4 ธ.ค. 2020 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# Fujiko F. Fujio กับจุดกำเนิดโดเรม่อน
อย่าได้ลดขนาดของความฝันแต่จงเพิ่มความพยายามแทน อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
ความเป็นมา
Fujiko F. Fujio (藤子不二雄) เป็นนามปากกาในงานมังงะ ซึ่งเขามีชื่อจริงว่า ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ (藤本弘)เขาเกิด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1933 ในจังหวัด โทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
ฟูจิโมโตะ มีเพื่อนสนิทชื่อ Motoo Abiko ซึ่งทั้งคู่เริ่มเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนชั้นประถม เพราะพวกเขามีงานอดิเรกที่ชื่นชอบเหมือนกันนั้นก็คือการวาดภาพ
จนกระทั่งในช่วงมัธยมต้น จากการวาดภาพเป็นงานอดิเรกก็ถูกเปลี่ยนแปลงไป หลังได้รับแรงบันดาลใจจาก Osamu Tezuka และจากการดูมังงะเรื่อง Shin Takarajima
เปลี่ยนแนวคิดในวัยเยาว์
จึงทำให้ ฟูจิโมโตะ และอาบิโตะ คิดสร้างฉากและตัวละครขึ้นมา พวกเขาร่วมกันเขียนงานชิ้นนี้ด้วยกันโดยให้ชื่อว่า Tenküma หลังจากนั้นพวกเขาก็ส่งงานไปยังวารสารต่าง ๆ เช่น Manga Shōnen
และเริ่มเปิดบัญชีออมทรัพย์ร่วมกันผ่าน Japan Post หลังจาก “ Tenshi no Tama-chan” ของพวกเขาถูกเผยแพร่ ครั้งแรกในรายการ“ Mainichi Shogakusei Shinbun”
ทั้งคู่ก็ลงขันกัน เพื่อซื้ออุปกรณ์ศิลปะ หลังจากนั้นก็แบ่งรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เท่า ๆ กัน นี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการหารายได้และการทำธุรกิจร่วมกันของทั้งสองคน
เข้าสู่ธุรกิจ
พวกเขามักจะเดินทางไปที่ Takarazuka, จังหวัดเฮียวโงะ เพื่อขอความเห็นจาก Tezuka เกี่ยวกับงานเขียนใหม่ของพวกเขาที่ชื่อว่า “Ben Hur “ ซึ่งหลังจากที่ได้ชม Tezuka ก็ชื่นชอบงานเขียนชิ้นนี้ของทั้งสองเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดบอกกับทั้งคู่ว่า “หากยังทำงานนี้ต่อไป พวกเขาจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมมังงะนี้ได้อย่างแน่นอน”
นับแต่นั้นมา อาบิโตะ และ ฟูจิโมโตะ จึงให้ความสำคัญกับการพบปะ Tezuka ที่เคารพเป็นอย่างมาก อีกทั้งพวกเขายังเก็บรักษาต้นฉบับของ Ben Hur ไว้เป็นแรงบันดาลใจอีกด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น พวกเขายังตัดสินใจที่จะเป็นหุ้นส่วนกันตลอดชีวิต โดยเริ่มแรกพวกเขาใช้ชื่อบริษัทว่า Tezuka Fujio และได้เปลี่ยนชื่อนี้เป็น Azhizuka Fujio หลังจากตระหนักได้ว่า ชื่อเก่านั้นใกล้เคียงกับบุคคลต้นแบบของพวกเขามากเกินไป
Young Fujiko F. Fujio
แต่ด้วยเหตุที่ ฟูจิโมโตะ และ อาบิโตะ ต่างก็เป็นลูกชายคนโต พวกเขาจึงต้องเข้าทำงานใน บริษัทหลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลายในปี 1952
โดย ฟูจิโมโตะ ได้ทำงานในบริษัททำขนม ส่วน อาบิโตะ เริ่มทำงานให้กับ บริษัท Toyama Newspaper แต่หลังจากทำงานได้ไม่นาน ฟูจิโมโตะ ก็ตัดสินใจลาออก เพราะแขนของเขาถูกเครื่องจักรทำขนมทับ จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างการทำงาน
จึงเป็นเหตุให้นับจากนั้นมา ฟูจิโมโตะ ก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเขียนการ์ตูน เพื่อส่งให้กับวารสารโดยมี อาบิโตะ คอยช่วยเหลือเขาในช่วงสุดสัปดาห์
ความช่วยเหลือ
และในปี 1954 ฟูจิโมโตะ ก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ โตเกียวกับ อาบิโตะ เพื่อที่พวกเขาจะได้มุ่งมั่นในการเป็นนักวาดการ์ตูนมืออาชีพอย่างจริงจัง โดยพวกเขา
อาศัยอยู่ที่ Tokiwa-so ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ที่นักวาดการ์ตูนรุ่นเยาว์หลายคนอาศัยอยู่ร่วมกันในห้องเสื่อทากามิเล็ก ๆ หลังจากไปอยู่ที่นั้นทั้งสองก็สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้มากมายตลอด 6 เดือนเต็ม
แต่แล้วหลังจาก กลับไปที่ โทยามะ ในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น ทั้งคู่ก็ได้พลาดกำหนดส่งซีรีส์มังงะทั้งหมด จนทำให้พวกเขาสูญเสียความน่าเชื่อถือและความไว้ใจจากผู้จัดพิมพ์ จนส่งผลกระทบต่อ ฟูจิโมโตะ และ อาบิโตะ นานกว่าหนึ่งปี
ในช่วงนั้น พวกเขาจึงมุ่งความสนใจไปที่สื่อโทรทัศน์ แทน เพื่อสร้างภาพยนตร์ ด้วยกล้อง 8 มม. เพราะเหตุนี้ในปี 1959 พวกเขาจึงออกจาก อพาร์ตเมนต์ Tokiwa
สู่ที่แห่งใหม่
และย้ายไปอยู่ที่ Ikuta เมือง Kawasaki จังหวัด Kanagawa ต่อจากนั้นพวกเขาก็ได้สร้างผลงานออกมาอีกมากมาย อาทิเช่น “ Obake no Q-taro”,“ Permanent”,“ Doraemon” เป็นต้น
แต่เมื่อพวกเขาเริ่มก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ พวกเขาก็ตัดสินใจแยกทางกัน เนื่องจากพวกเขาเริ่มมีความสนใจที่แตกต่างกัน โดย ฟูจิโมโตะ สนใจที่จะให้ความสำคัญกับการ์ตูนสำหรับเด็กมากกว่า ในขณะที่ อาบิโตะ มุ่งมั่นทำการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่
หลังจากที่พวกเขาแยกจากกัน ฟูจิโมโตะ ก็เปลี่ยนนามปากกาของเขาเป็น ฟูจิโกะเอฟฟูจิโอะบี หลังจากนั้น ฟูจิโมโตะ ก็เริ่มสร้างมังงะที่เขาคิดเอง รวมถึง โดเรม่อน ที่เคยทำร่วมกับ อาบิโตะ ต่อไปด้วย
Fujiko F. Fujio (born Fujimoto Hiroshi)
ซึ่งในปี 1970 ไอเดียโดราเอมอน กับของวิเศษก็เกิดขึ้นหลังจากที่เขาสะดุดของเล่น ที่ลูกสาวตัวน้อยทำตกไว้ หลังจากที่เธอเกิดตกใจเสียงแมวทะเลาะจนร้องไห้ออกมา
และวินาทีนั้นเอง เขาคิดได้ว่า “น่าจะมีเครื่องจักรที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และสามารถปฏิวัติงานมังงะของเขาได้ โดย เครื่องจักรนี้จะต้องสามารถแก้ไขปัญหาของเขาได้ เขาจึงนึกภาพเครื่องจักรนั้นในรูปแบบหุ่นยนต์แมวที่มีกระเป๋าหน้าท้อง และภายในเต็มไปด้วยอุปกรณ์แก้ปัญหาทุกประเภทได้ "
แม้ว่า ในช่วงแรก โดราเอมอน จะไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ได้มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นสามปี โดราเอมอน ก็กลายเป็นซีรีส์อนิเมชั่นทางทีวี และยังกลายเป็นตัวละครยอดนิยมไปทั่วประเทศ จึงทำให้ ฟูจิโมโตะ ได้รับรางวัล จากสมาคม นิฮงมังกะ ใน ปี 1973
Fujiko and Doraemon
และนับแต่นั้นมา ฟูจิโมโตะ ก็เขียนการ์ตูน โดเรม่อน ในรูปแบบ ซีรี่ย์เรื่องยาวออกมาทุกปี อีกทั้งอนิเมชั่นของเขาก็ได้ออกฉายในจอโทรทัศน์ และยังกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่สร้างรายได้มากมายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ ในปี 1989 ฟูจิโมโตะ ก็ได้รับรางวัล Film Special Meritorious Prize และ Golden Gloss Prize
จากนั้นเขาก็ได้ยุติการเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนเขาอย่างเป็นทางการ และเปลี่ยนนามปากกาเป็น "Fujiko · F · Fujio" นับแต่นั้นมา
over art of the first Doraemon manga volume Article Doraemon Portion used Entire cover
โดเรม่อน เป็นมังงะที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ชื่อโนบิ โนบิตะ ที่มีหุ่นยนต์แมวชื่อ โดราเอมอน จากศตวรรษที่ 22 ส่งมาเพื่อช่วยให้โนบิตะในอดีต ไม่สร้างความเดือดร้อนที่อาจจะส่งผลมาถึงอนาคตได้ ซึ่งอาจเกิดจากความโง่เขลาของตัวโนบิตะเอง
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ ฟูจิโมโตะ อยู่ชื่นชมความสำเร็จของโดเรม่อนได้ไม่นานนัก เขาก็ต้องเสียชีวิตลงในปี 1996 จากโรคมะเร็ง
1
อย่างไรก็ตาม ผลงานของเขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยยังคงออกแสดงผ่านสถานีโทรทัศน์ P-Man, Ninja Hatori, Q-Taro the Ghost และที่อื่น ๆ อีกมากมาย
Doraemon
อีกทั้งความนิยมของโดราเอม่อน ก็ยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายวงกว้างไปทั่วโลก แม้ว่าผู้สร้างจะเสียชีวิตไป แต่ชื่อของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำในฐานนะผู้สร้างโดเรม่อน ตัวละครที่ทุกคนต่างชื่นชอบ ซึ่งโดเรม่อน ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนิตยสาร Asean Heroes in Time ในปี 2002
นอกจากนี้โดเรม่อน ยังได้เป็นสัญลักษณ์ของทูตวัฒนธรรมญี่ปุ่นในปี 2008 โดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
จึงเป็นเหตุให้ พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ หรือ พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน ถูกสร้างขึ้นมา และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2011 ที่เมือง คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นเกียรติแก่ Fujiko F. Fujio และภรรยาม่ายของ Fujiko F. Fujio โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดง รายการที่เกี่ยวข้องกับผู้สร้างโดราเอมอนผู้ล่วงลับไปแล้วกว่า 40,000 ชิ้นเลยทีเดียว
ดังคำ นิรนาม กล่าวไว้ว่า “บางคนกำลังฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือทำอย่างมุ่งมั่น ”
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา