3 พ.ย. 2020 เวลา 00:07 • ธุรกิจ
"ความย้อนแย้งของคุณค่า" เป็นอย่างไร?
ทำไมน้ำมีคุณค่ามากกว่าเพชร?
แนวคิดอรรถประโยชน์ คืออะไร?
กฎของการลดลงของอรรถประโยชน์หน่วยสุดท้าย?
สมมติว่าคุณกำลังเล่นเกมโชว์
และคุณเลือกรางวัลได้!
ระหว่าง เพชร หรือ น้ำหนึ่งขวด
คุณจะเลือกอะไร?
ความย้อนแย้งของคุณค่า ภาพ (๑/๒)
เป็นตัวเลือกที่แสนง่ายใช่ไหม?
เพราะเพชรมีค่ามากกว่าโดยไม่ต้องสงสัย
ทีนี้ลองสมมติว่า คุณได้ตัวเลือกเดียวกันนี้
แค่คราวนี้คุณไม่ได้อยู่ในเกมโชว์
แต่กำลังขาดน้ำอยู่กลางทะเลทราย
หลังจากเร่ร่อนอยู่หลายวัน
คุณจะเลือกเหมือนเดิมไหม?
ทำไมล่ะ?
เพชรไม่ได้มีค่ามากกว่าแล้วหรือ?
นี่คือ... "ความย้อนแย้งของคุณค่า"
ซึ่งได้รับการอธิบายไว้อย่างเป็นที่รู้จักกันดี
โดยนักเศรษฐศาสตร์รุ่นบุกเบิก อดัม สมิธ
หลักการนี้อธิบายว่า...
การนิยามคุณค่าไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น
ในเกมโชว์
คุณคิดถึงมูลค่าที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนของสิ่งของ
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณอาจได้รับในภายหลัง
แต่ในยามฉุกเฉิน
อย่างเช่นสถานการณ์ในทะเลทราย สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ...
คุณค่าในการนำไปใช้ของมัน ประโยชน์ของมัน ในสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ
และเพราะว่า...
เราสามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียว เราจึงต้องพิจารณา ต้นทุนค่าเสียโอกาสของมัน พูดอีกอย่างก็คือ เราจะเสียอะไรไป ถ้าเราเลือกอีกตัวเลือกหนึ่ง
เพราะในที่สุดแล้ว...
มันไม่สำคัญว่าคุณจะขายเพชรได้เงินเท่าไร ถ้าคุณไม่สามารถรอดออกไป จากทะเลทรายได้
นักเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่จำนวนมาก ศึกษาเกี่ยวกับความย้อนแย้งนี้ โดยพยายามรวบรวม การพินิจพิจารณาเหล่านี้ ภายใต้ "แนวคิดอรรถประโยชน์"
#สาระจี๊ดจี๊ด
แนวคิดอรรถประโยชน์ หมายถึง การที่สิ่งต่าง ๆ สามารถตอบสนอง ความอยากหรือความต้องการของบุคคลได้
อรรถประโยชน์นำมาใช้ได้กับทุกสิ่ง ตั้งแต่อาหารซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐาน ไปจนถึงความสุขในการได้ฟังเพลงโปรด ซึ่งต่างกันไปตามแต่ละบุคคล และสถานการณ์
ระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดให้ทางเลือก ที่ง่ายดายกับเราในการวัดอรรถประโยชน์ พูดง่าย ๆ
ก็คือ...
"อรรถประโยชน์ที่ของบางสิ่งมีต่อคุณ จะสะท้อนถึงราคาที่คุณยินดีจ่ายเพื่อให้ได้มา"
ความย้อนแย้งของคุณค่า ภาพ (๒/๒)
ตอนนี้...
ลองกลับไปนึกถึงทะเลทรายอีกครั้ง
คราวนี้...
คุณจะได้รับเพชรเม็ดใหม่ และน้ำขวดใหม่ ในทุก ๆ 5 นาที
ถ้าคุณเป็นเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ ก็จะเลือกน้ำดื่มให้มากพอสำหรับการเดินทาง แล้วค่อยเลือกเพชรให้ได้มากเท่าที่คุณจะขนไปได้ นี่เป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่า...
"อรรถประโยชน์หน่วยสุดท้าย"
และมันหมายความว่า...
เมื่อคุณเลือกระหว่างเพชรกับน้ำ
คุณจะเปรียบเทียบอรรถประโยชน์ ที่ได้รับจากน้ำขวดต่อ ๆ ไป กับเพชรเม็ดต่อ ๆ ไป และคุณจะเปรียบเทียบมันทุกครั้ง ที่ได้รับข้อเสนอ
น้ำขวดแรกมีค่าเกินกว่าเพชรทั้งปวง
แต่ในที่สุด
คุณก็จะได้รับน้ำมากเพียงพอ
เมื่อผ่านไปสักพักหนึ่ง
การหอบหิ้วน้ำ ที่มากเกินไปก็จะกลายเป็นภาระ ซึ่งนั่นก็เป็นเวลาที่คุณเริ่มอยากได้เพชรมากกว่าน้ำ และไม่เพียงแต่กับสิ่งจำเป็นอย่างน้ำเท่านั้น
สำหรับสิ่งของเกือบทุกสิ่ง ยิ่งคุณได้รับมันมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งรู้สึกพอใจและได้ประโยชน์ จากมันน้อยลงเท่านั้น
นี่คือ
"กฎของการลดลงของอรรถประโยชน์หน่วยสุดท้าย"
คุณอาจดีใจที่ได้ซื้ออาหารโปรด สักสองหรือสามอย่าง แต่อย่างที่สี่อาจทำให้คุณเริ่มคลื่นไส้ และอย่างที่หนึ่งร้อยอาจเน่าไปเสียก่อนที่คุณจะได้กินมัน
หรือคุณอาจจะจ่ายเงินเพื่อดูหนังเรื่องเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะเบื่อไปข้างหนึ่ง หรือจนกว่าคุณหมดเงิน ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณจะไปจบอยู่ที่จุดหนึ่งที่อรรถประโยชน์หน่วยสุดท้ายจากการซื้อตั๋วหนังใบถัดไปกลายเป็นศูนย์
อรรถประโยชน์ไมได้อธิบายแค่การเลือกซื้อ แต่อธิบายการตัดสินใจด้วย วิธีที่ชาญฉลาดในการได้ประโยชน์สูงสุด และหลีกเลี่ยงการได้รับผลตอบแทนที่ลดลง คือ...
"การกระจายทางเลือกในการใช้เวลาและทรัพยากร"
หลังจากที่ความต้องการขั้นพื้นฐานของเรา ถูกเติมเต็มแล้ว
โดยทฤษฎีแล้ว เราจะเริ่มตัดสินใจ ลงทุนในทางเลือกต่าง ๆ จนถึงแค่จุดที่ทางเลือกนั้น ยังมีประโยชน์และนำมาซึ่งความสุข
แน่นอนว่า...
ประสิทธิผลในการจัดการใช้อรรถประโยชน์ให้คุ้มค่าสุด ในชีวิตประจำวันของเราเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เราระลึกได้ว่า ที่มาของคุณค่าอันแท้จริงนั้นมาจากตัวเราเอง ความต้องการของเราที่แบ่งปันออกไป สิ่งต่าง ๆ ที่เราพอใจ และทางเลือกที่เราตัดสินใจ
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
พิสูจน์อักษรโดย วาลีพ
แหล่งที่มา
Akshita Agarwal
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา