1 ม.ค. 2021 เวลา 10:44
"The Aviation Gallery EP:11"
Mission 2021 ภารกิจครั้งประวัติศาสตร์
สวัสดีปีใหม่ครับ ปี 2021 คือปีแห่งความหวัง
ความหวังเดียวของมนุษยชาติที่จะหยุดการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั่นคือการที่ต้องมีวัคซีน
แต่อีกปัญหาที่ท้าทายและรอคอยเราอยู่ก็คือ
การกระจายวัคซีน ไปให้ทั่วถึงกับประชากรโลก
นับพันล้านคนที่รอความหวังนั้นอยู่
เป็นภารกิจที่สุดท้ายทาย"ภารกิจแห่งประวัติศาสตร์"
และถือเป็นภารกิจที่สุดซับซ้อนครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก เหมือนกับที่ Dr. Kate O'Brien,
จากองค์การอนามัยโลกได้กล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า การจะเอาชนะ Covid-19 เหมือนการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ การคิดค้นผลิตวัคซีนได้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ base camp หรือที่เชิงเขา ระยะทางที่เหลือจากนั้นก็คือการขนส่งและกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงซึ่งเป็นภารกิจที่ท้าทายยิ่ง ในแง่ของจำนวนและเงื่อนไขของความเร่งด่วน
ซึ่งภารกิจการขนส่งวัคซีนนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเดือนหรือสองเดือน แต่มันจะกินระยะเวลายาวนานเป็นปีเลยทีเดียว
ทางเลือกเดียวที่จะขนส่งวัคซีนให้ทันกับความต้องการและยังคง"รักษาสภาพพร้อมใช้งาน"ของวัคซีนนั่นคือการขนส่งโดยการใช้เครื่องบินเป็นหลัก
เหมือนที่ Chris Busch ผู้จัดการบริหารส่วนการขนส่งสินค้าภายในอเมริกาของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ได้กล่าวไว้ ว่า
"There's no replacing the speed of an airplane,"
การขนส่งโดยเครื่องบินที่ไม่ใช่เครื่องบินคาร์โก้เพียงอย่างเดียว นั่นหมายรวมถึงเครื่องบินที่ครั้งหนึ่งเคยขนผู้โดยสารต้องเปลี่ยนมาปฏิบัติภารกิจครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย มนุษย์จึงสามารถที่จะได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและทันท่วงที ซึ่งมันไม่ง่ายมีความท้าทายหลายอย่างรออยู่
ผมขอสรุปมาให้ทุกท่านเข้าใจได้ง่ายๆดังนี้
1. รูปแบบการขนส่งสินค้าแบบใหม่
วัคซีนบางชนิดเช่นวัคซีนของ บ.Pfizer ที่ต้องเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิเย็นจัดระดับต่ำกว่าเยือกแข็งที่ -94 F° นั่นหมายถึงต้องทำงานแข่งกับเวลา เครื่องบินต้องจอดเทียบที่หน้าอาคารคลังสินค้าให้ใกล้กับ Warehouse ที่สุดเพื่อจะขนส่งวัคซีนผ่านอาคารคลังสินค้าไปยังรถขนส่งที่พร้อมจะรับช่วงต่อทันที
2. ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์
ภารกิจนี้ไม่มีคำว่าคู่แข่ง เราจะเห็นภาพบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง FedEx และ UPS แบ่งพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาออกเป็น 2 ส่วนแล้วต่างทำหน้าที่ขนส่งวัคซีนกระจายไปทั่วด้วยความร่วมมือกัน
ในปีนี้ที่ประเทศไทยจะได้รับวัคซีน เราคงได้เห็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ สายการบิน low cost ที่บินภายในประเทศ บริษัทขนส่งที่จะรับช่วงต่อ
เราไม่ใช่คู่แข่งขันเราจะทำงานเป็นทีม
"ทีมประเทศไทย"ขนส่งวัคซีนไปยังคนไทยทุกคน
3. ความรับผิดชอบที่มาพร้อมความเสี่ยง
อย่างที่ทราบวัคซีนบางชนิดต้องการการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำมาก สิ่งที่จะช่วยเก็บรักษาวัคซีนที่อุณหภูมิต่ำขนาดนั้นได้มีเพียง"dry ice"หรือคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปแบบที่เป็นของแข็งเท่านั้น ที่จะทำได้แต่เนื่อง dry ice เป็นสินค้าที่มีความอันตราย(dangerous goods)และต้องถูกจำกัดปริมาณ ล่าสุด FAA ได้อนุญาตให้สายการบินยูไนเต็ดและสายการบินอื่นสามารถบรรทุก
dry ice ได้เพิ่มถึง 15,000 lbs หรือ 5 เท่าของปริมาณมากสุดที่เคยอนุญาต เพื่อให้การขนส่งวัคซีนเป็นไปได้ตามความต้องการ แต่นั่นต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงอันตรายของผู้ปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นนักบินเจ้าหน้าที่โหลดสัมภาระ เพราะเมื่อ dry ice เกิดการระเหิดมันจะเปลี่ยนรูปกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ไม่ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานหรือต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง พวกเราในฐานะนักบินและเจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ครั้งประวัติศาสตร์นี้ พวกเราจะเตรียมความพร้อม
ซักซ้อมทุกขั้นตอนให้เกิดความผิดพลาดน้อยสุด
เพื่อให้วัคซีนถูกกระจายไปถึงพี่น้องคนไทยทุกคนโดยเร็วที่สุด
นี่คืออีกหนึ่งภารกิจที่เราเฝ้ารอคอย
และมุ่งหวังจะทำให้สำเร็จเป็น"ภารกิจแห่งปี 2021"
ภารกิจที่ถือว่าเป็นเกียรติที่ทำเพื่อชาติอีกครั้ง
พวกเราจะรวมตัวกันเป็นทีม "ทีมประเทศไทย"
กับภารกิจครั้งใหม่ ภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ในปีนี้
แม้วัคซีนจำนวนหนึ่งเราอาจผลิตได้ในประเทศ
แต่ก็มีวัคซีนจำนวนไม่น้อยที่เราจะต้องนำเข้ามา
และไม่ว่าเราจะอยู่ในส่วนไหนของภารกิจนี้
จะเป็นส่วนหลักหรือส่วนสนับสนุน
พวกเราจะทำให้ดีที่สุดครับ
Photo: ภาพปกปฏิทิน Takeoff your life
เดือนธันวาคม
ปฏิทินยังพอมีให้สั่งจองเป็นของขวัญปีใหม่
ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
รายละเอียดปฏิทินสามารถเข้าไปอ่านได้ที่
สำหรับสมาชิกสมาคมนักบินไทยสามารถสั่งจองปฏิทินได้ที่สมาคมนักบินไทย
**รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว
จะมอบเข้ากองทุนช่วยเหลือนักบิน**
กัปตันหมี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา