23 พ.ย. 2020 เวลา 13:00 • กีฬา
ควงสว่านในพริบตา : เปิดตำนาน "หมัดสกรูว์" ท่าไม้ตายที่เกิดจาก "ทาสแมว" | MAIN STAND
มิยาตะ อิจิโร่ แห่ง ก้าวแรกสู่สังเวียน, มาเอดะ ไทซน แห่ง จอมเกบลูส์ รวมถึงนักมวยในโลกการ์ตูนอีกหลายตัวละครล้วนมีท่าไม้ตายที่เรียกกันว่า "หมัดสกรูว์" ซึ่งว่ากันด้วยความแรงในระดับที่โกงกันชัด ๆ ซัดกันทีหน้าสั่นกระจาย หลับกลางอากาศ ตัวหมุนติ้ว ๆ สมกับเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
1
อย่างไรก็ตาม หมัดนี้มีจริงบนโลก และนี่คือเรื่องราวระดับตำนานของหมัดสกรูว์ ที่เกิดขึ้นจากแมวเพียงตัวเดียวเท่านั้น ...
แมวมาเกี่ยวอะไรกับหมัดสุดเร็วและแรงนี้ ? ติดตามได้ที่นี่
ตำนานหมัดสกรูว์
มวยอาชีพก่อกำเนิดมานานเกิน 100 ปีแล้ว โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกานั้น เป็นอะไรที่ฮอตฮิตมากแบบสุด ๆ ในช่วงปี 1910 มีโคตรมวยอย่าง แจ็ค จอห์นสัน และ แจ็ค เดมพ์ซี่ย์ ซึ่งถือเป็น 2 นักชกที่เป็นนักมวยดังมาก ๆ ไม่แพ้ดาราเลยทีเดียว
การมีอยู่ของกีฬามวย เริ่มกลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยสูงสุด คนดูมากมาย และนั่นทำให้เกิดนักมวยรุ่นหลัง ๆ ตามมา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีนักมวยฝีมือดีหลายคนหลั่งไหลเข้ามา การแข่งขันก็เข้มขันขึ้น เมื่อนั้นการชกกันจึงต้องผสมผสานเทคนิคอะไรหลาย ๆ อย่างเข้าไป เพื่อเพิ่มจุดแข็ง ขจัดจุดอ่อน และสร้างความแตกต่างให้ได้เปรียบนักชกคนอื่น ๆ
เดิมทีอาวุธเด็ดในวงการมวยสากลหลัก ๆ จะยืนพื้นกันที่หมัดตรง หรือหมัดฮุกเท่านั้น โดยเฉพาะหมัดตรงนั้นทรงประสิทธิภาพที่สุด เพราะง่ายต่อการชกให้เข้าเป้า และยังมีความหนักหน่วงในเวลาเดียวกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ทุกจุดแข็งล้วนมีจุดอ่อนซ่อนอยู่ และจุดอ่อนของหมัดตรงคือ ใช้ระยะเวลาในการง้างหมัดนานเกินไป บางครั้งการง้างจะต่อยคู่ชก หากทำได้ไม่เร็วพอ ก็อาจจะเป็นการเปิดการ์ดและสร้างโอกาสให้คู่ชกสวนกลับจนเป็นฝ่ายร่วงเสียเองอีกต่างหาก
ดังนั้นหมัดสกรูว์จึงเกิดขึ้นเพื่อลบจุดอ่อนนี้ โดยตามประวัติศาสตร์ว่าไว้ มันเกิดขึ้นจากนักมวยที่ชื่อว่า นอร์แมน เซลบี้ หรือชื่อในวงการที่รู้จักกันคือ "คิด แม็คคอย" นักชกเชื้อสายไอริช ผู้หนีออกจากบ้านมาเป็นนักมวยตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากยุคสมัยที่มวยสากลเฟื่องฟูในเวลานั้น
นอกจากเรื่องของการลดระยะเวลาเงื้อหมัดตรง แล้วสาเหตุที่ แม็คคอย คิดท่าไม้ตายหมัดสกรูว์ขึ้นมาได้ เนื่องจากวงการมวยสากลในยุคนั้นไม่ได้ใส่นวมที่ขนาดใหญ่และหนาขนาดนี้ นวมยุคนั้นมีความบาง แถมยังมีผ้าพันหมัดไว้อีก 1 ชั้น และเขาจะใช้ความบางของนวมนั้นให้เป็นประโยชน์
Photo : indigenousability.blogspot.com
หมัดสกรูว์ (Corkscrew) มีชื่อมาจากที่เปิดจุดคอร์กของขวดไวน์ (มีลักษณะเป็นเกลียวใช้เจาะเข้าไปในฝาไม้คอร์กและดึงออกมา) คุณสมบัติเด่นคือหมัดตรงที่ไม่ต้องเงื้อ (ดึงไหล่ไปด้านหลัง) เสียเวลาน้อยกว่าหมัดตรง ทำให้ปล่อยหมัดได้เร็วกว่าราวครึ่งจังหวะ
1
วิธีการชกหมัดสกรูว์ของ แม็คคอย นั้นจะใช้การตั้งท่าเหมือนกับตั้งการ์ดมวยปกติ แต่เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป เขาจะชกออกตรง ๆ และใช้การบิดข้อมือเพื่อเปลี่ยนทิศทางของหมัดในเสี้ยววินาที และการบิดข้อมือนั้นเอง ทำให้สามารถเพิ่มความแรงของน้ำหนักหมัดได้ ถ้ายังไม่เห็นภาพ อยากให้ลองนึกถึงภาพของแมวที่กำลังเงื้อกรงเล็บเพื่อข่วนอะไรสักอย่างนั่นแหละ นั่นคือวิธีเดียวกันกับหมัดสกรูว์ ... ซึ่งจุดนี้ แม็คคอย ยอมรับว่า เขาได้แรงบันดาลใจจากการที่กำลังนอนพักผ่อนในโรงนา จากนั้นเขาเห็นแมวกำลังเล่นกับลูกบอล โดยใช้การชูขาหน้าขึ้นเล็กน้อยและข่วนลูกบอลแบบเปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็ว เขาจึงเริ่มเลียนแบบและฝึกมันจนชำนาญ
จากแมวสู่หมัดที่สมบูรณ์แบบ
แม็คคอย เลียนแบบจากแมว แต่ไม่ใช่แค่การจำลองท่าของแมวอย่างเดียวเท่านั้น เขาเคยเปิดเผยกับสื่อว่า การจะชกหมัดสกรูว์ได้เร็วและแรงนั้น ต้องฝึกกล้ามเนื้อแขนอย่างหนักหน่วงมาก เพื่อทดแทนการชกที่ไม่มีระยะเงื้อหมัดเหมือนกับการต่อยหมัดตรง
Photo : indigenousability.blogspot.com
หากฝึกกล้ามเนื้อแข็งแกร่งจนทำได้เร็วและแรงพอแล้ว การปล่อยหมัดสกรูว์มีประสิทธิภาพมาก มันจะไวจนคู่ชกจับจังหวะไม่ทัน เพราะโดยปกติแล้วนักมวยส่วนใหญ่จะมองที่ไหล่ของคู่ชกเพื่ออ่านสถานการณ์เป็นหลัก ถ้าเมื่อไหร่ไหล่ถูกดึงไปด้านหลัง ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่ากำลังจะชกหมัดตรง ซึ่งหมัดสกรูว์ สามารถข้ามขั้นตอนนั้นไปได้ เพราะจะใช้การบิดของหัวไหล่และข้อมือแทนการง้างแบบหมัดตรงปกติ
บทความเกี่ยวกับหมัดสกรูว์ของ แม็คคอย ที่ลงในเว็บไซต์ Marin Fire History อธิบายว่าในยุคที่นวมบางนั้น การใช้หมัดสกรูว์จะมีประสิทธิภาพมาก ถ้าหากทำได้เร็วและแรงแล้ว การบิดข้อมือด้วยความเร็วเพียงพริบตา จะทำให้หมัดมีความคมจนสามารถสร้างแผลฉีกหรือแตกให้คู่ชกได้อย่างง่ายดายอีกด้วย หลักการกระแทกคู่ต่อสู้ของหมัดสกรูว์ไม่ต่างอะไรจากกระสุนปืน เมื่อบิดข้อมือเร็ว หมัดก็จะควงสว่านเหมือนกับวิถีของลูกปืนนั่นเอง
1
หลังจากที่ แม็คคอย ใช้งานหมัดสกรูว์ตลอดกว่า 100 ไฟต์ในอาชีพของเขา วิธีการชกเช่นนี้ก็แพร่หลายจนนักมวยรุ่นหลัง ๆ นำไปใช้งานอีกหลายคน เหตุผลเพราะมันเป็นเรื่องความได้เปรียบที่ไม่ใช่แค่ความเร็วและแรงเท่านั้น แต่หมัดสกรูว์ยังช่วยเซฟข้อมือได้ดีกว่าการชกหมัดตรง นอกจากนี้การชักหมัดสกรูว์ที่ต้องบิดไหล่นั้น จะทำให้ไหล่มาปิดคางโดยอัตโนมัติ ช่วยให้การป้องกันดีขึ้นด้วย
โดยนักมวยที่เคยใช้หมัดนี้บ่อย ๆ ได้แก่ เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกชาวไทยที่ใช้หมัดสกรูว์ในการสวนคู่ชกอยู่บ่อย ๆ และที่เห็นชัดที่สุดคือ แมนนี่ ปาเกียว ในไฟต์ที่ชกกับ มิเกล ค็อตโต้ ที่เป็นมวยสายไฟเตอร์ด้วยกันทั้งคู่ ตัวของปาเกียวนั้นใช้หมัดสกรูว์เล่นงานค็อตโต้ได้ด้วยการดักจังหวะที่ ค็อตโต้ ปล่อยหมัดตรง ขณะที่ปาเกียวสวนกลับ (เคาน์เตอร์) ด้วยหมัดสกรูว์ที่ใช้ระยะในการปล่อยหมัดสั้นกว่าเข้าเป้าไปหลายดอกเลยทีเดียว ก่อนที่จะเป็นผู้ชนะในไฟต์นั้นไปในท้ายที่สุด
เท่จนต้องไปใช้ในการ์ตูน
สิ่งใดก็ตามที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จบนโลกแห่งความจริงนั้น มักจะถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายหรือการ์ตูนหลากหลายเรื่องและหลากหลายท่าไม้ตาย ... หมัดสกรูว์ก็เช่นกัน
ซึ่งในเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน หรือ Hajime no Ippo หมัดสกรูว์ เป็นหมัดที่ อิจิ ดาเตะ (Date Eiji) ใช้เล่นงานพระเอกของเรื่องอย่าง อิปโป้ เข้าที่อกข้างซ้ายแบบเต็ม ๆ โดยลักษณะการชกของ ดาเตะ นั้นเกิดขึ้นตามตำราที่ แม็คคอย บอกเป๊ะ นั่นคือไม่ใช้การเงื้อง่าราคาแพง แต่ใช้การบิดของร่างกายตั้งแต่ข้อเท้า เข่า เอว ไหล่ และข้อมือในเวลาเดียวกัน เปรี้ยงเดียวเท่านั้น อิปโป้ ก็ลุกไม่ขึ้นกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ และในเรื่องมีการเรียกหมัดนั้นว่า "หมัดควงสว่าน" ตรงตามตำราว่าไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ในเรื่อง จอมเกบลูส์ (Blues) การ์ตูนนักเลงแห่งยุค 90s ก็เป็นอีกเรื่องที่หยิบหมัดสกรูว์มาใช้เป็นท่าไม้ตายของพระเอกอย่าง มาเอดะ ไทซน ที่ฝึกซ้อมกับเครื่องชกแบบหยอดเหรียญ โดยเทคนิคที่ ไทซน ใช้คือการบิดไหล่เช่นกัน ซึ่งท้ายที่สุดหมัดสกรูว์ของเขาก็สามารถใช้งานด้วยการชก 1 ในจตุรเทพอย่าง ยาคุชิจิ จนกระเด็นตกลงไปในแม่น้ำ และเป็น 1 ในช็อตคลาสสิกของเรื่อง จอมเกบลูส์ เลยทีเดียว
ในแต่ละฉากที่เหล่าตัวละครในมังงะใช้หมัดสกรูว์นั้น จะเห็นภาพและวิธีการของหมัดนี้ได้ชัดเจนมาก เพราะผู้วาดมักจะใส่เอฟเฟกต์ให้เห็นไปเลยว่า หมัดเดินทางคล้าย ๆ กับควงสว่านด้วยความเร็ว โดยเฉพาะยิ่งเมื่อโดนแบบจัง ๆ เอฟเฟ็กต์ของคนโดนก็แสดงออกตามวิถีหมัด นั่นคือกระเด็นกลางอากาศ ลอยหมุนติ้วอย่างกับโดนพายุหมุนก็ไม่ปาน ... แม้จะดูเว่อร์ไปหน่อย แต่อย่างน้อย ๆ มันคือการการันตีด้วยภาพและสร้างความชัดเจนได้ดีทีเดียว เพราะในกีฬาชกมวยจริง การใช้หมัดสกรูว์มักเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีจนมองด้วยตาเปล่าไม่ทันนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าต้นกำเนิดหมัดในตำนานจากแมวเพียงตัวเดียว ถูกนำมาต่อยอดจนกลายเป็นหนึ่งในอาวุธหลักของนักมวยสากลทุกยุคทุกสมัย แม้ยุคนี้นวมจะหนาขึ้น หรือแม้กระทั่งแทบไม่มีการต่อยด้วยหมัดเปล่าหรือเอาผ้ามัดมืออีกแล้ว แต่อย่างน้อย ๆ ข้อดีของหมัดสกรูว์ยังคงไม่มีอะไรมาล้มล้างได้ง่าย ๆ เร็ว แรง และยังช่วยป้องกันในเวลาเดียวกัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หมัดสกรูว์เป็นตำนานมาจนทุกวันนี้
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา