31 ธ.ค. 2020 เวลา 04:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ
OIL UPDATE : การขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ สิ้นสุดปี 2020 ลงที่ระดับก่อนเกิดอุตสาหกรรม Shale Oil ขณะที่แท่นขุดเจาะปิดตัวลงกว่า 260 แท่น
วิกฤตที่ห่อหุ้มอุตสาหกรรมน้ำมันในปี 2020 สามารถวัดได้หลายวิธี แต่ในสหรัฐอเมริกาอาจไม่มีมาตรวัดเดียวที่ดีไปกว่าจำนวนแท่นขุดเจาะที่กำลังดำเนินการของผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก
ข้อมูลรายสัปดาห์แสดงให้เห็นถึงระดับความเชื่อมั่นจากบริษัทหลาย 100 แห่งนับตั้งแต่เท็กซัสไปจนถึงนอร์ทดาโคตา (North Dakota) ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในปีนี้ท่ามกลางการแพร่ระบาด ผู้ประกอบการเหล่านั้นจึงลดการใช้จ่ายและลดจำนวนการขุดเจาะอย่างมาก
ผลที่ตามมาคือจำนวนแท่นขุดเจาะทรุดตัวลงสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่การถือกำเนิดของเทคโนโลยี Shale Oil เมื่อ 15 ปีก่อน (ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 1 ของโลก) และแม้ว่าราคาจะดีดตัวขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่ก็ยังต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของปี 2020 ซึ่งในปีหน้าคาดว่าราคาน้ำมันในสหรัฐฯ จะไม่ดีขึ้นมากนัก โดยจะอยู่ระหว่าง 40-50 $/บาร์เรล ทำให้ผู้ผลิตต้องคิดอย่างหนักว่าพวกเขาจำเป็นต้องเปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มอีกหรือไม่
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ปิดตัวลง 267 แห่งในปี 2020 ตามข้อมูลของ Baker Hughes Co. ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นตัวเลขสิ้นปีที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงที่ค้นพบความก้าวหน้าที่สมบูรณ์แบบในแหล่งขุดเจาะก๊าซธรรมชาติเช่น Barnett Shale ของ North Texas
1
การตกต่ำดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ หลังจากที่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำระดับโลกจากการเติบโตของ Shale Oil ซึ่งผลักดันให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่มีคู่แข่งคือซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย
แต่การระบาดของ COVID-19 ได้บีบให้ผู้ผลิตต้องลดต้นทุนอย่างเจ็บปวด ผลผลิตในประเทศกำลังจะสิ้นสุดในปีนี้อย่างคงที่ แต่จะอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนเกิดการระบาดประมาณ 16% หรือต่ำกว่าเดิมราว ๆ 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน (จาก 12.8 ล้านเหลือประมาณ 10.7 ล้านบาร์เรล/วัน) ในขณะเดียวกัน OPEC ก็สามารถฟื้นตำแหน่งเดิมในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกได้
1
World Maker's Comment : จริง ๆ แล้วนี่เป็นประเด็นที่ World Maker นำเสนอไปตั้งแต่ช่วงสงครามน้ำมันแล้วว่ามันคือการจับมือกันของซาอุฯ และรัสเซีย ไม่ใช่การทะเลาะกันอย่างที่สื่อกระแสหลักทั่วโลกกล่าว ส่วนผลสรุปสุดท้ายสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในปีนี้คือทั้งซาอุฯ และรัสเซียได้ประโยชน์มหาศาลจากการทรุดตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐฯ
2
สำหรับการขุดเจาะภาคพื้นดินในสถานที่ต่าง ๆ เช่นเวสต์เท็กซัสและนอร์ทดาโคตา จำนวนแท่นขุดเจาะที่ลดลงถือเป็นปีที่เจ็บปวดสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ โดยบริษัทหลายสิบแห่งถูกฟ้อง/ยื่นฟ้องล้มละลายในปีนี้ และมีการสูญเสียตำแหน่งงาน "หลายหมื่นตำแหน่ง"
Schlumberger ซึ่งเป็น 1 ในยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมละทิ้งงานขุดเจาะทั้งหมดในเขตอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากิจกรรมในเทคโนโลยี Shale Oil ของสหรัฐฯ อาจไม่กลับไปรุ่งเรืองเหมือนจุดสูงสุดก่อนหน้านี้อีกแล้ว
1
(ภาพด้านล่างนี้แสดงจำนวนแท่นขุดเจาะที่ลดลงในเขตน้ำมันสำคัญ ๆ ของสหรัฐฯ)
อนึ่ง กิจกรรมการขุดเจาะฟื้นตัวได้เพียงช้า ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลผลิตจาก Shale Oil ลดลงเร็วกว่าบ่อน้ำมันทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ยังคงระมัดระวังในการใช้เงินจำนวนมากไปกับการสำรวจและขุดเจาะครั้งใหม่ เนื่องจาก Supply ที่มีอยู่มากเกินไปซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาในช่วงต้นปี 2020 และเลวร้ายลงเมื่อการระบาดของ COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเป็นอัมพาต
Matt Gallagher ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Parsley Energy Inc. กล่าวว่า
“North American E&Ps are in a battle for investment relevance, not a battle for global market share, Allocating growth capital into a global market with artificially constrained supply is a trap our industry has fallen into time and time again.”
“การสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในอเมริกาเหนือกำลังต่อสู้ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลก โดยจะมีการจัดสรรเงินทุนเพื่อการเติบโตสู่ตลาดโลกที่อุปทานมีข้อจำกัด ซึ่งเป็นกับดักที่อุตสาหกรรมของเราต้องพบเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
หนึ่งสัปดาห์หลังจากคำพูดของ Gallagher แท่นขุดเจาะทั่วประเทศลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ 172 แท่น และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ตกลงที่จะขาย Parsley ให้กับ Pioneer Natural Resources Co. ในราคาประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา อุตสาหกรรม Shale Oil ในเท็กซัสได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวครั้งใหญ่ที่สุด โดย Permian Basin ในเวสต์เท็กซัสและนิวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของอเมริกาเหนือ ได้เห็นกิจกรรมการขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นหรือคงที่เป็นระยะเวลา 15 สัปดาห์ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ความเร่งรีบดังกล่าวส่วนหนึ่งได้รับการกระตุ้นจากความกังวลของผู้ขุดเจาะที่ว่าประธานาธิบดี Joe Biden อาจขัดขวางการขุดเจาะในบริเวณที่ดินของรัฐบาลกลางในเขต Permian ของนิวเม็กซิโก ขณะเดียวกัน สถานที่ขุดเจาะอื่น ๆ เช่น Bakken ใน North Dakota และ DJ-Niobrara ใน Colorado ก็ฟื้นตัวได้ช้าลงเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและทำกำไรได้น้อยกว่าในการขุดเจาะ
1
หลังจากบริษัทขุดเจาะของสหรัฐฯ ลดการใช้จ่ายลง 50% ในปีนี้ พวกเขาคาดว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายได้เพียง 5% ในปี 2021 ตามรายงานของ Evercore ISI และในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างเช่น ละตินอเมริกาและยุโรป คาดว่าการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมน้ำมันจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น
2
ในสหรัฐอเมริกา การใช้จ่ายครั้งใหม่ส่วนใหญ่คาดว่าจะเป็นเงินทุนในกระบวนการขุดเจาะ (fracking) มากกว่าการเปิดแท่นขุดเจาะใหม่ ขณะที่บริษัทขุดเจาะอย่างเช่น Callon Petroleum Co. เร่งขายแท่นขุดเจาะล่วงหน้าจำนวนมากซึ่งยังสร้างไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ
World Maker's ViewPoint : จริง ๆ แล้วการทรุดตัวลงของ Shale Oil ในอีกแง่หนึ่งกำลังบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของพลังงานสะอาดที่จะมาทดแทนในโลกอนาคต
โฆษณา