วิลล่า มาร์เก็ท ความสำเร็จที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
คุณสุรพงษ์ ภูสนาคม ก่อตั้งวิลล่า มาร์เก็ทขึ้นในปี พ.ศ. 2517 โดยสาขาแรกอยู่ที่ตรงสุขุมวิท 33 และขยายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว เพราะเล็งเห็นถึงตลาดของประชากรต่างชาติในประเทศไทย จึงขายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยมุ่งไปที่วัตถุดิบอาหารเป็นหลัก โดยในระยะแรกเขามุ่งเน้นความเป็นกันเองกับลูกค้า และบริการที่ดี เช่น การอนุญาตให้ลูกค้าเอาใบประกาศมาติดได้ เช่น การรับสมัครแม่บ้าน การซื้อขายสินค้ามือสอง การให้เช่าบ้าน เป็นต้น และด้วยความที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติ จึงเป็นจุดกำเนิดของการสร้างกลุ่มลูกค้า และเป็นที่นัดพบของลูกค้าต่างชาติ
ในภายหลัง ลูกค้าชาวไทยที่เคยเรียน ทำงาน หรือเที่ยวในต่างประเทศ และต้องการหาสินค้าต่างประเทศที่เคยกิน เคยใช้ ก็ต้องติดใจกับที่นี่เช่นกัน เพราะสามารถหาซื้อของต่างประเทศที่มีคุณภาพได้ในที่เดียว
แต่สถานการณ์โควิดก็ส่งผลกระทบกับวิลล่า มาร์เก็ทพอควร ลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวก็บางตาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่บริษัทก็ยังคงสู้ต่อไป
วันนี้ ผมได้มีโอกาสไปแวะวิลล่า ที่เวลา บนถนนหลังสวน สาขาใหม่เอี่ยมของวิลล่า ก็ยิ่งได้พบกับความประทับใจใหม่ ลูกน้องของคุณพิศิษฐ์ ภูสนาคม (ลูกชายของคุณสุรพงษ์) มาจากส่วนกลางมาสำรวจตรวจตราร้านตั้งแต่เช้า ตรวจดูของ สภาพร้าน การแต่งกายของพนักงาน พอถึงเวลา 11.00 น. ก็มีการประชุมพนักงานในร้าน มีการพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในร้าน และหนทางการแก้ไขปัญหา มีการพูดถึง feedback จากลูกค้าว่าพอใจ ไม่พอใจตรงไหน และมีการพูดถึงการรีโนเวทร้าน ว่าจะปรับตรงไหนบ้าง และท้ายที่สุดพนักงานก็กล่าวการทบทวนพันธกิจของร้าน (แอบฟังไม่ทัน) ผมไปด้อมๆ มองๆ มากจนพอเขาประชุมเสร็จ คนนี้ถึงเข้ามาถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เพราะสังเกตเห็นผม ผมสงสัยมากจนต้องถามเกี่ยวกับการประชุม ถึงได้รู้ว่าเขาทำแบบนี้ทุกวันตอนเช้า นอกจากนี้ ฟีดแบ็กจากลูกค้าวิลล่า มาร์เก็ทจากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะจากสาขา หรือ ทางสื่อโซเชียลต่างๆ จะถูกทีมงานรวบรวมเอาไปวิเคราะห์ว่าลูกค้าชอบและไม่ชอบอะไร เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงาน และผลิตภัณฑ์ของร้าน
เพื่อนๆ ฟังดูแล้ว อาจจะรู้สึกว่าธรรมดา สำหรับผมแล้ว ผมว่านี่แหล่ะ ทำให้วิลล่า มาร์เก็ท ร้านขายของที่ยังสามารถต่อกรกับห้างขนาดใหญ่ และร้านขายของชำที่มีอยู่เกลื่อนเมืองได้ทุกวันนี้ การทำแบบนี้ทำให้พนักงานทุกๆ คนรู้จุดที่ต้องปรับปรุง เรียนรู้ที่ให้ความสนใจกับลูกค้า คอยสังเกตและจดจำลูกค้า และการทบทวนพันธกิจทุกวันก็ทำให้พนักงานรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่ เพื่อทำไปวันๆ แต่เพื่อพันธกิจอันยิ่งใหญ่ของบริษัท พนักงานถึงได้มีความตั้งใจในการทำงานมากกว่าร้านทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
ใครๆ ฟังแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ก็ลองเอาไปปรับใช้นะครับ
- 47
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
