7 ธ.ค. 2020 เวลา 07:30 • ไอที & แก็ดเจ็ต
ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของ Intel
จับตาก้าวใหม่ของ Apple ที่เลิกใช้ชิพของ Intel ครั้งแรกในรอบ 15 ปี ในผลิตภัณฑ์ MacBook และไปร่วมมือกับบริษัทผลิตชิพของไอโฟนอย่าง ARM แทน เพราะเหตุใด Apple ถึงตัดสินใจเปลี่ยน? จะกลายเป็นก้าวที่พลาดครั้งใหญ่ของอินเทลหรือไม่?
7
บทความโดย ทิวัตถ์ ชุติภัทร์ | คอลัมน์ คุยให้... คิด
3
ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของ Intel
17 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางบริษัท Apple ได้เปิดตัวเครื่องโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุดอย่าง MacBook Air M1 และ MacBook Pro 13 นิ้ว ทางสื่อต่างๆ ได้จับตามองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่บริษัท Apple (แอ๊ปเปิ้ล) เลิกใช้ชิพของ Intel (อินเทล) ครั้งแรกในรอบ 15 ปีในผลิตภัณฑ์ MacBook และหันไปร่วมมือกับทางบริษัทผลิตชิพของไอโฟนอย่าง ARM (อาร์ม) แทน
7
นับเป็นก้าวสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ เพราะก่อนหน้านี้ชิพที่ใช้ในมือถือกับชิพที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ เป็นชิพคนละประเภทกัน ชิพส่วนใหญ่ที่ใช้ในมือถือจะเป็นชิพของ ARM ทั้งในมือถือของซัมซุงและแท็บเล็ตอย่างไอแพด ส่วนในคอมพิวเตอร์กลับใช้ชิพอย่าง x86 ซึ่งแบรนด์อันดับหนึ่งที่ผลิตชิพ ชิพนี้คือ อินเทล เพราะอะไรแอ๊ปเปิ้ลถึงเลือกที่จะมาใช้ชิพของ ARM แทน
13
อินเทล ก่อตั้งบริษัทตอนปี 2511 โดยโรเบิร์ต นอยส์ (Robert Noyce) และกอร์ดอน มอร์ (Gordon Moore) พวกเขาตั้งชื่อชิพของพวกเขาว่า x86 หลังจากชิพที่ลงท้ายด้วยเลข 86 ที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 หลังจากนั้นเป็นต้นมาชิพ x86 กลายเป็นชิพที่ครองตลาดส่วนใหญ่ของเครื่องคอมพิวเตอร์
2
ขณะเดียวกัน ช่วงปี 2526 ที่ประเทศอังกฤษบริษัทคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อว่า Acorns Computers (เอคอร์น คอมพิวเตอร์) ตัดสินใจที่จะทำชิพออกมาอีกแบบหนึ่ง แทนที่จะทำให้ชิพออกมาให้มันดูยุ่งยากซับซ้อนแบบอินเทล เขากลับทำให้มันง่ายขึ้นโดยชิพของอินเทล แล้วเรียกว่า CISC ย่อมาจาก Complex Instruction Set Computing แต่ส่วนของเอคอร์นประกอบชิพที่เรียกว่า RISC หรือ Reduced Instruction Set Computing ซึ่งตั้งชื่อโปรเจคชิพนี้ว่า Acorns Risc Machine หรือเรียกสั้นๆ ว่า ARM
5
ARM สร้างชิพตัวแรกของตัวเองตอนปี 2528 ก่อนที่จะถูกใช้ในคอมพิวเตอร์ครั้งแรกและมาจดสิทธิบัตรตอนปี 2530 ในสมัยนั้นชิพของ ARM ไม่นิยมใช้ในคอมพิวเตอร์ เพราะไม่สามารถทำคำสั่งที่ซับซ้อนได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานการเข้ามาของโทรศัพท์มือถือ พ็อกเก็ต พีซี จนไปถึงไอพอด ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ชิพของอาร์มกันทั้งนั้น ตอนปี 2545 ชิพของ ARM ถูกขายไปทั่วโลกถึง 1 พันล้านชิพด้วยกัน
4
ถึงแม้ว่าแอ๊ปเปิ้ลจะใช้ชิพของ ARM ในไอพอดของตัวเอง แต่พอมาถึงแม็คทางแอ๊ปเปิ้ลเลือกที่จะไปจับมือกับทางอินเทล ต่อมาแอ๊ปเปิ้ลได้คิดการใหญ่ว่าจะใช้ชิพของอินเทลในผลิตภัณฑ์ใหม่ของพวกเขาอย่างไอโฟน แต่ซีอีโอของอินเทลกลับเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้น
9
ซีอีโอของอินเทลในสมัยนั้นคือ พอล ออตเตลินี (Paul Otellini) เขามองว่า อินเทลมีความชำนาญที่ต่างออกไปจากสิ่งที่แอ๊ปเปิ้ลต้องการ เขายังมองอีกว่าเครื่องไอโฟนไม่น่าจะขายดี ทำให้อินเทลมีโอกาสที่จะได้กำไรน้อยจากการผลิตชิพให้แอ๊ปเปิ้ล นั่นกลายเป็นการพลาดโอกาสครั้งใหญ่ของทางอินเทล
19
เครื่องไอโฟนออกมาวางขายในปี 2550 โดยใช้ชิพของ ARM ปีถัดมาแอ๊ปเปิ้ลก็ได้เซ็นสัญญากับ ARM ในการจดสิทธิบัตรทางสถาปัตยกรรมการออกแบบชิพ ทำให้แอ๊ปเปิ้ลสามารถออกแบบชิพตั้งแต่แม่พิมพ์เลยทีเดียว ปี 2555 แอ๊ปเปิ้ลออกไอโฟน 5 ซึ่งในรุ่นนั้นทางแอ๊ปเปิ้ลได้ออกชิพสำหรับเครื่องไอโฟน โดยเฉพาะเป็นรุ่นแรกชื่อว่าชิพ A6 ซึ่งเร็วกว่าไอโฟน 4 ถึงสองเท่า
9
สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือปีถัดมาที่แอ๊ปเปิ้ลเปิดตัว iPhone 5S ในรุ่นนี้เป็นครั้งแรกที่แอ๊ปเปิ้ลใช้ชิพ 64-bit ในไอโฟน ภายใต้ชื่อชิพว่า A7 ซึ่งแอ๊ปเปิ้ลบอกคุณสมบัติของชิพตัวนี้ว่าสามารถทำงานคล้ายเครื่องคอมพิวเตอร์จิ๋วๆ เครื่องหนึ่งเลย เพราะการที่คุณสามารถใช้ชิพ 64-บิต ก็หมายความว่าคุณสามารถใช้แรม 4 กิกะไบต์ขึ้นไปได้ด้วย
5
ในปี 2557 มีชิพของ ARM อยู่ทั่วโลกถึง 50 ล้านชิพ ซึ่งแอ๊ปเปิ้ลก็ยังสามารถขายไอโฟนได้อย่างถล่มทลาย และนั่นหมายความว่าบริษัทก็ยิ่งมีเงินมากขึ้นในการพัฒนาสินค้า ในปี 2561 แอ๊ปเปิ้ลออก iPhone XS ชิพในไอโฟนเครื่องนั้นเป็นชิพที่เรียกว่า A12 BIONIC ซึ่งในชิพนี้เองที่แอ๊ปเปิ้ลเริ่มตามอินเทลทันแล้ว
5
เครื่อง iPhone XS มีประสิทธิภาพพอๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ iMac เลยทีเดียว หรือเผลอๆ ดีกว่าด้วยซ้ำ ทางแอ๊ปเปิ้ลจึงตัดสินใจแยกทางกับอินเทล หลังจากใช้ชิพอินเทลมาตลอด 15 ปี แอ๊ปเปิ้ลมองว่าอินเทลค่อนข้างช้าในการพัฒนาสินค้า ละล้าหลังในเรื่องของเทคโนโลยี
11
ในปี 2562 แอ๊ปเปิ้ลเปิดตัวไอแพด โปร (iPad Pro) ชิพของไอแพด โปร รวดเร็วกว่าชิพของอินเทลในเครื่อง MacBook Pro ของปี 2561 เสียอีก และในเดือนที่แล้ว แอ๊ปเปิ้ลก็เปิดตัวชิพที่ดีไซน์กับ ARM เป็นชิพแรกที่จะใช้ในเครื่อง MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้ว เรียกกันว่าชิพ M1 หรือ Apple Silicon
7
หลังจากที่แอ๊ปเปิ้ลได้เปิดตัวไปภายในไม่กี่วัน ตอนแรกมีนักวิจารณ์ออกมาให้ข้อกังขาว่าแล้วการที่แอ๊ปเปิ้ลมาใช้ชิพของ ARM ประสิทธิภาพจะดีเท่าอินเทลหรือเปล่า และการที่แอ๊ปเปิ้ลตัดสินใจไม่ใส่พัดลมระบายอากาศใดๆ เลยหลังจากที่ใช้ชิพของ ARM จะส่งผลมากน้อยเพียงใด
6
ปรากฏว่าหลังจากที่เครื่องนี้ออกมา บรรดารีวิวต่างๆ ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสุดยอด เพราะว่า MacBook Air ของอาร์มนั้นทรงประสิทธิภาพมากกว่า MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นท็อปอีก จากการรายงานของเว็บไซต์ Geekbench มิหนำซ้ำตัวชิพนี้ยังกินแบตเตอรี่น้อยกว่าทางอินเทลเป็นอย่างมาก
7
นักรีวิวบางท่านถึงขนาดว่าสามารถใช้ MacBook Air ตลอด 4 วันโดยไม่ได้ชาร์จไฟแม้แต่ครั้งเดียว และการที่แอ๊ปเปิ้ลใช้ชิพของ ARM นั้นสามารถมาแก้ปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานของเครื่อง MacBook นั่นคือความร้อนของซีพียูและเสียงที่ดังออกมาจากพัดลมในเครื่อง MacBook ถือว่าเป็นการเดินหมากสำคัญของ ARM และแอ๊ปเปิ้ล
13
บริษัท ARM เข้ามาดิสรัปบริษัทที่เคยเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีเรื่องชิพอย่างอินเทลทั้งๆ ที่อินเทลมีเงินมากกว่า และมีทีมงานมากกว่า ARM ในทุกขุมกำลัง แต่สิ่งที่ ARM ทำที่ทำให้สามารถมาคว่ำเจ้าตลาดอย่างอินเทลได้ คือการนำเอาเทคโนโลยีที่ถูกพิสูจน์แล้วมาออกแบบให้มันง่ายขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
6
ล่าสุด อินเทลประกาศผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา พบว่ายอดขายลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ EPS ติดลบถึง 22% สมัยก่อนมันอาจจะเป็นยุคของปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ทุกวันนี้มันคือยุคของปลาเร็วกินปลาช้าอย่างแท้จริง
7
โฆษณา