Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฉันจะข้ามสีทันดร
•
ติดตาม
3 ม.ค. 2021 เวลา 10:25 • ปรัชญา
ปฐมบทชีวิตสู่การค้นหา(1)
อาการที่ฉันเป็นได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีร่วมกับคำว่า"ต้องกินยาตลอดชีวิตนะ" จากแพทย์ ซึ่งฉันไม่มีความกังวลใดๆกับกระบวนการรักษา และรู้สึกเข้มแข็งขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เหตุนี้เองทำให้ฉันอยากบันทึกอยากบอกเล่าเรื่องราวถึงความเป็นมาก่อนที่จะเล่าถึงอาการและขั้นตอนต่างๆในการรักษา เพื่อให้ผู้อื่นได้นำไปปรับใช้กับตนเองตามแต่เห็นสมควร
เดิมทีฉันตั้งใจจะบอกเล่าโดยครอบคลุมแต่เมื่อได้พิจารณาแล้วก็เล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ซึ่งแม้ท่านทั้งหลายจะเคยได้รับรู้จากทั้งทางตรงหรือโดยอ้อมมาแล้วก็ตาม แต่นวนิยายแม้จะเป็นเรื่องทำนองเดียวกันหากแต่เนื้อในก็มีมุมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ผู้ประพันธ์ต้องการจะสื่อ
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจยกเรื่องราวความเป็นมาโดยสังเขปมาบอกเล่าเชิงอธิบายถึงความเป็นมา ว่าเหตุใดแรกเริ่มฉันจึงคิดจึงตัดสินใจมุ่งตรงไปพบจิตแพทย์แทนการเข้าไปรับการรักษาด้วยการพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและส่งตรวจตามอาการ
เรื่องราวต่างๆเริ่มจากวัยเด็กอายุเพียง9ขวบซึ่งยังไม่รู้เดียงสา แต่ภาระนั้นช่างหนักอึ้งเมื่อฉันได้นึกย้อนกลับไป ที่กล่าวเช่นนี้เพราะในขณะนั้นฉันไม่เคยมีคำว่าภาระหรือแม้แต่รู้จักคำคำนี้เลย ฉันช่วยแม่ทำงานบ้านเลี้ยงน้องตั้งแต่อายุเพียง7ขวบ ทุกอย่างเกิดจากความรักความอบอุ่นในครอบครัวเป็นตัวผลักดันทั้งสิ้น แต่เมื่อฉันและน้องสาวต้องพรากจากพ่อและแม่ชั่วคราวเพื่อไปอยู่กับปู่และย่าเพราะงานของพ่อไม่เหมาะที่จะให้ลูกๆที่กำลังเรียนติดตามไปได้ มีเพียงน้องชายที่ยังเล็กเท่านั้นที่ได้อยู่ร่วมกับพ่อแม่
ฉันและน้องสาวต้องเจอกับโลกที่แตกต่างจากที่เคยเป็นอยู่ น้องสาวนั้นยังเล็กเกินกว่าจะเข้าใจขอแค่ได้เล่นสนุกไปวันๆก็มีความสุข แต่ฉันเองแม้จะแค่9ขวบแต่ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้น้องทั้งต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านนอกที่ไม่มีน้ำปะปา ต้องไปตักน้ำจากที่ไกลๆเพื่อมาใช้ในบ้าน ปู่และย่าไม่ได้ใจร้ายแต่การกอดการปลอบใจหรือหยอกเย้าเช่นในครอบครัวที่ผ่านมานั้นไม่เคยมี มีเพียงคำว่าหน้าที่ทั้งตักน้ำหลายๆตุ่มทุกวัน ผ่าฟืนกองโตๆยังไม่รวมงานบ้านประจำวันอื่นๆซึ่งทำให้ฉันไม่มีเวลาเล่นสนุกเหมือนเด็กทั่วไป และด้วยความเป็นพี่จึงรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง เฝ้าฝันถึงวันได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่จนผลอยหลับเป็นเช่นนี้ทุกวัน
และเมื่อวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง เมื่อฉันอายุ11ปีและพ่อเปลี่ยนมาทำงานประจำซึ่งไม่ต้องเดินทางย้ายบ่อยๆแม้เงินเดือนจะน้อยกว่าเดิมมากก็ตาม ก่อนวันเดินทางไปพบพ่อแม่และน้องคนเล็ก ฉันวาดฝันย้อนวันวานไปครั้งเมื่อเราอยู่พร้อมหน้าครอบครัวและเมื่อพบหน้ากันอีกครั้งพ่อและแม่จะมีอะไรเตรียมไว้ให้ฉันและน้อง นั่งรถไปก็ยิ้มไปอย่างมีความสุขจนป้าของฉันที่ไปส่งเอ่ยปากแซวหลานว่าร่าเริงเหมือนนกที่เพิ่งติดปีกบินได้ครั้งแรก ฉันขบขันกับคำพูดของป้ามากเพราะนกนั้นมีปีกอยู่แล้วนี่นา เพียงแต่มันต้องหัดบินเท่านั้นเองไม่มีใครต้องไปติดปีกให้มันเลยนะ
ส่วนน้องสาวของฉันนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเพราะความเป็นเด็กอารมณ์ดีรักสนุก ก็นั่งร้องเพลงไปตลอดการเดินทางพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอีกสองคนซึ่งเป็นลูกของป้านั่นเอง ป้าของฉันถือโอกาสพาลูกๆของท่านมาเที่ยวและเป็นเพื่อนเดินทางตอนขากลับด้วย ป้าเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่ด้วย ต่างจากญาติคนอื่นๆที่ฉันไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นญาติกันเลย ในบางครั้งญาติผู้ใหญ่เหล่านั้นก็จะพูดจาถากถางค่อนแคะไปถึงบุพการีของฉันด้วย และหลายๆครั้งที่ฉันและน้องสาวจะโดนกลั่นแกล้งด้วยการเอาของสกปรกมาป้ายที่ปาก หรือแม้แต่จับไปขังไว้ในคอกวัว ฉันและน้องไม่เคยเอ่ยปากฟ้องปู่และย่า และเขาเองก็ไม่เคยกระทำต่อหน้าปู่และย่าเช่นกัน
เมื่อเด็กน้อยทั้งสองได้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อและแม่นั้น เธอทั้งสองจะมีความสุขเพียงไรติดตามตอนหน้านะคะ
บันทึก
5
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ปฐมบทชีวิตสู่การค้นหา
5
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย