Blockdit Logo (Mobile)
IOU
•
13 พ.ย. 2020 เวลา 06:40 • ประวัติศาสตร์
บทความที่ 54 “Mao Zedong”
“ผู้นำผิดพลาด ปชช ล้มตายนับล้าน”
ในปี 1958 ประธานเหมา เจ๋อตง มีคำสั่งให้ฆ่านกกระจอกทั่วประเทศ เพราะฝูงนกกระจอกเหล่านี้ทำลายผลผลิตกินข้าวเปลือกในนาข้าวมากเกินไป นี่คือสาเหตุหนึ่งของหายนะที่เลวร้ายสุดของสิ่งแวดล้อมทีมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
26 กันยายน 2016 Goran Blazeski
สิ่งแวดล้อมเลวร้ายที่ผ่านมาเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันของส่วนรวมประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มีการบันทึกไว้แต่ก็มิอาจเปรียบเทียบได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในปี 1985 ท่านเหมา เจ๋อตง ผู้นำของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพระราชกฤษฎีกาออกคำสั่งให้ฆ่านกกระจอกทั่วประเทศ
เหมา เจ๋อตง ได้ตัดสินใจว่าประเทศจีนต้องปราศจากคนหรือสัตว์เป็นบ่อนทำลายเศรษฐกิจของชาติเช่นนกกระจอก เหมา เจ๋อตง มโนไปว่านก กระจอกแอบกินเมล็ดข้าวเปลือกในนาข้าว มากเกินไปจึงสมเหตุสมผลที่ต้องกำจัดทิ้งให้มันสิ้นซากตามหลักตรรกะ
ตามแนวความคิดของ เหมา เจ๋อตง กล่าวคือ นกกระจอกคืออุปสรรคในการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจของประเทศสารธารณะประชาชนจีน คาดการณ์ไว้ว่าในระหว่างสามปีข้างหน้าประชาชนจะประสบปัญหาข้าวยากหมากแพงอดอยากล้มตาย เมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ นโยบายการบริหารการจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาด สิ่งแวดล้อมที่ล่อแหลมเลวร้ายเกิดแพนนิคความหวาดกลัวทั่วประเทศ
1
เหมา เจ๋อตง ได้ประกาศว่าถึงเวลาแล้วที่สาธารณะรัฐประชาชนจีนที่ทันสมัยยุคใหม่จำต้องประยุกต์สิ่งใหม่ๆ (1 ตุลาคม 1949 มีภาพประกอบเหตุการณ์ตามภาพต้นฉบับ)
เหมา เจ๋อตง สัญญาจะรณรงค์หลายโครงการใหญ่ซึ่งพยายามให้บรรลุเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ทันสมัยล้ำยุคในประเทศจีน จะมีการรณรงค์สี่โครงการหนึ่งในโครงการขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดดอย่างเร่งด่วนระหว่างปี 1958-1962 ในการกำจัดฆ่านกกระจอกทั่วประเทศคือส่วนหนึ่งของการรณรงค์
ประชาชนจึงพร้อมใจกันรวมกำลังพลเพื่อช่วยกันกำจัดฆ่านกทั้งหมด บ้างก็ตีกลองตีเกาะเคาะไม้เพื่อขับไล่นกมิให้นกร่อนลงมาสู่พื้นดินเพื่อบังคับให้นกกระจอกโผบินจนหมดแรงตกลงมาตาย บ้างก็รื้อรังนกกระจอกทิ้ง บ้างก็ยิงนกกระจอกที่บินอยู่ตกลงมาจากท้องฟ้า เมื่อภารกิจไล่ล่าวิหกการรณรงค์เสร็จสิ้นยังผลให้นกกระจอกถูกฆ่าหมด
ไม่มีการรายงานว่าในประเทศจีนมีนกกระจอกจำนวนเท่าใดในปี 1958 แต่ถ้าแต่ละคนฆ่านกได้หนึ่งตัวนั่นหมายความว่าอย่างน้อยก็มีนกกระจอกถูกฆ่ามากกว่า 600 ล้านตัว กล่าวคือนกกระจอกหลายร้อยล้านตัวถูกฆ่าตาย แน่ละปัญหาที่ตามมาคือในปีต่อมาเห็นได้ชัดเจนว่าต้องเผชิญกับกองทัพแมลงที่บินลงมาทำลายแย่งกินผลผลิตในนาข้าวแทน
1
นกไม่ทำลายเพียงข้าวเปลือกในนาข้าวแต่มันยังกินแมลงศัตรูพืชเช่น ตั๊กแตนปาทังก้า ดังนั้นหลังจากรณรงค์กำจัดนกกระจอก ฝูงกองทัพตั๊กแตนปาทังกาก็ไร้นักล่านั่นหมายความว่าการกำจัดนกกระจอกนั้นเป็นการทำลายป้อมปราการแรกที่ช่วยเพิ่มผลผลิตในนาข้าวอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นกกระจอกไม่กินแค่เมล็ดข้าวเปลือกเท่านั้นแต่มันยังช่วยกำจัดกินแมลงต่างๆอีกด้วย
1
ประชากรตั๊กแตนปาทังกาเริ่มขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วและมันจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเรียบเป็นหน้ากอง ผลผลิตเมล็ดธัญพืชในชนบทส่วนใหญ่ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้คนเริ่มอดหยากหิวโหยในวงกว้าง ผู้คนเริ่มขาดเสบียงอาหารเพื่อประทังชีวิตคนนับหลายร้อยล้านคนล้วนหิวโหยมีแต่หนังหุ้มกระดูกเหมือนไม้เสียบผี บรรดาเจ้าหน้าที่ข้าราชการของจีนก็อดอยากอย่างรุนแรงมีมากถึง 15 ล้านคน อย่างไรก็ดีมีนักวิชาการประเมินว่ามีประชากรที่อดอาหารตายถึง 45 หรือ อาจถึง 78 ล้านคน
3
อัตราการเกิดการตายของนกดูจากลิ้งค์ที่อ้างอิง)
China's birth and death rate. Photo Credit
China’s birth and death rate. Photo Credit
1
ภาวะข้าวยากหมากแพงถึงขั้นวิกฤติยังคงยืดเยื้อที่ยากจะปฎิเสธได้ในประเทศจีนยาวนานต่อเนื่องถึง 50 ปี ผู้คนเริ่มหันมากินกันเองเหมือนมนุษย์กินคน พ่อแม่ต้องกินลูกๆของตนเองลูกๆก็กินพ่อแม่ตนเองเพื่อความอยู่รอด คนนับพันนับหมื่นถูกฆาตกรรมเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิต ผู้สื่อข่าวชาวจีน (Yang Jisheng) ได้เขียนบทความลงในหนังสือของเขาชื่อ Tomestone ศิลาจารึกหน้าหลุมฝังศพ มีการประเมินความตายครั้งนี้มีมากกว่า 36 ล้านคน แต่หนังสือของเขาถูกแบนทันที่ในประเทศจีน
เหมา เจ๋อตง จึงประกาศยกเลิกให้ยุติการรณรงค์ฆ่ากำจัดนกกระจอกทันที โดยให้กำจัดตัวเรือดไรในคำสั่งแทนตาม สี่โครงการนั้น เป้าหมายในการรณรงค์ก็เพื่อการเพิ่มผลิตในด้านการเกษตร แต่ในช่วงรีบเร่งก้าวกระโดดนั้นกลับทำให้การเก็บเกี่ยวข้าวมีผลผลิตนั้นลดลง
เหมา เจอตุง อาจจะต้องการเอาชนะธรรมชาติให้ได้อย่างก็ดีนโยบายของเขากลับทำให้เกิดวิกฤตข้าวยากหมากแพงเศรษฐกิจย่ำแย่ลงประชาชนอดอยากหิวโหยล้มตายหลายล้านคน
แปล #IOU #Mao Zedong
โฆษณา