนา) เธอได้รับการสถาปนาเป็น (Saint) นักบวช โรมันคาทรอริก ใน 500 ปีต่อมา วันที่ 16 พฤษภาคม, 1920.
ประวัติภูมิหลังของเธอ
Historical Background
ในช่วงเวลาที่โยน ออฟอาร์ค เกิดที่ประเทศฝรั่งเศสมีการสู้รบกับอังกฤษอย่างต่อเนื่องยืดเยื้อจนได้ชื่อว่าสงครามร้อยปี (ศตวรรษ) สงครามเริ่มจากข้อพิพาทว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจบัลลังก์ของฝรั่งเศสคนต่อไป อีกประการหนึ่ง ก่อนศตวรรษที่ 15 ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสนั้นยังไม่มีการทหารตรึงชายแดนต่อผู้กระทำความผิด
ชีวิตในวัยเด็ก
Early Life
โยน ออฟอาร์ค, มีชื่อเล่นว่า “หญิงบริสุทธิแห่งโอลีนส์” เกิดในปี ค.ศ. 1412 ที่เมือง
Domremy ประเทศฝรั่งเศส เป็นลูกชาวนาจนๆคนหนึ่งที่ต้องเข่านาทำกิน บิดาชื่อ Jacques d’ Arc ภรรยาชื่อ Isabelle และเป็นรู้จักกันดีในนามของ Romee โยนได้ร่ำเรียนและปฏิบัติตามความเชื่อในศาสนาอย่างเคร่งครัดและสนใจในการบ้านการ เรือนจากคุณแม่เป็นอย่างดีเธอไม่เคยเดินทางห่างไกลจากบ้านเกิดเลย โยนดูแลสัตว์เลี้ยงต่างๆและมีความชำนิชำนาญด้านเย็บปักถักร้อย
ในปี 1415, กษัตริย์ เฮนรี่ที่ 5 ของอังกฤษที่รุกรานทางตอนเหนือของฝรั่งเศส หลังจากที่ยอมจำนนตามสัญญาที่โจมตีฝรั่งเศสจนพ่ายแพ้แตกกระจัดกระจาย, อังกฤษจึงได้รับผลประโยชน์ในการสนับสนุนจากคนพื้นเมืองในประเทศฝรั่งเศส ในปี 1420 สนธิสัญญา ทรอยส์ ยังให้เฮนรี่ 5 ขึ้นครองราชย์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน กษัตริย์ Charles ที่6
เฮนรี่จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจหลังจาก Charles สวรรคต อย่างไรก็ดีปี 1422 เฮนรี่ และชาร์ลสทั้งสองพระองค์ได้สวรรคต ภายในสองเดือนต่อมา และเฮนรี่ได้มีโอรสเป็นรัชทายาทที่ยังแบเบาะเป็นกษัตริย์ขึ้นครองราชอาณาจักรทั้งสอง ชาวฝรั่งเศสที่สนับสนุนโอรสของ Charles เป็นกษัตริย์ในอนาคคือ Charles ที่ 7 ราชวงศ์ฝรั่งเศส
ในช่วงเวลาดังกล่าว โยน ออฟอาร์ค เริ่มเรียนรู้มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเวทย์มนต์ของขลังทำให้เธอใช้ชีวิตมีความ ศรัทธาเคร่งในศาสนามาก ยิ่งเวลาล่วงผ่านมายิ่งมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าของ นักบวช Michael และนักบวช Catherine ได้เล็งเห็นเธอคือผู้จะช่วยกู้ชาติฝรั่งเศสให้รอด และหนุนใจเธอให้เข้าเฝ้า Charles ผู้คาดหวังว่าจะได้รับการสถาปนาเป็นมงกุฎราชกุมาร (รัชทายาทสืบต่อราชบัลลังก์) และขอพระบรมราชาอนุญาตที่จะขับไล่ชาวอังกฤษออกไป เพื่อสถาปนาพระองค์ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ที่ทรงสิทธิอำนาจสืบต่อไป
การเข้าเฝ้ารัชทายาท
Meeting with the Dauphin
ในเดือน พฤษภาคม ปี 1428 โยน มีนิมิตให้เธอเดินทางไปที่ Vaucouleurs และให้ไปติดต่อกับ Robert de Baudricourt ผู้บัญชาการป้อมปราการและเป็นผู้สนับสนุน Charles ในขั้นต้นนั้น Baudricourt ได้ปฎิเสธคำร้องของโจน แต่ในที่สุดหลังจากที่ชนะใจชาวบ้านชาวเมืองที่เห็นดีเห็นชอบด้วย
ในปี 1429 ผบ.ป้อมปราการ ได้ยินยอมมอบม้าให้ และกำลังพลจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยอารักษ์ขา โยน ได้กล้อนผมสั้นและแต่งตัวเป็นชายตลอดระยะเวลา 11 วันในการเดินทางฝ่าชายแดนของศัตรูที่มีผู้ก่อการร้ายที่เป็นทางผ่านเพื่อไป Chinon ที่ตำหนักของ Charles
แรกเริ่ม Charles ก็ไม่มีความมั่นใจว่าเด็กสาวหน้าตาดีคนนี้จะมีอะไรดี เพื่อขอเข้าเฝ้าพระองค์และจะขอกู้ชาติฝรั่งเศสให้เป็นไท โยนสามารถมีชัยในพระองค์รู้ว่าคนไหนคือพระองค์ทั้งๆที่พระองค์ไม่ทรงเปิดเผยตัวจริงขณะที่อยู่รวมกันกับคนอื่นๆจำนวนมากในตำหนักของพระองค์
ทั้งสองได้เสวนาเป็นการส่วนตัว ในระหว่างนั้น โยน เปิดเผยทุกอย่างอธิษฐานจริงจัง Charles ได้อธิฐานให้พระเจ้าคุ้มครองฝรั่งเศสรอดปลอดภัย แต่พระองค์ยังคงไม่แน่ใจโยน ทรงให้คณะโหราจารย์ตรวจสอบนางอีกครั้ง ปรากฏว่าโหราจารย์ทูลว่าไม่ปรากฏสิ่งใดไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับนาง เพียงพบว่า โยน เป็นคนถือเรื่องพรมจรรย์และอ่อนน้อมถ่อมตน
 
สงคราม แห่งราชวงค์ออร์ลีนส์ของฝรั่งเศส
The Battle of Orléans
ในที่สุด Charles ได้มอบเสื้อเกราะและม้าแก่ โยน ออฟ อาร์ต ซึ่งหญิงสาวมีอายุเพียง 17 ปีและอนุญาตให้ติดตามนำทัพไปรบที่ โอลีนส์ ที่เป็นฐานตั้งมั่นคอยโอบล้อมโจมตีข้าศึกของอังกฤษ ประวัติการสู้รบที่ต่อเนื่อง ระหว่าง 4 พฤษภาคม และ 7 พฤษภาคม 1429 กองทัพของฝรั่งเศสได้เข้ายึดและควบคุมป้อมปราการของอังกฤษไว้ได้
โยน ได้รับบาดเจ็บ แต่ในเวลาต่อมาได้กลับเข้าไปอยู่ในแนวหน้าเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในหน่วยจู่โจมขั้นเด็ดขาด ก่อนจะถึงกลางเดือนมิถุนายน กองทัพฝรั่งเศสได้ มีชัยต่อกองทัพอังกฤษที่ถูกตีแตกพ่ายไป การรบครั้งนั้นเขาทั้งหลายสัมผัสได้ว่าช่าง เป็นเรื่องเหลือเชื่ออะไรเช่นนั้น
ถึงแม้ว่า Charles จะยอมรับในภารกิจที่โยนได้รับมอบหมาย แต่ทว่าพระองค์ก็ยังไม่ทรงแสดงออกถึงความไว้วางใจเธอเต็มที่ในการพิจารณาตัดสินใจหรือคำแนะนำของเธอแม้แต่น้อย ภายหลังที่ได้ชัยชนะการรบที่ Orleans เธอเพียรพยายามกระตุ้นสนับสนุนพระองค์ให้รีบเร่งสถาปนาพิธีสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ แต่พรจะ ะองค์และคณะที่ปรึกษาของพระองค์ทั้งหลายกลับทักท้วงความคิดนี้
อย่างไรก็ดีในที่สุด Charles และ คณะดำเนินการส่วนพระองค์ก็ได้สถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์ Charles ที่7 ในวันที่ 18 กรกฎาคม 1429.โยนก็อยู่เคียงข้างพระองค์ที่ยุ่งอยู่กับการปฏิบัติภารกิจในพิธีราชาภิเษกอย่างเปิดเผยเป็นทางการ
การจับกุมและพิพากษาความผิด
Capture and Trial
ในฤดูใบไม้ผลิในปี 1430 กษัตริย์ ชาร์ลส ที่7 มีรับสั่งให้ โยน ไปยัง Compiegne แนวหน้าของ Burgundian เพื่อจู่โจม ในระหว่างการสู้รบนั้นเธอได้ถูกเหวี่ยงตกจากหลังม้าและถูกทอดทิ้งไว้ที่หน้าประตูเมือง
ชาว Burgundians ได้จับกุมเธอไว้เป็นเชลยศึก และจองจำเธอไว้เป็นเวลาหลายเดือน
มีการต่อรองกับชาวอังกฤษผู้ซึ่งเล็งเห็นคุณค่าของเธอเพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในการชวนเชื่อมีมูลค่าเป็นรางวัล ในที่สุด ชาว Burgundians เสนอให้มีการไถ่ตัว Joan เป็นเงิน 10,000 ฟรังส์
กษัตริย์ ชาร์ลส ที่7 (CharLes VII) ยังขาดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจ และยังไม่เลื่อมใสในแรงบันดาลใจของเธอ พระองค์จึงห่างเหินและไม่พยายามที่จะไถ่ตัวเธอ แม้ว่า Joan จะมีปฏิกิริยาต่อต้านกับบรรดาทหารอาชีพชาวอังกฤษก็ตาม เธอได้ถูกส่งไปยังที่โบสถ์เป็นทางการที่พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เธอว่าเป็นคนนอกรีดเธอถูกกล่าวหาถึง 70คดี ทั้งนี้รวมถึงการใช้เวทย์มนต์หรือมนต์ดำ มีความเห็นนอกรีดและสวมเสื้อผ้าแต่งตัวเป็นผู้ชาย
ในเบื้องต้น เธอได้ถูกพิพากษาในที่สาธารณะ แต่เปลี่ยนเป็นที่ส่วนบุคคลเมื่อเธอตอบ แก้ข้อกล่าวหาของโจทย์ได้ดีกว่า ระหว่าง วันที่ 21 กุมภาพันธ์ และ 24 มีนาคม 1431 เธอได้ถูกซักไซร้ไต่ถามจากศาลถึง 12 ครั้ง เธอก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์อ่อนน้อมถ่อมตนได้ดีเยี่ยมข้อกล่าวหาเธอนั้นล้วนไม่มีความผิด แทนที่เธอจะถูกส่งไปจองจำที่คุกในโบสถ์ที่มียามและแม่ชีดูแล กลับส่งเธอไปเป็นนักโทษในคุกทหาร
Joan ได้ถูกกระทำชำเราและทรมานเธอ ถึงกระนั้นก็ไม่มีการบันทึกไว้เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอป้องกันตัวเองด้วยเสื้อผ้าชุดทหารของเธอเองโดยผูกเชือกอย่างแน่นหนาถึงสิบสองรอบ ทหารก็หัวเสียหงุดหงิดที่ไม่สามารถแก้มัดเธอได้ ศาลยุติธรรม จึงฉวยโอกาสกล่าวหายัดเยียดคดีให้เธออีกว่าเธอสวมใส่เสื้อผ้าแต่งตัวเลียนแบบผู้ชาย
ความตาย
Death
วันที่ 29 พฤษภาคม 1431 ศาลยุติธรรม ได้ประกาศว่า โยน ออฟอารค มีความผิดฐานเป็นคนนอกรีด เช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม เธอได้ถูกนำตัวไปที่ชุมชนพบปะกัน (ตลาดสินค้า) ในเมือง Rouen และเธอถูกเผาตายทั้งเป็นที่มัดติดกับเสา ท่ามกลางสายตาของชุมชนนับหมื่นคน เธอมีอายุเพียง 19ปี ตามตำนานเล่ากันว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าหัวใจของเธอดำรงอยู่ได้อย่างไรที่เธอไม่สะทกสะท้านที่ถูกไฟเผาทั้งเป็น อังคารของเธอได้ถูกลอยไปตามตาข่ายจับปลาขนาดใหญ่
พลิกคดีมรดกตกทอด
Retrial and Legacy
ภายหลังการวายชนม์ของโยน, สงครามร้อยปี (ศตวรรษ) ก็อุบัติขึ้นอีกครั้งยาวนานถึง 22ปี กษัตริย์ Charles ที่7 ยังคงยั่งยืนนานในมงกฎของพระองค์ และพระองค์ทรงมีรับสั่งให้ทำการพลิกคดีทำการสอบสวนใหม่ในปี 1456 ให้ประกาศเป็นทางการว่า โยน ออฟอาร์ค บริสุทธิ์ไม่มีความผิดในทุกข้อกล่าวหา และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้ยอมพลีชีพเพื่อชาติ ได้ประกาศเป็นทางการว่าเธอคือ นักบุญ (Saint) เมื่อ 16 พฤษภาคม 1920 และ นับว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของฝรั่งเศส.
#IOU# Joan of Arc (สตรีผู้พิชิต สงคราม100 ปี)
ฉบับปรับปรุง: 4 มีนาคม 2020 ต้นฉบับ: 28 กุมภาพันธ์ 2018
ผู้ยอมพลีชีพ/Martyr, Joan of Arc ผบ. การทหารด้วยการทรงนำของพระเจ้า
ผู้นำทัพฝรั่งเศส ได้มีชัยอังกฤษในสงครามยืดเยื้อร้อยปีได้สำเร็จ
Reference ://www.biography.com/military-figure/joan-of-arc
โฆษณา