27 ธ.ค. 2020 เวลา 12:00 • ปรัชญา
ตอนที่คุณซื้อหมากฝรั่งครั้งล่าสุด คุณถามตัวเองไหมว่า “นี่เราจ่ายไหวหรือเปล่า”
ถ้าเกิดคุณซื้อหมากฝรั่งไปแล้ว พรุ่งนี้คุณดันโดนไล่ออกจากงาน คุณจะกลับมาเสียใจที่ซื้อหมากฝรั่งไปเมื่อวานไหม ?
ก็คง “ไม่” เพราะต่อให้เราซื้อหรือไม่ซื้อหมากฝรั่ง มันก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้ชีวิตหรืออนาคตของเราอยู่ดี
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ การจ่ายไหวจริงๆ คือ การที่คุณสามารถซื้อสิ่งนั้นได้แบบไม่ต้องคิด และ ไม่มีเงื่อนไขอะไรในการซื้อเลย
ฉะนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณต้องต่อสู้ทางความคิดว่า “จะจ่ายไหวหรือเปล่า” แสดงว่า “คุณจ่ายไม่ไหว” หรอก แต่หลายครั้งเราจะหาเหตุผลมาหลอกตัวเองว่าเราจ่ายไหว เช่น
1
- เราจะผ่อนมือถือเครื่องใหม่ไหว ถ้าเราไม่โดนไล่ออกจากงาน
- เราจะผ่อนบ้านไหว ถ้าเราทำงานได้ค่าคอมมิชชั่นมากกว่าเดิม 2 เท่า
- เราจะผ่อนรถไหว ถ้าสิ้นปีนี้เราได้โบนัส
ถ้าเราพูดกับตัวเองประมาณนี้ ให้รู้ไว้เลย ว่ามันคือสัญญาณเตือนว่า “เราจ่ายมันไม่ไหว”
แต่ถ้าคุณสามารถซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อมือถือ หรือ ของชิ้นใหญ่ ได้เหมือนกับการ “ซื้อหมากฝรั่ง” เมื่อไหร่ นั่นแหละถึงจะเรียกว่า “จ่ายไหว” จริงๆ
เพราะการจ่ายไหว จะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ พ่วงมาด้วย จำไว้ว่า คุณอาจหลอกตัวเองได้ก็จริง แต่คุณไม่มีทางหลอกผลที่จะตามมาในอนาคตได้หรอก
ชีวิตการเงินของคุณวันนี้ คือ ผลพวงจากการเลือกใช้เงินของคุณในอดีต และ การเลือกใช้เงินในวันนี้ ก็จะส่งผลต่อชีวิตการเงินของคุณในอนาคต
2
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
โฆษณา