4 ม.ค. 2021 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ดร.นิเวศน์ ลงทุนรับมือโควิด19 ระลอกใหม่ยังไง จากช่องถามอีก กับอิก TAM-EIG
อจ.จะใช้ประวัติศาสตร์เป็นตัวจับ โดยครั้งแรกเราจะตกใจกับโควิดที่มา เราจึงปิดเมืองเกือบทุกอย่าง ทำให้คุมโควิดได้เร็วมาก ไม่พบผู้ติดเชื้ออีก ซึ่งที่จริงแล้ว แถวๆไทยก็เริ่มคุมได้ดีแล้วเช่นกัน เช่น พม่า เวียดนาม ทำให้อจ.เห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง ทำไมบางประเทศในนี้ซึ่งมีการแพทย์ไม่ได้เก่งมากแต่ถึงควบคุมได้ดี
อจ.คิดว่าประเทศไทยได้เปรียบอยู่สามอย่าง (แต่อจ.นึกได้แค่สองอย่างตอนสัมภาษณ์)
1.ไทยอยู่ในเขตร้อนซึ่งโควิดจะตายได้ง่ายในสภาพอากาศแบบนี้
2.วัฒนธรรมของไทย โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการใกล้ชิดมากตอนเจอกันที่ต้องจับเนื้อต้องตัวกันอยู่บ่อยๆ ทำให้การติดโรคน้อย
ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมดนี้เป็นตัวบอกว่าทำไมฝั่งประเทศตะวันตกรวมถึงอเมริกาถึงได้ติดกันง่ายมากแม้จะพยายามควบคุมแล้วก็ตาม นอกจากนี้เรื่องสิทธิเสรีภาพในร่างกายตนเองก็ชัดเจนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ทำให้การควบคุมพฤติกรรมคนทำได้ยาก
รอวัคซีนอย่างเดียวเป็นคำตอบ การล็อกดาวน์จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจพังเหมือนรอบแรก
อจ.คิดว่าการระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก คิดว่าเดี๋ยวก็กลับมาเป็นปกติแล้ว
การท่องเที่ยวคิดว่าจะกลับมาได้แต่ช้ากว่าที่คิด ซึ่งอจ.คิดว่าเราควรทุ่มเงินซื้อวัคซีนมาฉีดให้ทุกคนจะดีกว่าการแจกเงินหรือการสร้างโครงการพวกคนละครึ่งนี้ เพราะอจ.คิดว่าการซื้อวัคซีนเป็นการลงทุนแบบครั้งเดียวจบ
ส่วนหุ้นท่องเที่ยว ตอนนี้คิดว่าราคาไม่ถูกและถ้าเกิดการท่องเที่ยวกลับมาจริง พื้นฐานอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะด้วยการบาดเจ็บของธุรกิจ การขาดสภาพคล่อง การก่อหนี้ขึ้นเรื่อยๆซึ่งทำให้อจ.คิดว่าธุรกิจนี้บางส่วนอาจจะล้มละลาย
อจ.คิดว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาช้าอีก 1-2 ปีและภาพการท่องเที่ยวในไทยอาจเปลี่ยนไป เช่น มีการใช้ Airbnb แทน ทำให้อจ.มองว่าธุรกิจท่องเที่ยวเป็น High risk Low return ซึ่งเราไม่ควรให้ค่า PE สูงๆกับธุรกิจนี้แล้ว โดยตอนนี้ราคาของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวยังแพงอยุ่
Sector อื่นๆที่จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในไทยมีหลายกลุ่ม เช่น ธนาคาร ห้างสรรพสินค้าซึ่งแม้ว่าจะมี E-commerce เข้ามาแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้มากมายขนาดนั้น เช่น คนยังรู้สึกอยากไปเดินห้าง ไปกินข้าวนอกบ้านอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้อย่างสั่ง delivery มากมาย ธุรกิจสื่อสารก็มีพื้นฐานเหมือนๆเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำให้ระยะยาว เศรษฐกิจไทยจะไม่โต เรายังใช้ของเดิมในธุรกิจเดิมๆ แต่ใช้ของใหม่ๆจากต่างประเทศแทน
กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนในไทยไล่ตามปีต่างๆ
ปี 60 กำไรรวม 980,000 ล้านบาท
ปี 61 กำไรรวม 980,000 ล้านบาท
ปี 62 กำไรรวม 960,000 ล้านบาท
ปี 63 กำไรรวมคาดการณ์ 5 แสนกว่าล้านบาท
จะเห็นว่าเศรษฐกิจของไทยนิ่งมานาน
อจ.ยึดหลัก VI มาเสมอโดยเน้นที่ราคากับมูลค่าว่าเป็นอย่างไร
อจ.เตือนว่า ช่วงนี้หุ้นต่างประเทศที่ขึ้นแรงๆ พวก tech หรือ bitcoin ให้ระวังตัวเพราะตอนนี้มีแต่คนพูดถึง ไม่มีใครกล้าขัดกระแสนี้ ถ้าซื้อโดยไม่มีความรู้ อาจจะติดดอยได้ หายนะได้
อจ.แนะนำหนังสือที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ เช่น Sapiens เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์
หุ้นที่เกี่ยวกับประกันที่ราคาขึ้นมาเยอะๆในช่วงโควิดให้ระวัง เพราะว่าถ้าเกิดวัคซีนใช้ได้มากขึ้นเมื่อไหร่ กำไรของบริษัทจะเริ่มทรงๆหรือไม่ดีเท่าก่อนโควิด ราคาจะตอบสนองตามพื้นฐานเอง
อจ.มองบริษัทที่ยังทำกำไรไม่ได้ เช่น airbnb หุ้นกลุ่ม tech ว่าเป็นสิ่งที่เราคาดเดาผลกำไรอะไรไม่ได้เลย แต่พอมองอนาคตได้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร อาจจะเจอหุ้นที่ดี เช่น google facebook แต่ก็อาจมีอีกหลายบริษัทที่สุดท้ายก็ไปไม่รอด อจ.บอกว่าถ้าเจอหุ้นพวกนี้ อย่าถามว่าราคาที่เหมาะสมเป็นเท่าไหร่ เพราะเหมือนการซื้อหวย ถ้าถูกก็รวย ถ้าผิดก็ไม่ได้อะไร
อจ.มอง bitcoin ตอนนี้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีแต่คนถาม แสดงว่าอยู่ในช่วงที่อันตรายมาก ราคามันพุ่งพร้อมให้คนเข้าไปแห่ซื้อ ถ้าเราเข้าไปตอนนี้ ก็อาจจะติดดอยขึ้นมา
ขอบคุณคลิปการสัมภาษณ์จากช่องถามอีก กับอิก TAM-EIG ครับ
หากชื่นชอบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม กดให้กำลังใจทุกบทความด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกผู้อ่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านครับ
#Stockintrend #หุ้นอินเทรนด์ #ดรนิเวศน์ #ถามอีกกับอิก #TAMEIG
ติดตามช่องทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ตามลิงค์ข้างล่างเลยครับ
โฆษณา