Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เบื่อเมือง
•
ติดตาม
30 พ.ย. 2020 เวลา 14:02 • ประวัติศาสตร์
(พระราชอารมณ์ขัน) เมื่อหมอห้ามทรงดนตรีเครื่องเป่า เมื่อในหลวง ร.๙ ทรงเลี่ยงคำสั่งแพทย์ “ห้ามเป่าแซกโซโฟน” ที่อ่านกี่ครั้ง ก็อดอมยิ้มตามไม่ได้....คงมีเพียงพระองค์ท่านที่คิดได้
ด้วยพระอัจริยภาพทางดนตรี ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นประจักษ์แก่สายตาปวงชนชาวไทย รวมไปถึงชาวต่างชาติทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งทรงได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2529 ให้เป็นองค์อัครศิลปินแห่งชาติ
โดยพระองค์ทรงเล่นได้เครื่องดนตรีหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็น แซกโซโฟน, เปียโน, ทรัมเปต, กีตาร์, ไวโอลิน, ขลุ่ย, คลาริเนต, แตร
แต่ที่ทรงโปรดที่สุด ก็คือ แซกโซโฟน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นมาตั้งแต่อายุ 13 พรรษา ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับครูชาวอัลซาส ชื่อนายเวย์เบรชต์
<<ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริฯ ซึ่งต่อมาในหลวง รัชกาลที่ ๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระอิสริยยศและเฉลิมพระนาม หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ขึ้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ) >>
ขอนำบทความจาก “หนังสือจ้าวแผ่นดินไทย ราชันแห่งโลก” ที่กล่าวถึง หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ เมื่อครั้งประทานเล่าถึงความฝักใฝ่ในการทรงดนตรีของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยมีเนื้อความว่า ในสมัยที่(ในหลวง รัชกาลที่ 9) ทรงจำเริญพระชันษาขึ้นวัยรุ่นแล้ว ขณะประทับอยู่ที่พระตำหนักวิลล่าวัฒนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ครั้งหนึ่งประชวรด้วยพระโรคทางเดินหายใจ (หวัด) แพทย์ถวายการรักษาแล้ว
ขอพระราชทานพระราชานุญาต “ห้ามทรงดนตรีเครื่องเป่า” ไว้สักระยะหนึ่ง
แต่เมื่อ “พระอารมณ์ศิลปิน” เกิดขึ้น ทรงพระราชดำริทำนองเพลงปรากฏขึ้นมาในพระจินตนาการ ก็ทรง “รอไม่ได้” เพราะทรงเกรงว่าถ้ารอไว้อาจจะทรงลืมเลือนหรือแปรเปลี่ยนไปเสียอีก
ดังนั้นอีกครู่หนึ่ง ต่อมา เสียงแซกโซโฟน ก็กังวานแว่วขึ้นได้ยินไปทั่วพระตำหนักอย่างไพเราะเพราะพริ้ง สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และบรรดาข้าราชบริพารได้ยินเสียงก็พากันตกพระทัย ต่างรีบไปห้องประทับอย่างชุลมุน พลางคิดหาคำพูดไว้กราบบังคมทูลทัดทานและประเมินผลสำเร็จอยู่ในใจ
เพราะต่างรู้กันอยู่ว่า “หมอห้าม”
แต่แล้วทุกพระองค์และทุกคนต่างก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และอดที่จะขำขันกับภาพที่ได้เห็นนั้นไม่ได้ เพราะที่เห็นคือ หม่อมเจ้าจักรพันธ์ฯ ประทับนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้น มีแซกโซโฟนห้อยอยู่ที่คอ โอษฐ์ทรงอมลิ้นแซกโซโฟน เป่าจนแก้มโป่ง สองกรยันองค์อยู่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับคุกพระชานุ (เข่า) อยู่เบื้องปฤษฎางค์ (หลัง) ของหม่อมเจ้าจักรพันธ์สองพระกรโอบองค์หม่อมเจ้าจักรพันธ์ ไป ทรงไล่นิ้วแซกโซโฟนอยู่ข้างหน้า
เป็นอันว่าหม่อมเจ้าจักรพันธ์ทรงเป่าลมให้ออกเสียง ส่วนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นทรงไล่นิ้วเสียงให้เป็นไปตามทำนองเพลง เป็นภาพที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน (**ท่านผู้อ่านนึกภาพออกหรือไม่** ใช้คำสามัญอธิบายได้ว่า เหมือนในหลวงโอบกอดอยู่เบื้องหลัง ท่านชายจักรฯ และทรงเล่นแซกโดยไม่ได้เป่า แต่ผู้เป่าคือ ท่านชายจักรฯ)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จะทรงเป็นเช่นนี้เสมอมา คือ เมื่อทรงสนพระราชหฤทัยในสิ่งใดจะทรงทุ่มเท ฝักใฝ่จริงจังกับสิ่งนั้น ไม่สำเร็จไม่รู้ผลจะไม่ทรงเลิกราเป็นอันขาด
แม้ในการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมประชาชนก็เช่นเดียวกัน เมื่อทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าวันนี้จะเสด็จไปไหน ไปถึงไหนแล้ว ไม่ว่าจะค่ำมืดดึกดื่น
หนทางจะทุรกันดารเพียงไร จะต้องเสด็จฯ จนครบตามจุดหมายที่ทรงกำหนดไว้เสมอ.
ขอบคุณข้อมูล : หนังสือจ้าวแผ่นดินไทย ราชันแห่งโลก
เรียบเรียงโดย : ศรัญญา สิงขรณ์ ทีมข่าวภูมิภาคทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/214756
Welovetheking.com/,bloggang.com
และ ผู้จัดการ
ที่มา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3510293372397834&id=100002516165586
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย