12 ธ.ค. 2020 เวลา 08:17 • ท่องเที่ยว
หมอกีฬาพาเที่ยว "อุทัยธานี ไหว้พระ เดินป่า" EP.1
หมอกีฬาพาเที่ยว
ทริปนี้เกิดขึ้นจากความวุ่นวายในบ้านเมืองจากเหล่านักเดินป่าข้ามชายแดนมาปล่อยเชื้อ Covid19
ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนจากที่เคยวางไว้ว่าจะไปเชียงใหม่ทุกอย่างล่มสลายภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่เราลาแล้วนี่เอางัยล่ะทีนี้ ไลน์ไปบอกเพื่อนขอโทษที่ไปหาไม่ได้เเล้ว ไม่ได้กลัวจะไปติด Covid ที่นู่น แต่กลัวเพื่อนร่วมงานจะรู้สึกไม่สบายใจว่าเราไปเชียงใหม่ในช่วงที่มีข่าว กลัวเขาอยากให้เราพักที่บ้าน14วัน ฮ่าๆ เลยตัดสินใจว่าไปกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงละกัน
จากกรุงเทพฯไปวัดท่าซุง 216 กิโลเมตร
เดินทางไม่ไกลมาก ขับรถไปเองค่อยๆขับไป อุทัยธานีเป็นจังหวัด ภาคกลางตอนบนหรือภาคเหนือตอนล่าง ห่างจากกรุงเทพฯ  220 กม. โดยประมาณ ขับรถ  2 ชั่วโมง  45 นาที เป็นจังหวัดที่เงียบสงบมากๆ
วันนี้เป็นวันเสาร์ 5 ธันวาคม 2563 ยังเป็นวันพ่อแห่งชาติอยู่ รถค่อนข้างเยอะหลายๆคนคงอยากพาพ่อไปเที่ยว มาถึงวัดท่าซุง เวลา 11:30น. ผมตรงดิ่งไปที่วิหารแก้ว100เมตร ที่มีสรีระสังขารของหลวงพ่อตั้งอยู่ หาที่จอดรถเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในวิหาร ทางวัดมีมาตรการเข้มข้นมากให้ล้างมือก่อนเดินเข้าไปวัดไข้แจกบัตรคิวแสกน QRcode เช็คอิน แล้วรอให้ถึงคิวจึงจะเข้าได้ ดีใจที่มาตรการเว้นระยะห่างเริ่มนำกลับมาใช้อย่างเข้มข้นอีกครั้ง ผมรอจนถึงคิวที่200กว่าๆซึ่งก็ไม่นานนักจนท.ก็เรียกให้เข้า
พระพุทธชินราชวัดท่าซุง
ผมไปกราบพระพุทธชินราชก่อน แล้วสวดมนต์จนถึงแผ่เมตตาเสร็จแล้วก็เดินไปด้านตรงข้ามไปกราบสรีระสังขารของหลวงพ่อซึ่งตั้งอยู่ที่นี่มา28ปีแล้วยังคงสภาพไม่เน่าเปื่อย ท่านมรณภาพวันที่ 30 ตุลาคมปีพ.ศ. 2535
สรีระสังขารหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
จากนั้นผมเดินออกมาด้านนอกเพื่อถวายสังฆทาน ซึ่งที่นี่จะแปลกกว่าวัดอื่นคือสังฆทานจะมีพระพุทธรูปประจำวันเกิดถวายด้วย การถวายสังฆทานนั้นพระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นการทำบุญบริจาคะสูงสุดคือถวายให้สงฆ์โดยไม่จำเพาะเจาะจง
ถวายสังฆทาน
หลังจากถวายสังฆทานเรียบร้อยก็เดินไปไหว้ สมเด็จพระเจ้าตากสิน เป็นพระบรมรูปที่ปั้นตามนิมิตของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเทศน์ไว้ว่าถ้าใครอยากเห็นพระเจ้าตากหน้าตาเหมือนนิมิตที่ท่านเจอให้มาไหว้ที่วัดท่าซุง
สมเด็จพระเจ้าตากสิน องค์ขวาทรงผนวช องซ้ายทรงเครื่องกษัตริย์
ขับรถไปกราบสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่วิหารสมเด็จฯ วันนี้คนไม่มาก ถวายผ้า ไตรชุดใหญ่ เหรียญทอง และพวงมาลัยแก้วมณี เป็นพุทธบูชา นั่งสวดมนต์ทำสมาธิสักพัก  ลาท่าน ออกไปกราบพระพุทธรูปยืนสูง30ศอก
(หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา)
สมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ประฐม
หลวงพ่อท่านเคยกล่าวว่า  หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา นี้บัลดาลลาภให้มากมายนัก เพราะสร้างมาจากเงินบริจาคที่หลั่งไหลมาเพื่อที่จะสร้างพระพุทธรูปเพื่อชำระหนี้สงฆ์  เพราะฉะนั้นการสร้างพระพุทธรูปยืนนี้   จึงมีอานิสงฆ์ในการชำระหนี้สงฆ์ด้วย......เช่นกัน
หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา สูง30ศอก
ด้านหน้าเยื้องไปทางด้านซ้ายของพระพุทธรูปหลวงพ่อเงินไหลมาเทมานี้ จะมีเจดีย์อยู่องค์หนึ่ง ชื่อว่าเจดีย์พุดตาน
ประวัติการสร้างขอยกข้อความจากหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาไว้ ณ ที่นี้ครับ  "พระท่านสั่งบอกว่า ถ้าจะสร้าง เอาที่ตรงนี้นะ เอาที่ใกล้ๆ พระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร ต้องทำให้สวย แล้วก็มีดอกไม้ แล้วดอกไม้ก็ปิดทอง
เจดีย์พุดตาน
ถามท่านว่าทำไมจึงต้องสวย ท่านบอกว่าเป็นการเจริญศรัทธา ทุกอย่างที่ให้ทำนี่ ไม่ต้องการโอ้อวด ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร จึงทำไม่เหมือนใคร
ต้องการอย่างเดียว ให้ทุกคนที่มองเห็นแล้ว ติดตาติดใจว่า วัดท่าซุงมีอะไรบ้างที่เราชอบใจ ถ้าเวลาก่อนเขาจะตาย จิตเขานึกขึ้นมาว่า เราเคยเห็นวัดท่าซุงชอบใจตรงนั้นตรงนี้ ในขณะนั้นพร้อมกับเขาตายไป เขาจะไปสวรรค์ทันที
พระเจดีย์นี้มีความสำคัญอย่างไร ก็ต้องขอตอบว่า ถ้าเฉพาะเจดีย์จริงๆ ก็มีความสำคัญ เพราะว่า พระเจดีย์เป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็น "พุทธานุสสติ"
ถ้าเราเห็นพระเจดีย์ เรานึกถึงพระสงฆ์ผู้สร้าง ก็เป็น "สังฆานุสสติ" เห็นพระเจดีย์ ภาพสวยงามเป็นภาพกุศล ตายก็ไปสวรรค์ทันที ถ้าจิตใจดีมีความมั่นคงมาก ก็ไปพรหมได้ นี้เฉพาะเจดีย์"
เมื่อไหว้เจดีย์พุดตานเสร็จเรียบร้อย ก็ขับรถไปชมปราสาททองคำอันงดงามวิจิตรพิศดาร ตำนานการก่อสร้างมีดังนี้ครับ
ปราสาททองคำ
"ที่มาของคำว่า ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) เนื่องจาก ปีพ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ครบ ๕๐ ปี
ท่านเจ้าอาวาสจึงนำการสร้าง "ปราสาททองคำ" ขึ้นถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ ๕๐ และทางสำนักพระราชวังได้ให้ชื่อปราสาททองคำใหม่ว่า “ปราสาททองกาญจนาภิเษก”
เริ่มสร้าง ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๓๖ มีซุ้มพระยืน ๘ ศอก ประดิษฐานบนยอดปราสาท ขณะนี้ปิดทองเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งองค์พระและซุ้มพระ
ในการก่อสร้างปราสาททองคำ ท่านเจ้าอาวาสได้ให้พระสามารถซึ่งมีความชำนาญในด้านศิลปลายไทย ดังเช่นบุษบกที่ประดิษฐานสรีระสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อ"
วัดท่าซุงนี้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้มาอยู่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2511  ทำการบูรณะ สร้างและขยายวัด จากเดิมมีพื้นที่ 6 ไร่ 2 งาน กว่าๆ จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ 289 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา เป็นวัดที่ใหญ่มากๆครับ
อิ่มอกอิ่มใจกับการไหว้พระก็ออกไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านชื่อเรือนไม้ริมน้ำ ริมแม่น้ำสะแกกรัง อยู่ไม่ไกลจากวัดท่าซุงนัก เมนูเด็ดวันนี้ ได้แก่ ปลาแรดเคียงเมี่ยงตัวใหญ่มาก  ต้มส้มปลาเเรด+ เนื้ออ่อน+ ปลาคังรวมมิตร ฉูฉี่ปลาเนื้ออ่อนคั่วมะพร้าว อร่อยมากๆ โดยเฉพาะปลาแรดเคียงเมี่ยง อร่อยมาก ๆ แต่ตัวใหญ่กินไม่หมด  ต้องห่อไปกินมื้อเย็นฮ่าๆ
เมนูเด็ด ร้านเรือนไม้ริมน้ำ
พอทานอิ่มเปิด google จองโรงแรมปรากฎว่าที่เล็งไว้ เต็ม โทรถามทีละโรงแรมรีสอร์ทผ่านไป10กว่าที่ มาได้ที่ ห้วยขาแข้งคันทรี่โฮม ซึ่งห่างออกไป75กม. ฮ่าๆ ดีเลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวห้วยขาแข้งดีกว่า เพิ่งมารู้ทีหลังว่า รุ่งขึ้นคือวันที่ 6 ธันวาคม นั้นมีการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา "ปั่นเสือพิชิตดอย มรดกโลกห้วยขาแข้ง" โดยมีนักปั่น หลั่งไหลเข้ามา เมืองอุทัยจำนวนมากทำให้โรงแรมเต็ม ฮ่าๆเกือบไม่มีที่นอนละ
พระมณฑปสิริมหามายากุฎาคาร
จากนั้นก็ไปไหว้พระที่วัด สังกัสรัตนคีรี บนยอดเขาสะแกกรัง เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2443  จากบริเวณลานวัดจะมีบันได 449 ขั้นให้เดินตรงขึ้นสู่ยอดเขาสะแกกรัง
ถ้าไม่อยากเดินขึ้นบันไดก็สามารถใช้ทางรถได้โดยขับขึ้นไปบนเขาด้านหลังวัด จะมีที่จอดรถอยู่ด้านบน ซึ่งผมก็ไปทางนี้ล่ะครับ
บนยอดเขาที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองอุทัยธานีได้ 180 ถึง 270 องศานะครับ สวยงามแปลกตา
ด้านบนมีพระมณฑปทรงไทยสวยงามมีนามว่าสิริมหามายากุฎาคาร จำลองวิมานบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา
ในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระเศียร
เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานี
วัดสังกัสรัตนคีรี
ที่สำคัญในวันวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปีทางวัดจะจัดงานตักบาตรเทโว วันเทโวโรหณะ เป็นวันที่มีการทำบุญตักบาตรที่พิเศษ ตามขั้นบันได เรื่องราวในตำนานคือ ในพรรษาหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมโปรด พระมารดา และทรงจำพรรษาที่นั้น พอออกพรรษาก็เสด็จลงจากเทวโลกนั้นมายังโลกมนุษย์ โดยเสด็จลงที่เมืองสังกัสส์ (อยู่ใกล้เมืองพาราณสี) ชาวเมืองทราบข่าวก็พากันเฝ้าและทำบุญตักบาตรพระพุทธองค์ที่นั้น กล่าวกันว่า ในวันนี้ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน
หลังจากไหว้พระทำบุญเรียบร้อย เราก็ ตั้งเวลาจากอำเภอเมืองอุทัยธานีตรงดิ่งไปที่ ห้วยขาแข้งคันทรีโฮม เพื่อเข้าที่พัก เดี๋ยวมาต่อนะครับ EP.2 เดินป่าห้วยขาแข้ง
โฆษณา