31 ธ.ค. 2020 เวลา 12:59 • ปรัชญา
มีนักศึกษาคนหนึ่งเคยคุยกับผู้เขียนว่าอกหักถึงขั้นสาปส่ง และไม่คบผู้ชายเกือบ 10 ปี ข้ามไปคบทอมแล้วก็ถูกทอมหักอกซ้ำอีก จนวันหนึ่งก็เริ่มเห็นผู้ชายหล่อ ในที่สุดก็ได้แต่งงาน ผู้เขียนได้ให้โอวาทในวันแต่งงาน เธอบอกว่าเพราะความคิดว่าผู้ชายทำให้เจ็บ แล้วก็ไม่ไว้ใจผู้ชายอีก นี้ก็เพราะความคิดทั้งนั้น ผู้ชายทำให้เจ็บเพียงคนเดียว แต่ความคิดมันทำให้เข้าใจว่าผู้ชายทั้งโลกไว้ใจไม่ได้
ความทุกข์ในชีวิตเราใครสร้าง ? ตัวความคิดนี้แหละ ร้ายที่สุด!! ฉะนั้น เราต้องรู้ทันความคิด ทำอะไรทีละอย่าง ล้างจานก็เพื่อล้างจาน อย่าไปคิดว่าล้างให้มันสะอาด ถ้าคิดว่าล้างให้มันสะอาดก็จะไปอยู่กับความสะอาด ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคต อาบน้ำก็อาบน้ำ รู้สึกตัวกับการอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าอาบน้ำไปก็ร้องเพลงไป เพลงก็ดึงมาจากอดีต กินข้าวก็คือกินข้าวอย่างเดียว และอย่ากินไปคิดไป ลองไปทำดู เวลากินลองหลับตาเคี้ยวดู ตระหนักรู้ถึงอาหารที่กำลังเคี้ยวอยู่ ส่วนมากเวลาที่เรากำลังเคี้ยวเราก็ดูข่าวไปด้วย ดูทีวีไปด้วย ถ้าเรากินข้าวแล้วเราดูข่าวไปด้วยเราก็ไม่ได้กินข้าว แต่เรากินข่าว ข้าวก็ปล่อยให้มันไหลลงไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หากเราทำอะไรด้วยความไม่รู้สึกตัว ผลก็คือความคิดก็เป็นโจรที่ลอบเข้ามาอยู่ในความคิดแล้วปั่นหัวเรา เธอต้องทำอย่างนั้น เธอต้องทำอย่างนี้
ในหัวของเราจะมีสองตัว คือ ตัวสติตัวหนึ่ง ตัวกิเลสตัวหนึ่ง ผู้เขียนเรียกว่า ตัวสร้าง กับ ตัวเสือก สองตัวนี้จะเล่นเก้าอี้ดนตรีกันทุกวัน เช่น เพื่อนชวนไปฟังพระเทศน์ ตัวสติมันจะบอกว่า ดีเหมือนกัน แต่ตัวเสือกมันจะบอกว่า วันนี้ขอนอนก่อนดีกว่า
บางทีตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือ ตั้งนาฬิกาไว้ตีสี่ พอถึงเวลา ตัวสร้างมันเป็นตัวตั้งเวลา พอตื่นปุ๊บ แต่ตัวเสือกมันจะบอกว่า ขอนอนต่ออีกหน่อยน่า ในชีวิตจริงเราจะอยู่กับสองตัวนี้ตลอดเวลา เคยสังเกตไหม สังเกตจิตใจของเรา พยายามให้ตัวสร้างคือตัวสติได้นั่งเก้าอี้ดนตรีให้เยอะที่สุด แล้วชีวิตจะมีความสุข
ถ้าเราปล่อยให้ตัวเสือกคือกิเลสครอบงำเรา ชีวิตจะเข้าสู่ความยุ่งยาก ชีวิตโดยตัวของมันเองไม่ได้ยุ่งยาก ที่เรารู้สึกว่าชีวิตมันยุ่ง ๆ เพราะความคิดมันพายุ่ง อย่างตัวชีวิต ถ้าหิวก็หาอะไรมากิน ก็อิ่ม แต่ความคิดบอกว่าจะกินน้ำต้องโค้ก ท้องไม่ได้อยากกินโค้ก แต่ความคิดนี่แหละ บางคนกินแทนน้ำเลย ความคิดมันพาปรุง เราแค่หิวก็แค่ไปหาอะไรมากินให้อิ่ม แต่ความคิดมันหิวมันจะบอกว่าต้องไปกินตรงโน้น ต้องไปกินร้านนั้น หรือไปดูหนังคือต้องไปดูโรงนั้น โรงโน้นดีกว่าโรงนี้ หรือจะไปร้านหนังสือ บอกว่าร้านนี้ไม่ดีต้องไปร้านโน้นดีกว่า ความคิดจะนำเราไปก้าวหนึ่งเสมอ
ถ้าเรารู้ทันความคิด ชีวิตจะง่ายขึ้น ดังนั้น เราต้องฝึกเจริญสติเพื่อให้รู้ทันความคิด ตามที่กล่าวมาแล้ว
" ส ติ ส ร้ า ง . . . กิ เ ล ส เ สื อ ก "
• • • • •
ว.วชิรเมธี
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "กลั่นทุกข์ให้เป็นสุข" | Suffering
|ความทุกข์เกิดขึ้นมาไม่ใช่เพื่อทำให้เราท้อ
|แต่เกิดขึ้นมาเพื่อให้เราก้าวต่อไปจนพบความสุข
โฆษณา