5 พ.ย. 2020 เวลา 12:33 • ประวัติศาสตร์
ไก่ชนสยาม
“เหลืองหางขาว” ไก่ชนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ทุกคนคงจะทราบกันดีว่า “ไก่” นั้นถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับสังคมสยามมาเนินนาน และในทุกชนชั้นเจ้้าค่ะ โดยเฉพาะ "ไก่ชน” ถือได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมากแม้ในปัจจุบันที่เราเห็นๆกัน ในอดีตนั้นเจ้านายก็มักจะมีสัตว์เลี้ยงไว้ทรงเลี้ยง ซึ่งหนึ่งในที่ได้รับความนิยมมาเนินนานก็คงจะหนีไม่พ้น “ไก่ชน” นี้แหละเจ้าค่ะ
ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีตำนานไก่ชนที่ได้รับการกล่าวขานในหน้าประวัติศาสตร์ ในคราที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชนำไก่เหลืองหางขาวจากเมืองพิษณุโลกขึ้นสังเวียนชนกับไก่พระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี จนคว้าชัยชนะและได้รับสมญานามว่า “เหลือหางขาว ไก่เจ้าเลี้ยง” ตามตำนานที่หลายท่านเคยได้ยินมานั้นแลเจ้าค่ะ
ซึ่งวันนี้ฉันเลยจะมาเล่าถึงประวัติของไก่ชนสยามในตำนานตัวนี้กันเจ้าค่ะ ว่ามีความเป็นมายังไง … ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยยยย!
ไก่เหลืองหางขาว หรือ เหลืองหางขาว เป็นไก่ชนที่มีถิ่นกำเนิดที่ จ.พิษณุโลกเจ้าค่ะ ตามตำนานกล่าวว่า เหลืองหางขาวจัดเป็นไก่มีสกุลและชั้นเชิงด้านฝีมือสูง ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ไก่เหลืองหางขาวกินเหล้าเชื่อ” ซึ่งมีหมายถึง เมื่อนำไก่สีนี้ไปตี ให้เชื่อมั่นได้ว่าจะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน สามารถสั่งเหล้าเงินเชื่อมากินก่อนได้เลย
คราวนี้เรามาดูลักษณะเด่นตามตำราที่ได้กล่าวไว้ถึง เหลืองหางขาว กันเจ้าค่ะ
• อกชัน ยืนยืดอกหรือเชิดอก ทำให้ด้านท้ายของตัวลาดลงต่ำ แสดงถึงความเป็นไก่นักสู้
• หวั้นชิด ช่วงหางอยู่ชิด หรือติดกับบั้นท้ายตรงบริเวณเชิงกราน ทำให้ช่องว่างระหว่างบั้นท้ายกับเชิงกรานแคบ แสดงถึงความอึดและอดทน
• หงอนบิด หงอนไม่ตรง บิดเอียงไปด้านข้างเล็กน้อย แต่ไม่พับเอียงมากเกินไป
• ปากร่อง บริเวณจะงอยปากต้องเป็นร่องลึกทั้งสองข้างออกจากรูจมูก แสดงถึงความเข้มแข็ง ไม่หลุดหักง่าย
• พัดเจ็ด พบบริเวณขน เรียกว่า ขนพัด มีข้างละ 7 เส้น
• ปีกสิบเอ็ด ขนปีกท่อนนอกมีข้างละ 11 เส้น ช่วยในการบินได้ดี
• เกล็ดยี่สิบสอง เกล็ดที่นิ้วกลางนับรวมกันได้ 22 เกล็ด จัดเป็นไก่มีสกุล ตีเจ็บ ตีหนักและรุนแรงมาก
• สี สร้อยเหลือง ทั้งสร้อยคอ สร้อยปีก และสร้อยหลัง ลักษณะสร้อยประบ่า ระย้าประก้น หางยาวเหมือนฟ่อนข้าว กะลวย หางสีขาวยาวโค้งไปด้านหลัง ปลายห้อยตกลงมาสวยงาม หน้าแหลมยาว สร้อยหน้านกยูง
หลังจากที่เราได้ทราบถึงความเป็นมาของเหลือหางขาวแล้ว คราวที่เรามาดูในส่วนของตำนานจากแหล่งต่างๆ กันบ้างเจ้าค่ะ
“ วันหนึ่งได้มีการตีไก่ขึ้นระหว่างสมเด็จพระนเรศวรฯกับไก่ของมังชัยสิงห์ราช นัดดา (ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหาอุปราชา) ไก่ของสมเด็จพระนเรศวรตีชนะไก่ของมังชัยสิงห์ มังชัยสิงห์ขัดเคืองพระทัยจึงตรัส ประชดประชันหยามหยันออกมาอย่างผู้ที่ถือดีว่ามีอำนาจเหนือกว่าว่า “ไก่เชลยตัวนี้เก่งจริงหนอ” ถ้าไม่ใช่คนเหี้ยมหาญแกว่นกล้า ไม่ใช่คนสู้คนทุกสถานการณ์ก็คงจะได้แต่รับฟังหรือเจรจาโต้ตอบไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่สมเด็จพระนเรศวรฯไม่ใช่คนเช่นนั้น ทรงเป็นวีรขัติชาติที่ทรงสู้คนทุกสถานการณ์ จึงตรัสตอบโต้เป็นเชิงท้าอยู่ในทีว่า “ไก่เชลยตัวนี้อย่าว่าแต่จะตีกันอย่างกีฬาในวังเหมือนอย่างวันนี้เลย ตีพนันเอาบ้านเอาเมืองกันก็ยังได้” จากหนังสือพระมหากษัตริย์ไทย ของประกอบ โชประการ 2519 หน้า 208
“ขณะที่ไก่ของสมเด็จพระนเรศวรกับไก่ของพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดีกำลังชนกันอยู่อย่างทรหด ต่างตัวต่างจิกตีฟาดแข้งแทงเดือยอย่างไม่ลดละ ฝ่ายทางเจ้าของไก่ คือ พระนเรศวรและพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดีพร้อมทั้งข้าราชการ บริพาร ทั้งหลายที่เสมอนอก ก็เขม็งมองด้วยความตั้งอกตั้งใจและผู้ที่ปากเปราะหน่อย ก็ตีปีกร้องสนับสนุนไก่ข้างฝ่ายเจ้านายฝ่าย ของตนเป็นที่สนุกอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่ไก่ฟาดแข้งกันอย่างอุตลุดพัลวัน สายตาผู้ดูทุกคู่ต่างก็เอาใจช่วยและแทบว่าจะไปตีแทนไก่ก็ว่าได้คล้ายกับว่าไก่ชนกันไม่ได้ดังใจตนเมื่อทั้งสองไก่พัวพันกันอยู่พักหนึ่ง ไก่ของพระมหาอุปราชก็มีอันล้มกลิ้งไปต่อหน้าต่อตา ไก่ชนของพระนเรศวรฯกระพือปีกอย่างทระนงและขันเสียงใสพระมหาอุปราชถึงสะอึกสะกดพระทัยไว้ไม่ได้”
จากหนังสือของประยูร ทิศนาคะ : สมเด็จพระนเรศวร ฉบับออกอากาศ, พระนครหอสมุดกลาง 09,2513 ( 10 ) 459 หน้า 64 – 65
และนี้ก็คือเรื่องราวของ เจ้าเหลืองหางขาว ไก่ชนสยามในตำนาน ที่ถูกลำลือมาเนินนานเจ้าค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างเจ้าค่ะ แล้วมีใครในที่นี้เลี้ยงไก่ชนบ้างน๊าาาาาา เอามาโชว์ให้ฉันบ้างนะเจ้าค่ะ
Le Siam
"สยาม ... ที่คุณต้องรู้"
เขียนและเรียบเรียงโดย : Le Siam
อ้างอิง
-สำนักปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก
- หนังสือพระมหากษัตริย์ไทย ของประกอบ โชประการ 2519 หน้า 208
- หนังสือของประยูร ทิศนาคะ : สมเด็จพระนเรศวร ฉบับออกอากาศ, พระนครหอสมุดกลาง 09,2513 ( 10 ) 459 หน้า 64 – 65
โฆษณา