24 ธ.ค. 2020 เวลา 07:45 • ไลฟ์สไตล์
พลังแห่งกลิ่น
Pinterest
ตอนที่ 1
พลังแห่งกลิ่น ที่ส่งผลต่อผู้คนนั้นมีมากกว่าที่เราคิด
ดอกไม้...คือผู้ให้กำเนิดกลิ่นหอมเริ่มแรกและเป็นต้นทางแห่งกลิ่นหอมบนโลกนี้ ที่ทำให้มนุษย์หลงไหลในกลิ่นนั้นเรื่อยมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
ผู้หญิงหลงใหลในความงามและกลิ่นหอมของดอกไม้จึงได้นำเอาดอกไม้มาประดับตกแต่งร่างกายและนำไปประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้เพื่อประทินโฉม ตั้งแต่ในยุคสมัยโบราณ จนแม้นกระทั่งจอมทัพนักรบที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังต้องมาหลงใหลในหญิงที่งดงามและมีกลิ่นกายหอมอบอวล ...เป็นอย่างนั้นมาตลอดกาล
เปลวไฟและกลิ่นควันจากกองไฟที่เตาผิงในฤดูหนาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นมีพลังและอำนาจ กลิ่นควันธูปในพิธีกรรมการบวงสรวงบูชาเทพเจ้า สร้างความศรัทธาเชื่อมั่นและความศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดเป็นประสบการณ์ผ่านผู้คนหลายยุคหลายสมัยต่อเนื่องกันมา
"พระชมการะเกดแก้ว หอมหา ยากนา
หอมหื่น กลเกศา รวดเร้า
พระชม มุลิลา ลานสวาท
ชมดอกไม้เกี้ยวเกล้า เพื่อนไท้ แพงทอง..."
วรรณคดี : "ลิลิตพระลอ"
พระราชนิพนธ์ : สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐา)
พ.ศ. 2034-2072 กรุงศรีอยุธยา
🌷🌻🌼
กลิ่นหอมของดอกไม้ไทยได้รับการพรรณาบรรยายไว้มากมายในวรรณคดีไทย กาพย์กลอน นิราศต่างๆ ต่อเนื่องมาหลายยุคสมัย
มาจนปัจจุบัน การพรรณานาบรรยายถึงความรู้สึกของผู้คนที่ได้สัมผัสกลิ่นหอมต่างๆยังมีอยู่และได้เปลี่ยนผ่านการส่งต่อทางมาทางบทเพลงต่างๆแทนตามยุคสมัย ทั้งเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง จนมาถึงยุคนี้ บทเพลงของสุนทราภรณ์ได้ร้องบรรยายถึงกลิ่น หอมจากดอกไม้ไว้อย่างไพเราะหลายเพลงด้วยกัน
เช่นในเนื้อเพลงชื่อ “หอมดอกอะไรเอ่ย” มาจนถึงช่วงเวลาในช่วงปัจจุบันมีเพลงของนักร้องหญิง ปาล์มี่ร้องเพลง ”ซ่อนกลิ่น”เอาไว้บอกถึงพลังแห่งกลิ่นหอมของดอกซ่อนกลิ่นได้อย่างไพเราะ โดยที่ในเนื้อหานั้นไม่ว่าจะยุคสมัยใดกลิ่นหอมคือสื่อที่มีพลังต่อความรู้สึกคิดถึงคนรักเป็นอย่างมาก หรือทำให้ นึกถึงเรื่องราวของความรักในอดีต นึกถึงช่วงเวลาขณะที่เคยอยู่กันใกล้อย่างชิดกัน
ซึ่งนั่นก็น่าที่จะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีว่าพลังแห่งกลิ่นสามารถส่งผล ทำให้รู้สึกย้อนเวลากลับไปถึงเหตุการณ์ หรือความประทับใจในอดีตให้หวนกลับมาได้ในทันที เพียงแค่ ได้สัมผัสสูดดมกลิ่นหอมนั้น
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา