14 พ.ย. 2020 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
Silicon Valley หุบเขาแห่ง “มหาอำนาจโลก” ep.2
Silicon Valley คือเมืองหนึ่งทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่เป็นศูนย์กลางบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หรือถ้าจะกล่าวกันง่ายๆ บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังจากทั่วโลก ต่างก็ตั้งสำนักงานอยู่ที่ Silicon Valley แห่งนี้
Silicon Valley มีมูลค่าการลงทุนเป็น 1 ใน 3 จากการลงทุนทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามการที่ Silicon Valley เติบโตจนเป็นฮับเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดได้ มีแรงหนุนสำคัญที่สุดมาจาก.. “การศึกษา”
แล้วการศึกษามีความสําคัญต่อการสร้างเมืองนี้อย่างไร ผู้เขียนจะพาไปหาคำตอบกัน..
เริ่มต้นในช่วงปี 1940 “เฟรเดริก เทอร์แมน” คณบดีวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ปลูกฝังให้ศิษย์ของตน และรุ่นน้องอาจารย์ด้วยกัน ก่อตั้งกิจการของตนเองในแถบมหาลัย (ย่านซิลิคอน วัลเลย์ ในปัจจุบัน)
ต่อมา ก็ได้มีบริษัทเทคโนโลยีสองบริษัทมาก่อตั้งในที่แห่งนี้
กระทั่งจับพลัดจับผลู พนักงานคนเก่งๆ จากทั้งสองบริษัท แยกย้ายออกมาก่อตั้งอาณาจักรของตนเอง
กระทั่งมีบริษัทเทคโนโลยีรุ่นใหม่ผุดขึ้นตามมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น Intel, Facebook, Google, Microsoft, Yahoo! Adobe และอื่นๆ อีกนับร้อย
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเบอร์ใหญ่บนเวทีโลก และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตนักเรียน นักศึกษาที่จบมาจากสถาบันในหุบเขา ซิลิคอน วัลเลย์ แห่งนี้
หุบเขามหาอำนาจแห่งนี้ ไม่ได้มีแรงหนุนหลักจากสแตนฟอร์ดแค่สถาบันเดียว
แต่ทั่วทั้งเมือง ยังรายล้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาที่สำคัญมากมาย
เช่น University of California – Berkeley, University of California – Santa Cruz
อย่างไรก็ดี จุดแข็งอันเป็นยุทธศาสตร์ เริ่มตั้งแต่ตัวบุคคลในวัยเด็ก
หากเด็กคนหนึ่ง ได้รับการศึกษาที่ดี พร้อมที่จะมาพัฒนาเมือง เมืองนั้นๆ ก็จะมีความรุ่งเรืองเสมอ
ที่ซิลิคอน วัลเลย์ มี “Public Schools” หรือโรงเรียนเทศบาลที่มีคุณภาพ
สามารถปลูกฝังจนเด็กคนนึงเติบโตขึ้นมีคุณภาพในสังคมโลกได้
ยกตัวอย่างเช่น Steve Jobs ประธานใหญ่ค่าย Apple ก็เคยผ่านการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลชื่อว่า “Homestead”
ซึ่งปัจจุบัน ได้เพิ่มสาขา Biotech และหุ่นยนต์ ให้กับนักเรียนประถม ได้ศึกษาตั้งแต่เยาว์วัย
3
นอกจากนี้แล้ว ระบบการศึกษาของซิลิคอน วัลเลย์ ถูกวางให้เป็นวัฒนธรรม
1
มหาวิทยาลัยย่านนี้ จะมีทุนร่วมมือกับสตาร์ทอัพรายใหม่ๆ ซึ่งสถาบันการศึกษาจะป้อนบัณฑิตเข้าร่วมงาน
ที่สำคัญ รูปแบบการปกครองยังให้อำนาจกับท้องถิ่น บริหารจัดการเอง โดยไม่ต้องรอหนังสือจากส่วนกลาง
จึงทำให้การปรับปรุง จนถึงการจัดการภาษี ทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
รู้ไหมว่าโรงเรียนมัธยม Homestead ที่ Steve Jobs เคยศึกษา
ถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกหลานมาเรียนที่นี่ ก็จำเป็นที่จะต้องย้ายถิ่นฐานมาซิลิคอน วัลเลย์ เท่านั้น
1
เพราะส่วนหนึ่ง จะช่วยลดปัญหาการจราจรระยะยาว
เด็กจากครอบครัวอื่น ที่อยู่นอกเหนือจากย่านนี้ จะไม่สามารถเข้าเรียนได้ แม้จะมีฐานะรำ่รวยแค่ไหนก็ไม่มีส่วนช่วยได้
เพราะ Homestead เรียนฟรี จึงเป็นแบบอย่างให้กับสถาบันอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ปรับคุณภาพจนกระทั่งมีวัฒนธรรมในรูปแบบที่เหมือนกัน
รู้ไหม ทุกๆ ปี จะมีหลายครอบครับที่ย้ายบ้านมาอยู่ที่ ซิลิคอน วัลเลย์
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องแลก ก็คือ ภาษีที่อยู่อาศัย (ทั้งบ้านและคอนโด) อัตราร้อยละ 1.1-1.6
และเงินนี้ จะไม่ถูกเก็บเข้าส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
แต่จะถูกใช้โดยองค์กรท้องถิ่น บริหารจัดการระบบการศึกษา สร้างโรงเรียน พัฒนาด้านต่างๆ ต่อไป
ด้วยระบบการศึกษาของ ซิลิคอน วัลเลย์ ที่มีคุณภาพ เป็นต้นแบบให้กับทั่วทุกเมืองทั่วโลก
เด็กทุกคนที่ได้รับการปลูกฝังจากที่นี่ จึงมีความคิดที่ก้าวไกล
แถมทุกความคิดจะถูกยอมรับ หรือที่เรียกว่ามีเสรีภาพทางความคิด
จึงทำให้วัฒนธรรมในองค์กร ที่ตั้งอยู่ย่านซิลิคอน วัลเลย์ กลายเป็นเสน่ห์ ดึงดูดบุคคลคุณภาพเข้ามาทำงาน
นี่แหละคือ ซิลิคอน วัลเลย์ หุบเขาแห่งมหาอำนาจของโลก..
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
โฆษณา