The Adventures of จ.Jump ตอน ดวลเดือดซิ่งล้อหมุน
สวัสดีผู้อ่านทุกคนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสกับผมนายจั๊มพ์ครับ หลังจากละเมียดละไมชิมของกินอิ่มเสียวท้องไปเต็มคราบในตอนที่แล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาเหยียบคันเร่งซิ่งสะท้านเมืองกันยกใหญ่เมื่อการขับรถออกถนนหนแรกเปลี่ยนเป็นการไล่ล่าฝ่าไฟแดงทุกสี่แยกที่เจอ ซึ่งจะระห่ำบรรลัยขนาดไหนต้องตามอ่านกันต่อในตอนที่ชื่อว่า ดวลเดือดซิ่งล้อหมุน
ผ่านไป 2 อาทิตย์หลังจากที่ได้ไปเรียนขับรถมา วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะพารถยนต์ส่วนตัวออกสู่ท้องถนนเพื่อจะไปทำใบขับขี่ ณ กรมการขนส่งทางบก
ซึ่งก่อนที่จะออกจากบ้านพ่อได้ฝากกระเช้าผลไม้ยักษ์ให้ผมนำไปให้บ้านญาติแถว ๆ จุดหมายที่ต้องไปด้วย
ความที่ใจอยากรีบไปทำให้เสร็จ ๆ แล้วกลับมาเล่นเกมส์ที่บ้าน เมื่อโดนมอบหมายให้ทำภารกิจเสริมผมก็อดขุ่นเคืองไม่ได้เพราะต้องเสียเวลาอีกโขกว่าจะเสร็จจากธุระที่นั้น
ครั้นอยากบอกปัดไม่ไปก็ขี้เกียจฟังคนแก่บ่น ผมจึงรับกระเช้าผลไม้มาแล้วรีบขับบึ่งทำเวลาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับมาที่บ้านให้ไวเท่าที่จะทำได้
จากบ้านออกมาปากซอยโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าตัวเองทำเวลาได้ค่อนข้างดีสำหรับมือใหม่หัดขับ แต่ตอนจะเลี้ยวออกกลับเสียเวลาไปพักใหญ่เพราะกลัวรถชน
ครั้นเห็นถนนโล่งและจะขับออกมา จู่ ๆ รถยนต์คันหนึ่งก็พุ่งตรงมาหาผมแล้วจอดบีบแตรแถมทำปากขยับขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าอย่างไงอย่างงั้น
เท่าที่เห็นสีหน้าคนบนรถออกอาการไม่พอใจ ซึ่งผมเองก็ได้แต่พยักหน้างก ๆ ขอโทษขอโพย แทนที่คนขับเห็นจะหยุดพฤติกรรมที่ว่าคราวนี้ยิ่งชี้นิ้วและบีบแตรหนักกว่าเดิม
แม้ในใจตอนแรกจะรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน ทว่าตอนหลังผมก็อดทนกลั้นอารมณ์อีกไม่ไหว เล่นบีบแตรหนักขนาดนี้อยากมีเรื่องเหรอเดี๋ยวจัดให้ !!
ผมโต้กลับด้วยเสียงแตรที่ดังสนั่นไม่แพ้กันแล้วฉวยจังหวะรีบชิ่งหลุดออกมา สีหน้าฝ่ายตรงข้ามเอ๋อไปชั่วขณะ ได้แต่มองตาปริบ ๆ อ้าปากค้าง
คงไม่คิดละซิว่าบีบแตรเสร็จแล้วจะขับหนี เจอกลยุทธ์นี้เข้าไปได้แค้นในใจแน่นอน
ยามที่ผมขับเลยมาซักพักคิดว่าเรื่องทุกอย่างจบลง พอหันไปมองด้านข้างกลับเจอหน้าคุ้น ๆ ที่พึ่งขับหนีมา เห็นทีถ้าไม่สลัดให้หลุดคงโดนตามวอแวไม่เลิก
พอไฟสัญญาณจราจรเป็นสีเขียวผมรีบเข้าเกียร์หนึ่งเร่งความเร็วจนได้ที่แล้วสลับเหยียบคลัทช์เปลี่ยนเป็นเกียร์สองจนไต่ระดับไปถึงเกียร์สี่
ด้วยความเร็วเกินระดับกฎหมายที่กำหนดผมคิดว่าหนนี้หนีพ้นเป็นที่เรียบร้อย เพราะมองไม่เห็นเจ้าของรถทั้งกระจกข้างและกระจกหลัง
ที่ไหนได้ต่อให้มองไม่เห็นแต่เสียงแตรที่ดังไล่มาทำให้รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามยังคงตามติดไม่ทิ้งห่าง
เมื่อตรงมาถึงสี่แยกข้างหน้าผมตัดสินใจเหยียบฝ่าไฟแดงเฉียดโดนรถเมล์ชนไปนิดเดียวถ้าเท้าเหยียบคันเร่งผ่อนแรงเบาน้อยกว่านี้
ผมยังคงซิ่งไปต่อบนท้องถนนเพราะรู้ดีถ้าตัวเองขับฝ่าไฟแดงมาได้อีกฝ่ายก็สามารถทำได้เหมือนกัน
ตั้งแต่แหกกฏจราจรขับเร็วมาตลอดทางนี่เป็นแยกที่สี่แล้วที่ผมเห็นไฟแดงแล้วยังไม่หยุดจอดซักครั้ง เพราะเส้นทางที่ผ่านมามีเสียงแตรไล่ตามมาทุกระยะไม่เคยเงียบเว้นว่าง
จนในที่สุดผมก็ยอมปราชัยเอารถจอดข้างทางเปิดประตูแสดงความพ่ายแพ้ ยอมจำนนด้วยแข้งขาสั่นกราบขอขมาด้วยความเศร้าโศกที่อุตริท้าดวลจ้าวพ่อความเร็ว
***เฉลยปม***
ตอนที่ลงจากรถมาผมนึกว่าจะได้เห็นหน้าคนไล่ตามหากแต่มองตรงไหนก็ไม่เจอซักที่ หรือเสียงแตรที่ได้ยินจะเป็นเพียงอาการประสาทหลอนอ่อน ๆ
ทว่าผมก็รู้ความจริงเมื่อมองวนครบ 360 องศา กระเช้าผลไม้ที่พ่อฝากไปให้ญาติตั้งชี้โด่ชี้เด่ท้าทายสายตาแก่เหล่าคนผู้พบเห็น
ตีความได้ว่าที่บีบแตรไม่ได้จะสื่อถึงความอ่อนหัดบนท้องถนนเพียงแค่ชี้เป้าหมายให้ผมเห็นว่ากระเช้าอยู่บนรถเท่านั้น
ดูท่าความหวังดีที่คนรอบข้างเตือนจะกลายเป็นความผิดพลาดที่ผมเข้าใจเป็นอย่างอื่น ถ้าแบบนั้นการที่ซิ่งฝ่าไฟแดงมาคงเป็นการอุปทานไปเองว่ากำลังถูกไล่ตาม
หรือบางทีอาจหมายถึงคนอื่นกำลังบีบแตรด่าก็ได้ เพราะเมื่อผมลองย้อนกลับไปมองข้างหลังดูก็เห็นตำรวจเปิดไซเรนขับเข้ามาใกล้ ๆ สงสัยนอกจากจะไปทำใบขับขี่ไม่ทันแล้ววันนี้ทั้งวันคงไม่ได้กลับไปเล่นเกมส์แหงเพราะถ้ารอดไปได้ยังต้องเอากระเช้าผลไม้ไปให้บ้านญาติต่ออีก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
