5 ม.ค. 2021 เวลา 13:06 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะควบคุมโดย AI สร้างผลผลิตมากขึ้น 400 เท่า พร้อมระบบหมุนเวียนไร้ขีดจำกัด
จำนวนประชากรของโลกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการเลี้ยงดูประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผลผลิตส่วนใหญ่ก็เกิดจากการทำฟาร์ม ซึ่งฟาร์มก็ต้องใช้ผืนดินในการผลิต แต่ผืนดินเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด และมีแนวโน้มจะลดลงสวนทางกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญคิดว่าการทำฟาร์มแนวตั้งคืออนาคต
ฟาร์มแนวตั้งอยู่ในร่มและสามารถวางไว้ที่ใดก็ได้ และต่อไปการทำเกษตรรูปแบบนี้จะมีมากขึ้นเนื่องจากพื้นดินสำหรับเพาะปลูกกำลังลดลง
Plenty ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโกซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Nate Storey กำลังคิดค้นและปฏิวัติฟาร์มและการทำฟาร์ม
เทคโนโลยีฟาร์มของ Plenty ทำให้ใช้ทรัพยากรน้ำ และดินน้อยลง
2
ผลิตภัณฑ์สามารถเติบโตได้ตลอดทั้งปีด้วยหุ่นยนต์ที่ใช้งานและ AI ปรับปรุงคุณภาพการเติบโตของสินค้าอย่างต่อเนื่องในขณะที่ใช้น้ำน้อยลง 95% และที่ดินน้อยลง 99%
Storey ผู้ก่อตั้งฟาร์มอัจฉริยะนี้เล็งเห็นว่าในอนาคตจะต้องเกิดปัญหาวิกฤตผืนดินไม่เพียงพอต่อการทำฟาร์มจึงทำให้ต้องเกิดโปรเจคฟาร์มอัจฉริยะนี้ขึ้นมา และ Storey เคยให้สัมภาษณ์แนวคิดกับ Forbes ว่า "ความจริงก็คือมีสถานที่ 5 แห่งในโลกที่เราสามารถปลูกผักและผลไม้สดในเชิงเศรษฐกิจได้จริง ๆ และที่ดินทั้งหมดนั้นก็ถูกใช้ไปหมดแล้ว ประเด็นการทำฟาร์มแนวตั้งเกิดขึ้นเพราะเราต้องการเพิ่มขีดความสามารถของโลกสำหรับการผลิตผักและผลไม้สด และมันเป็นสิ่งจำเป็น "
1
ผลผลิตที่ได้จากฟาร์มนี้มากกว่าเดิมถึง 400 เท่าต่อเอเคอร์
ฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะนี้จะมีลักษณะเป็นแถวของพืชที่อยู่ติดกัน เติบโตในแนวตั้ง และห้อยลงมาจากเพดาน มีหุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปรอบ ๆ และ บริษัทใช้ AI ในการจัดการน้ำ อุณหภูมิ และแสง
ด้วยไฟ LED ที่เลียนแบบดวงอาทิตย์อยู่เหนือพวกเขาสภาพแวดล้อมของพืชจึงได้รับการปรับให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าพืชเหล่านั้นมีพืชผลที่ดีที่สุด ฟาร์มแห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากจนสามารถผลิตอาหารได้มากกว่าฟาร์มพื้นราบถึง 400 เท่าต่อเอเคอร์
3
เหตุผลที่การทำฟาร์มแนวตั้งในร่มดีกว่านั้นมีหลากหลาย และเพราะทุกอย่างอยู่ในความควบคุมไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสภาพอากาศ ฤดูกาล เวลา ศตรูพืช ระยะทาง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ยิ่งไปกว่านั้นน้ำที่ใช้จะถูกรีไซเคิลทั้งหมด และน้ำที่ระเหยในอากาศจะถูกกักไว้เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
ล่าสุด Plenty ประกาศว่า บริษัท ได้ระดมทุน 140 ล้านดอลลาร์ในรอบ Series D ซึ่งนำโดยกองทุนของ Softbank เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม และก่อนหน้านี้ Softbank ได้ลงทุนไปแล้วมากถึง 400 ล้านดอลลาร์ ทำให้การระดมทุนทั้งหมดของ Plenty จนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนมากถึง 541 ล้านดอลลาร์
เรียกได้ว่าฟาร์มอัจฉริยะนี้เป็นระบบฟาร์มที่สามารถควบคุมการเพาะปลูกได้เกือบ 100% จึงทำให้สามารถควบคุมประสิทธิภาพการเพาะปลูกได้มากกว่าฟาร์มทั่วไปในปัจจุบัน และจากการออกแบบทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลงจากเดิมมากกว่า 90% นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการรีไซเคิลทรัพยากรเดิมวนกลับมาใช้ได้ใหม่ตลอดเวลาเรียกได้ว่าเป็นฟาร์มแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
โฆษณา