3 ม.ค. 2021 เวลา 16:50 • ปรัชญา
ปฐมบทชีวิตสู่การค้นหา(2)
ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง มีเกิดย่อมมีดับไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่จิตใจของคน ครอบครัวของฉันก็เช่นกันภาพวันวานมันเกิดขึ้นแล้วก็ดับลงไปนานแล้ว ที่หลงเหลืออยู่นั้นคือความทรงจำหรืออดีตเท่านั้นเอง
แม้ฉันจะอยากให้เหตุการณ์ในอดีตนั้นคงอยู่ชั่วนิรันดร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อฉันและน้องสาวคืนสู่อ้อมอกพ่อและแม่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ ฉันก็ได้ประจักษ์ชัดเจนกับคำว่าความรุนแรงภายในครอบครัวเป็นครั้งแรก ฉันยังจำได้ดีในเย็นวันนั้นขณะที่เรากำลังพร้อมหน้าพร้อมตาร่วมรับประทานอาหาร แต่ก่อนที่ช้อนจะแตะริมฝีปากสำรับกับข้าวก็กระจัดกระจายเกลื่อนลงพื้นไปหมดต่อหน้าต่อตา น้องสาวของฉันกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวส่วนน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นก็โผเข้ากอดกันร้องไห้ระงมอย่างคนเสียขวัญ ฉันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้องทั้งสองช็อคต่อเหตุการณ์ตรงหน้าจนทำอะไรไม่ถูก
เสียงพ่อและแม่ด่าทอกันนั้นฉันฟังไม่ได้ศัพย์เพราะรู้สึกว่าหูอื้อไปหมด จนกระทั่งได้ยินเสียงแม่ตะคอกสั่งฉันทั้งเสียงสะอื้นว่าให้เก็บทำความสะอาดทุกอย่างให้เรียบร้อย สรุปแล้วเราทุกคนในเย็นวันนั้นไม่มีใครข้าวตกถึงท้องสักคน เมื่อพ่อออกไปจากบ้านด้วยความฉุนเฉียวแล้วน้องๆก็โผเข้ากอดแม่ร้องไห้กันระงม ส่วนฉันนั้นได้แต่ถามหาคำตอบในใจว่าระยะเวลาเพียงไม่นานทำไมพ่อจึงเปลี่ยนไปมากมายเช่นนี้ หากย้อนไปก่อนหน้านี้ในตอน"ฟังเอามาเล่าต่อ"ที่แม่ชีเปรียบครอบครัวคือคนที่เข้ามาอยู่พักในศาลาเพียงชั่วคราวแล้วเมื่อถึงเวลาต่างคนก็ต้องไป ศาลาหลังนี้ที่ฉันเข้ามาพักมันคงเป็นศาลาที่ร้อนระอุจนคนที่เข้ามาพักทุกข์ทรมานเหลือเกิน
ครอบครัวของฉันเป็นเช่นนี้เรื่อยมาจนกระทั่งฉันย่างเข้าสู่วัยรุ่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันทำตัวเป็นพี่ที่ดีเสมอมา รับภาระทำงานบ้านแทนแม่แทบทุกอย่างเพราะแม่ต้องทำขนมขายเพื่อเลี้ยงดูลูกๆแทนพ่อที่คงไม่คิดว่าเราคือครอบครัว ฉันต้องตื่นตั้งแต่ตี4เพื่อช่วยแม่ทำขนมและบรรจุถุงเตรียมขายก่อนจะรีบอาบน้ำไปโรงเรียนแต่เช้าตรู่เพื่อทำการบ้าน เพราะพ่อไม่อนุญาตให้ทำการบ้านหลังหกโมงเย็น ทั้งที่หลังจากเลิกเรียนฉันต้องรีบกลับมาซักผ้าหุงข้าวรีดเสื้อผ้าและช่วยแม่เตรียมของสำหรับทำขนมในตอนเช้า และอีกหน้าที่ในทุกๆวันคือเป็นลูกมือพ่อในการทำกับแกล้มเลี้ยงดูเพื่อนๆพร้อมทั้งคอยบริการเมื่อเพื่อนของพ่อต้องการสิ่งใด
จานชามในแต่ละวันของบ้านฉันเพื่อนบ้านยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราวกับบ้านฉันมีงานทำบุญหรืองานแต่งทุกวัน ทุกๆอย่างทำให้ฉันต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พักพิงให้แม่และน้องๆ ฉันทั้งช่วยและปลอบแม่ให้แม่มีกำลังใจเพื่อลูกๆในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ปัญหาทุกอย่างอยู่กับตัวเอง กันน้องๆออกจากทุกสถานการณ์เพื่อให้น้องได้สนุกสนานเติบโตสมวัย ตัวฉันแม้จะอดบ้างอิ่มบ้างแต่ขอให้น้องๆมีความสุขก็พอ ฉันไม่คิดว่าเป็นภาระแต่อย่างใดแต่มันคือหน้าที่ที่ลูกและพี่พึงปฏิบัติ เพราะพ่อนั้นไม่ได้อยู่ในสถานะหัวหน้าครอบครัวมานานแล้ว
ฉันและแม่ช่วยกันประหยัดอดออมหาเงินส่วนพ่อคือพระเจ้าในบ้าน ที่คอยบงการและใช้จ่ายเพื่อตัวเอง คราวใดที่แม่เอ่ยปากขอเงินก็จะมีปากเสียงตามด้วยการทุบทำลายข้าวของหรือแม้กระทั่งทุบตีแม่ ฉันเองก็มีความกดดันหลายประการทั้งในครอบครัวและจากโรงเรียน เงินที่มีเพียงพอแค่ค่ารถไปกลับและข้าวหนึ่งมื้อเท่านั้น อย่าพูดถึงเงินที่ต้องใช้ทำกิจกรรมหรือรายงานส่งอาจารย์เลยเพราะมันไม่เคยมี ฉันจึงถูกทำโทษด้วยการตีก้นเป็นประจำ แม้จะเคยร้องขอทุนและได้รับแต่ทุนนั้นอาจารย์มีเงื่อนไขว่าต้องทำความสะอาดห้องเรียนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกวันจึงจะได้รับเงินทุนในแต่ละครั้ง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันด้วยเหตุผลข้างต้นที่ต้องรีบกลับบ้าน
1
จนกระทั่งฉันเบื่อหน่ายกับการถูกทำโทษเพราะอาจารย์ไม่รับฟังเหตุผล จึงใช้วิธีลาป่วยในคาบที่ฉันต้องโดนทำโทษแน่นอน แต่วิธีนี้ใช้ได้ไม่กี่ครั้งเพราะเพื่อนร่วมชั้นฟ้องอาจารย์ ฉันจึงต้องใช้วิธีโดดเรียนแทน หากย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็จะเลือกทำเช่นเดิมแต่ความยุ่งยากก็จะคงเดิมเช่นกัน เมื่อฉันผูกปมไว้โดยเหตุผลเพื่อแม่และน้องปมนั้นย่อมแน่นขึ้นทุกวัน และปมที่ผูกทับซ้อนลงไปเรื่อยๆเช่นนี้จะส่งผลอย่างไรกับเด็กที่ด้อยสติไร้ทางออกเช่นฉัน...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา