8 พ.ย. 2020 เวลา 07:49 • ประวัติศาสตร์
ยุคกลาง (The Middle Ages)
“ยุคกลาง (The Middle Ages)” เป็นยุคสมัยที่โดดเด่นและมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในแถบยุโรป
ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่มีเหตุการณ์และสิ่งใหม่ๆ หลายอย่างเกิดขึ้น และเป็นยุคที่เรียกได้ว่ามีสีสันมากที่สุดยุคสมัยหนึ่ง
ในปีค.ศ.476 (พ.ศ.1019) อาณาจักรโรมัน ได้ถึงคราวล่มสลาย และตลอดเวลาราว 1,000 ปีนับจากนั้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5-15 คือช่วงเวลาที่เรียกว่า “ยุคกลาง (The Middle Ages)”
ชีวิตของชาวในยุโรปในยุคนี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก มีคนเพียงไม่กี่คนที่อ่านออกเขียนได้ สิ่งที่ยังยึดเหนี่ยวผู้คนไว้ได้คือ “ศาสนา”
ผู้คนต่างหวังว่าเมื่อตนตายไป ตนจะได้ขึ้นสวรรค์ ไปมีชีวิตที่สุขสบาย
เมืองในยุคกลาง
ในยุคนี้ เป็นยุคที่ชนเผ่าต่างๆ ทำสงคราม รบพุ่งกันมากมาย
ทางเหนือของอาณาจักรโรมัน มีกลุ่มคนที่พูดภาษาที่คล้ายกับเยอรมันในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ก็คือชนเผ่าเยอรมัน
ในสมัยศตวรรษที่ 5 ชนเผ่าเยอรมันได้รุกรานอาณาจักรโรมัน โดยเผ่ากอทส์ (Goths) ทางตะวันออก ซึ่งมาจากรัสเซียและยูเครน ได้บุกรุกและยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอิตาลี กรีซ และบัลข่านทางตะวันตก ส่วนชาวแฟรงค์ (Franks) ก็ยึดครองฝรั่งเศส ในขณะที่พวกแซกซอนส์ (Saxons) ได้ยึดครองตอนใต้ของอังกฤษ
ชนเผ่าเยอรมัน
ที่น่าสนใจอีกพวกหนึ่งคือ “ฮั่น (Huns)”
ชาวฮั่นมีถิ่นกำเนิดในเอเชียกลาง และได้บุกรุกอาณาจักรจีนตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้จักรพรรดิจีนต้องมีรับสั่งให้สร้างกำแพงเมืองเพื่อปกป้องเมือง
ในราวปีค.ศ.400 (พ.ศ.943) “อัตติลา (Attila)” ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำชาวฮั่น และนำทัพ มุ่งมายังยุโรป ทำให้ชนเผ่าอื่นๆ ต้องถอยไปทางตะวันตก
อัตติลา (Attila)
อัตติลาเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง หากแต่เมื่อสิ้นอัตติลา ทำให้ชาวฮั่นขาดผู้นำ และก็ถูกชนเผ่าเยอรมันเอาชนะได้ในเวลาต่อมา
ในข่วงเวลานี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่ศาสนาอิสลามเริ่มจะขึ้นมามีความสำคัญ
อิสลามเริ่มมีบทบาทมากในศตวรรษที่ 7 โดยศาสนาอิสลาม มีศาสดาคือ “มูฮัมมัด (Muhammad)” และมูฮัมมัดได้ก่อตั้งและปกครองรัฐอิสลามแห่งแรกในตะวันออกกลาง
ในระหว่างศตวรรษที่ 8-11 ศาสนาอิสลามได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทางแอฟริกาเหนือ ลามไปถึงสเปน รวมทั้งอินเดียและจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ ช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ “ไวกิ้ง (Viking)” มีบทบาท
ชาวไวกิ้ง คือนักรบที่มาจากแถบสแกนดิเนเวีย คือ นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก
ชาวไวกิ้งนั้นเชี่ยวชาญการล่องเรือ โดยเรือของไวกิ้งก็มีเอกลักษณ์ สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว
ภายในศตวรรษที่ 10 ชาวไวกิ้งก็ได้เข้ายึดครองส่วนหนึ่งของอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย อีกทั้งยังเคยล่องเรือไปถึงอียิปต์
กองทัพไวกิ้ง (ภาพจากภาพยนตร์)
ชาวไวกิ้งกลุ่มหนึ่งได้ตั้งรกรากที่นอร์มังดี ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส
ชาวไวกิ้งกลุ่มนี้คือ “ชาวนอร์มัน (Normans)”
ชาวนอร์มันพูดภาษาฝรั่งเศสและนับถือศาสนาคริสต์
ชาวนอร์มัน (Normans)
“พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ (William I)” หรือ “วิลเลียมผู้พิชิต (William the Conqueror)” กษัตริย์ชาวนอร์มัน ได้รุกรานอังกฤษในปีค.ศ.1066 (พ.ศ.1609)
ภายหลังจากที่พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ยึดครองอังกฤษ อังกฤษก็ต้องถูกปกครองโดยกษัตริย์ชาวนอร์มันที่ไม่พูดภาษาอังกฤษเป็นเวลานานกว่า 300 ปี
ชาวอังกฤษนั้นเกลียดพวกนอร์มัน และทั้งสองชาติก็เป็นศัตรูกันมาตลอด เป็นเวลานับร้อยปี
พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ (William I)
พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ทรงสร้างปราสาทและอาคารต่างๆ มากมาย โดยเงินค่าก่อสร้างก็มาจากภาษีของชาวอังกฤษ
ชาวนอร์มันนั้นนำภาษาฝรั่งเศสเข้ามาในอังกฤษ อีกทั้งยังยึดครองที่ดินของชนชั้นสูง และเป็นผู้สร้าง “หอคอยลอนดอน (Tower of London)”
หอคอยลอนดอน (Tower of London)
เหตุการณ์อื่นๆ ที่สำคัญ ก็เช่นสงครามครูเสด กาฬมรณะ ซึ่งผมเคยเขียนเป็นซีรีส์ไว้ สามารถหาอ่านได้ครับ
นับว่ายุคกลาง เป็นยุคสมัยที่คนรักประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดที่จะศึกษา เนื่องจากในยุคนี้ เป็นยุคที่โดดเด่นกว่ายุคอื่นมากจริงๆ
โฆษณา