26 พ.ย. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci)” อัจฉริยะแห่งยุคเรเนสซองส์” ตอนที่ 2
การเติบโตของเด็กชาย
ในศตวรรษที่ 15 เมืองฟลอเรนซ์คือหนึ่งในเมืองที่สำคัญและรุ่งเรืองที่สุดเมืองหนึ่งในโลก
1
ฟลอเรนซ์เป็นเป็นหนึ่งในนครรัฐทั้งห้าแห่ง ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิตาลี
การเป็นนครรัฐ หมายความว่าฟลอเรนซ์นั้นมีรัฐบาลเป็นของตนเอง หากแต่เป็นเวลาหลายปีที่ฟลอเรนซ์ตกอยู่ใต้อิทธิพลของตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอำนาจ นั่นคือตระกูล “เมดีซี (Medici)”
ตระกูลเมดีซี (Medici)
ตระกูลเมดีซีเป็นตระกูลที่รักและส่งเสริมในเรื่องของศิลปะ และได้สร้างบ้านและโบสถ์ที่สวยงามมากมาย
เวอรอคคีโอเป็นจิตรกรคนสำคัญ ซึ่งนับเป็นโชคดีของลีโอนาร์โดที่ได้เป็นลูกศิษย์ของเวอรอคคีโอ
1
ในเวลาที่ลีโอนาร์โดเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของเวอรอคคีโอ เขามีอายุได้ 12 ปี โดยลูกศิษย์ทั้งหมดมีแต่เด็กผู้ชาย ไม่มีเด็กผู้หญิงเลย
ลีโอนาร์โดขณะเข้าเป็นลูกศิษย์ของเวอรอคคีโอ
ลูกศิษย์ของจิตรกรจะไม่ได้รับค่าแรง หากแต่จะได้ที่พักและอาหารฟรี และอาจจะได้เงินบ้างเล็กน้อย
สิ่งที่ลูกศิษย์จะได้คือความรู้ โดยลูกศิษย์ของจิตรกรต้องทำงานหนัก ทำสารพัดอย่าง ทั้งทำความสะอาด ทำอุปกรณ์วาดเขียน และค่อยๆ เรียนรู้ ไต่ระดับจากงานระดับล่าง และค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ
2
เวอรอคคีโอนั้นสังเกตได้ในทันทีว่าลีโอนาร์โดนั้นมีพรสวรรค์ ทำให้เวอรอคคีโอมอบหมายงานสำคัญต่างๆ ให้ลีโอนาร์โด
เวอรอคคีโอได้รับคำสั่งให้วาดภาพพิธีล้างบาปของพระเยซู โดยในภาพนั้น ทูตสวรรค์ได้เทน้ำราดไปบนพระเศียรของพระเยซู และทางด้านซ้ายของภาพคือเทวดาสององค์
3
เวอรอคคีโอเป็นผู้วาดเกือบทุกอย่างในภาพ ยกเว้นเพียงเทวดาองค์หนึ่งที่มองมายังพระเยซู ใบหน้าของเทวดานั้นอ่อนหวานหากแต่เฉลียวฉลาด
3
เทวดาองค์นี้เป็นฝีมือการวาดของลีโอนาร์โด และดูมีชีวิตชีวาซะจนทำให้องค์ประกอบอื่นๆ ดูจืดไปทันที
1
ภาพการล้างบาปของพระเยซู เทวดาที่ลีโอนาร์โดวาดอยู่ทางด้านซ้าย กำลังมองพระเยซู
เวอรอคคีโอรู้ได้ในทันทีว่าลีโอนาร์โดคืออัจฉริยะ ลูกศิษย์คนนี้มีพรสวรรค์ชนิดที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน
เวอรอคคีโอรู้ดีว่าแม้แต่ตนเอง ก็ยังไม่เก่งเท่าลูกศิษย์ของตน ว่ากันว่า เมื่อเห็นภาพเทวดาที่ลีโอนาร์โดวาด เวอรอคคีโอก็ไม่ยอมจับพู่กันอีกเลยและหันไปทำงานปั้นแทน
4
ลีโอนาร์โดอยู่กับเวอรอคคีโอเป็นเวลานานถึง 13 ปี นานจนตัวเขากลายเป็นอาจารย์ซะเอง และเป็นสมาชิกสมาคมจิตรกร
2
หากแต่ลีโอนาร์โดก็ยังไม่ย้ายออกไปตั้งสตูดิโอของตนเอง เหตุผลก็อาจจะเพราะว่าลีโอนาร์โดคุ้นชินและผูกพันกับสตูดิโอของเวอรอคคีโอไปแล้ว เวอรอคคีโอก็เป็นอาจารย์ที่ใจดี และทั้งสองก็น่าจะมีความใกล้ชิดกันมาก
ลีโอนาร์โดขณะได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเวอรอคคีโอ
นอกจากความรุ่งเรืองแล้ว ฟลอเรนซ์ยังเป็นเมืองที่น่าอยู่
เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยแนวคิดใหม่ๆ และมีหนังสือจำนวนมาก
ก่อนช่วงกลางศตวรรษที่ 15 ยังไม่มีหนังสือที่ถูกพิมพ์จากแท่นพิมพ์
หนังสือทุกเล่มต้องเขียนด้วยมือ ภาพประกอบก็ต้องวาดด้วยมือ ทำให้กว่าจะได้หนังสือซักเล่ม ต้องใช้เวลานาน
ต่อมา ราวค.ศ.1450 (พ.ศ.1993) ที่ประเทศเยอรมนี ชายที่ชื่อ “โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg)” ได้ค้นพบวิธีการประดิษฐ์แท่นพิมพ์ โดยหนังสือที่ถูกพิมพ์เป็นเล่มแรก คือคัมภีร์ไบเบิ้ล
4
โยฮันเนส กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg)
จากนั้น การพิมพ์ก็ได้รับความนิยม มีการพิมพ์หนังสือเรื่องอื่นๆ ตามออกมาอีกมากมาย และทำให้ผู้คนเริ่มจะหัดการอ่าน
2
ตั้งแต่เด็ก ลีโอนาร์โดก็ได้รับการสอนให้อ่านเขียน รวมทั้งคณิตศาสตร์พื้นฐาน หากแต่ก็ยังดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับลีโอนาร์โด
1
ลีโอนาร์โดไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ จึงเรียนด้วยตนเอง โดยเขาเริ่มซื้อและสะสมหนังสือ
การวาดภาพที่ถูกต้องนั้นมีหลักเกณฑ์มากมาย หากแต่ลีโอนาร์โดไม่เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎ แต่เขายังสร้างกฎของตนเองอีกด้วย
4
ภาพวาดของลีโอนาร์โดแต่ละภาพดูเหมือนมีชีวิต และแตกต่างจากศิลปินทั่วๆ ไป
ในปีค.ศ.1478 (พ.ศ.2021) เมื่อลีโอนาร์โดมีอายุได้ราวๆ 26 ปี เขาก็สามารถวาดภาพ “แม่พระรับสาร (Annunciation)” ได้สำเร็จ
“แม่พระรับสาร (Annunciation)” เป็นหนึ่งในภาพจำนวน 13 ภาพที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าลีโอนาร์โดเป็นผู้วาดจริงๆ อีกทั้งสามใน 13 ภาพนี้ยังวาดไม่เสร็จอีกด้วย
1
สำหรับสาเหตุที่มีเพียงไม่กี่ภาพ เนื่องจากเป็นไปได้ที่ภาพส่วนใหญ่อาจจะสูญหายไปตามกาลเวลา
อีกอย่างที่ต้องรู้ก็คือ ลีโอนาร์โดนั้นมีความเป็นศิลปินสูง เขามักจะไม่อดทนทำงานที่เบื่อ ภาพวาดหลายๆ ภาพของเขาจึงมักจะไม่เสร็จในทันที นอกจากนั้น เขายังไม่ชอบให้ลูกค้าที่มาสั่งภาพวาด มาจู้จี้กับเขา
7
“แม่พระรับสาร (Annunciation)”
ในปีค.ศ.1478 (พ.ศ.2021) นี้ ดูเหมือนว่าเมืองฟลอเรนซ์จะไม่ใช่เมืองที่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว
ตระกูลเมดีซีได้ทำสงครามกับตระกูลที่ทรงอำนาจตระกูลอื่น มีการวางแผนสังหารผู้นำตระกูลเมดีซี ท้องถนนของฟลอเรนซ์ก็เต็มไปด้วยอันตราย
2
ขณะมีอายุได้ 30 ปี ลีโอนาร์โดก็คิดได้ว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว
2
ลีโอนาร์โดได้เดินทางออกจากฟลอเรนซ์ มุ่งไปยังมิลาน
ลีโอนาร์โดตั้งใจว่าจะทำงานให้ผู้ปกครองมิลาน นั่นคือ “ลูโดวีโก สฟอร์ซา (Ludovico Sforza)”
ลูโดวีโก สฟอร์ซา (Ludovico Sforza)
เรื่องราวของลีโอนาร์โดจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา