5 ม.ค. 2021 เวลา 15:08 • กีฬา
โลแกน พอล : YOUTUBER คนตาม 22 ล้าน และวิชากำปั้นไร้เทียมทานจน "ฟลอยด์" รับคำท้า | MAIN STAND
การจะได้แข่งกับนักกีฬาระดับแชมป์โลกในเวทีจริง และสู้กันแบบเอาจริงเอาจังไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่า ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ แชมป์มวยสากลผู้ไร้พ่ายชาวอเมริกัน จะขึ้นชกกับเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า โลแกน พอล จึงนำมาซึ่งความสงสัยว่า "หมอนี่คือใคร ?"
4
นี่คือเรื่องราวของ โลแกน พอล ชายที่มีคนรักมากพอ ๆ กับที่มีคนเกลียด เขาไปทำอะไรไว้ทำไมจึงมีคนจ้องรอวันที่เขาพลาด และเขาทำอย่างไร มีดีแค่ไหนจึงได้ขึ้นชกกับแชมป์โลก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ใช่นักมวย ?
ติดตามกับ Main Stand ที่นี่
ยูทูบเบอร์ยุคแรก
ยูทูบ (YouTube) ขึ้นมาครองตลาดด้านวีดีโอและสตรีมมิ่งแบบเต็ม ๆ ก็เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา การเกิดของยูทูบทำให้มีอาชีพใหม่ของกลุ่มวัยรุ่นขึ้น นั่นคือ "ยูทูบเบอร์" (YouTuber) อาชีพนี้ว่าด้วยการขายคอนเทนท์ตัวเองผ่านวีดีโอที่อัพโหลด และทำเงินจากยอดวิวของคนที่เข้ามาดู รวมถึงการมีโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งถ้าทำดีโดนใจคนดูก็มีสิทธิ์จะเป็นเศรษฐีได้โดยไม่รู้ตัว และ โลแกน พอล คือคน ๆ นั้น ยูทูบเบอร์คนแรก ๆ ของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
5 ปี คือระยะเวลาที่ โลแกน พอล วัย 24 ปี ทำคอนเทนท์ลงบนแพลตฟอร์มของ ยูทูบ ช่องของเขาชื่อว่า Logan Paul ตามชื่อจริงของเจ้าตัว ก่อตั้งในวันที่ 29 สิงหาคม ปี 2015 จนถึงปัจจุบันเขามีผู้ติดตามมากกว่า 22 ล้านคน และมียอดเข้าชมคอนเทนท์รวมทั้งหมดมากกว่า 5.7 พันล้านวิว ...
2
นี่ไม่ใช่ช่องแรกของเขา เพราะสมัยที่ โลแกน อายุ 10 ขวบ เขาเคยลองสร้างช่องยูทูบของตัวเองที่ชื่อว่า Zoosh มาก่อน และนั่นอาจจะเป็นบทเรียนชิ้นแรก ๆ ที่ทำให้ช่องที่ 2 ของเขาประสบความสำเร็จในภายหลัง
คอนเทนท์ของ โลแกน พอล มีหลายประเภท ตั้งแต่การเล่นบทบาทสมมติต่าง ๆ, การแคสเกม, คลิปรีแอค, การทำอะไรแปลก ๆ ไปจนถึงการใช้เงินสร้างคอนเทนท์ อย่างเช่น การเปิดการ์ด เป็นต้น
หลัก ๆ แล้ว โลแกน และน้องชายของเขาที่ชื่อ เจค จะพยายามขายเรื่องความตลกขบขัน และเขาทำมันออกมาได้ดีเสียด้วย สิ่งตามมาจากยอดวิวนั่นคือ "รายได้" ในช่วง 4-5 ปีหลังจากที่ช่องของเขาติดตลาด โลแกน พอล ทำเงินได้ราวปีละ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ ปีละ 500 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น เมื่อมีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด โลแกน พอล เองก็ตกเป็นเป้าให้หลาย ๆ คนรอซ้ำไม่น้อย เนื่องจากมีหลายคนไม่ชอบคอนเทนท์ของเขา ที่นับวันยิ่งจะออกแนวคลิกเบต หลอกให้คนกดไปดู และบางครั้งเขาก็ตลกเกินงาม ลามไปถึงการเหยียดเชื้อชาติ พฤติกรรมแบบชอบโชว์เงินโชว์ทอง อวดร่ำอวดรวย ซึ่งยอด Dislike ของแต่ละคลิปที่เขาลงจะอยู่ที่ราว ๆ 10% ของยอดไลค์ทั้งหมด อาทิ คนกดไลค์ 1 ล้านคน ก็จะมีคนกดดิสไลค์ประมาณ 1 แสนคนเป็นต้น
4
อย่างไรก็ตาม ใครจะเกลียดก็ช่างเขา โลแกน พอล ลอยตัวเหนือดราม่า เขารับมือพวก Hater (กองแช่ง) ได้ดีมาตลอด ด้วยการปล่อยผ่านและทำไม่สนใจ จนกระทั่งวันหนึ่งจุดพีกมาถึง จุดที่ทำให้คนเกลียดเขามากยิ่งขึ้น นั่นคือคลิปที่เขาถ่ายไว้เมื่อ 3 ปีก่อน
1
คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ โลแกน และเพื่อนของเขาเข้าไปในป่าโอกิกาฮาระ (Aokigahara) ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นจุดที่คนมักไปฆ่าตัวตายที่นั่น ในคลิปวิดีโอ พวกเขาพบกับศพของชายคนหนึ่ง ในป่า "ผีสิง" ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร พวกเขาแสดงอาการตกใจและทำเป็นเรื่องตลกขบขัน คนจำนวนมากเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์วิดีโอซึ่งมีคนเข้าไปชมหลายล้านครั้งก่อนที่มันจะถูกลบออกว่า เป็นการ "ดูหมิ่น" และ "น่าขยะแขยง"
1
Photo : indiatimes.com
การล้มครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของเขาเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเขาโดนวิจารณ์หนักจากหลายฝ่าย จน ยูทูบ ตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเขา โดยการถอดช่องของเขาออกจาก Google Preferred โครงการที่สินค้าต่าง ๆ จะลงโฆษณากับผู้ผลิตเนื้อหาที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มสูงสุด 5% แรกของ ยูทูบ อีกด้วย
การขาดรายได้และโดนชะลอการผลิตคอนเทนท์อื่น ๆ ทำให้บล็อกเกอร์อย่าง พอล ต้องออกปากขอโทษเพราะไม่สามารถลอยตัวเหนือดราม่าได้อีกแล้ว เขาแถลงการขอโทษอย่างจริงใจและขอโอกาสแก้ไขปรับปรุงในอนาคตต่อจากนี้
"ผมไม่น่าโพสต์วิดีโอนี้ ผมควรจะกดกล้องต่ำลง และหยุดอัดคลิปในสิ่งที่พวกเราพบเจอ ผมรู้สึกละอายใจ ผมรู้สึกผิดหวังในตัวเอง" โลแกน พอล ว่าไว้ก่อนจะลบคลิปดังกล่าว แม้มันจะกลายเป็นไวรัลระดับโลกแล้วก็ตาม
ตอนนั้นเสียงของความสะใจของเหล่า Hater ดังไปทั่วทุกหัวระแหง ภาพ โลแกน พอล หน้าสลดสารภาพผิดถูกนำเอามาล้อเป็นมีมต่าง ๆ มากมาย เขาโดนตีค่าเป็นขยะออนไลน์ และมันอยู่ที่ว่าเขาจะเลือกรับบทบาทไหนต่อไปหลังจากคลื่นความสะใจและผิดหวังถาโถมครั้งนี้
1
เปลี่ยนความเกลียดชังเป็นเงิน
ทุกคนอยากเห็นเขาล้มและผิดพลาด เรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ความยอดเยี่ยมคือเขามองไปลึกยิ่งกว่านั้น โลแกน รู้ว่าทุกคนรอจะเห็นเขาล้มอยู่แล้ว ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเขาล้มและโดนชกแต่ได้เงินกลับมา ... เขาเปลี่ยนสิ่งที่คนอยากเห็นเป็นคอนเทนท์ใหม่ นั่นคือเขาจะนำเสนอคอนเทนท์เกี่ยวกับการชกมวย โดยเป็นการชกแบบขึ้นเวทีจริงจัง ใครอยากเห็นเขาโดนชกจนหลับคาสังเวียนเขาจัดให้ แต่มีข้อแม้ว่าทุกคนจะต้องจ่ายเงินเพื่อมาดูเขาเจ็บตัว
1
Photo : www.thesun.ie
การหาคู่ชกของ โลแกน พอล เริ่มแรกคือการเปิดศึกน้ำลาย ก่อนจะกลายเป็นการประกาศไฟต์ชกกับยูทูบเบอร์คนดังจากประเทศอังกฤษนาม KSI หรือชื่อจริง โอลาจิเด โอลาตุนจิ ผู้สร้างชื่อจากการแคสเกม FIFA ก่อนผันตัวเองสู่การเป็นศิลปินเพลงฮิปฮอป
การต่อสู้ในฐานะนักมวยครั้งแรกจัดขึ้นที่ แมนเชสเตอร์ อารีน่า ประเทศอังกฤษ ในเดือนมิถุนายนปี 2018 โดยตั๋วเข้าชมมีราคา 30 ปอนด์ ส่วนตั๋ว VIP ราคาอยู่ที่ 495 ปอนด์ ซึ่งแน่นอนว่าหมดเกลี้ยงเพราะมีการโปรโมตโดยสปอนเซอร์มากหน้าหลายตา ในมุมของธุรกิจ ผู้ที่จัดไฟต์นี้ทุกคนรู้ดีว่าจะไม่ได้เห็นไฟต์ที่สวยงามตามตำรามวยอาชีพ แต่เงินต่างหากที่จะไหลมาเทมา แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้ที่ขึ้นชกจะไม่ได้เป็นนักชกอาชีพก็ตาม
การขายตั๋วยังไม่จบเท่านั้น เพราะในช่องยูทูบ มีการขายสิทธิ์เข้าชมแบบ เพย์ เพอร์ วิว โดยใครที่ดูไฟต์นี้ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งจะต้องจ่ายเงิน 7.5-10 ปอนด์ เอาเป็นว่าสรุปเป็นตัวเลขกลม ๆ คือทั้ง โลแกน พอล และ KSI จะได้ส่วนแบ่งแบบ 50-50 คิดเป็นเงิน 75 ล้านปอนด์ หรือ 3 พันล้านบาททีเดียว
2
Photo : metro.co.uk
ลีลาการชกของทั้งสองคนในยกแรก ๆ ต้องบอกว่าไม่ต่างกับนักมวยสากลสมัครเล่นเท่าไหร่นัก ทั้งคู่มีความเร็วและออกหมัดสวยใช้ได้ ทว่าในยกท้าย ๆ พวกเขาก็แรงตกและชกกันแบบป้อแป้ ๆ สุดท้ายก็ได้รับผลตัดสินเสมอกันไปแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ราวกับล็อคไว้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ ทั้งคู่ "รวยไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว" ยิ่งผลออกเสมอแบบนี้ ก็ยิ่งเข้าทางเพราะเตรียมมีการรีแมตช์ทำเงินก้อนโตกันอีก
1
นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ โลแกน พอล ฝึกหัดชกมวยแบบจริงจัง เพราะมันคือบ่อเงินบ่อทองแห่งใหม่ของเขา หลังจากเสมอกับ KSI ครั้งแรก เขาก็ชกรีแมตช์อีกครั้งในปี 2019 ซึ่งหนนี้แม้จะแพ้ แต่ก็ทำเงินได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนน้องชายอย่าง เจค ก็ดำเนินรอยตามเช่นกัน โดยล่าสุด เจค เพิ่งจะชนะน็อก เนท โรบินสัน อดีตนักบาสเกตบอล NBA ในการชกรองคู่เอกศึกที่ ไมค์ ไทสัน พบ รอย โจนส์ จูเนียร์ นั่นเอง
เส้นทางนี้ดูจะเหมาะกับเขาไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะก่อนที่จะมาเป็นยูทูบเบอร์ในเบื้องหน้า โลแกน พอล ก็เป็นสมาชิกของทีมมวยปล้ำมหาวิทยาลัย เขารักษาหุ่นให้ดูฟิตและมีมัดกล้ามตลอด มีการบอกเล่าถึงเขาในครั้งที่ยังเรียนหนังสืออยู่ว่า "เขาคือคนที่แข็งแกร่งมากมายจริง ๆ เขาคือนักมวยปล้ำแถวหน้าของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท"
Photo : loganpaul
การกลับมาเอาดีทางมวย โลแกน พอล เล่าว่าเขามีการปรับปรุงร่างกายของเขาให้ฟิตยิ่งกว่าเดิม เขากินอาหารประมาณ 80 ปอนด์ต่อวัน ดื่มเลือดวัวสดเป็นจำนวนมากเพื่อเพิ่มน้ำหนัก
1
"ผมไม่กินพาสต้า ขนมปัง หรือผลิตภัณฑ์จากนมทั้งหมด และดื่มน้ำอีกวันละประมาณ 2.5 แกลลอน ผมยังดูแลโภชนาการอย่างดี กินผักใบเขียวและโปรตีนคุณภาพสูงทั้งไข่และอกไก่ด้วย" โลแกน พอล ว่าไว้เช่นนั้น
1
ทุก 9 โมงเช้าเขาจะเข้าโรงยิม และฝึกมวยกับ แชนนอน บริกส์ อดีตนักชกชาอเมริกันเจ้าของแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของสถาบัน WBO และเขาทำแบบนี้มาเป็นปี ๆ เพื่อศึกที่จะทำเงินมากที่สุดในชีวิตของเขา ศึกระหว่างเขากับนักชกที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปีหลังสุด ... ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์
1
ร่ำรวยครั้งใหญ่
ไม่ต้องสืบเลยว่าการชกระหว่าง โลแกน พอล และ ฟลอยด์ ที่ประกาศในช่วงปลายปี 2020 มีเหตุผลเดียวคือ "เงินล้วน ๆ" ... นักชกเจ้าของฉายา "The Money" ไม่เคยชกกับใครถ้าไม่ได้ค่าตอบแทนที่มากพอ ในช่วง 3-4 ปี หลังเขาประกาศแขวนนวม และเน้นชกไฟต์ที่ทำเงินถล่มทลายอย่างไฟต์กับ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ และ เทนชิน นาสึคาวะ ที่ทั้ง 2 ไฟต์ทำเงินไป 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
1
Photo : www.essentiallysports.com
"พวกน้องหนูจากยูทูบพวกนี้ชอบหาตุ๊กตาบาร์บี้มาเล่นมันดูสนุกดีนะ แต่โทษทีผมไม่ค่อยชอบเล่นเบบเด็กๆเท่าไหร่"
"สามปีก่อนนักชกจาก UFC มาบอกผมว่าอยากจะอัดผมให้ยับ แต่ผมก็ตอบกลับเขาแบบสาสม ตอนนี้ โลแกน พอล มาแบบเดียวกันเลย ดังนั้นผมต้องสั่งสอนหน่อยเเล้วให้เหมือนกับที่ครั้งผมไปญี่ปุ่น" ฟลอยด์ รับคำท้าหลังจาก โลแกน พอล ออกโรงท้าทายหลายครั้งจนกระทั่งได้สปอนเซอร์ตามที่เขาต้องการ
นี่คือไฟต์ที่ไม่ต้องมีใครเดาผลการแข่งขันเท่าไรนัก แม้ โลแกน พอล จะมีน้ำหนักตัวถึง 189 ปอนด์ (ราว 86 กิโลกรัม) ขณะที่ ฟลอยด์ นั้นหนักแค่ 149 ปอนด์ (ราว 68 กิโลกรัม) เท่านั้น แต่ด้วยเชิงมวยระดับแชมป์โลกแล้ว แทบไม่มีทางเลยที่ โลแกน พอล ที่เพิ่งหัดมวยเอาจริง ๆ จัง ๆ ได้ 3 ปี จะสามารถเอาชนะ ฟลอยด์ ที่ชกมาทั้งชีวิตและยังคงฟิตปั๋งในวัย 40 ปีกว่า ๆ ได้
2
แต่สิ่งที่น่าสนใจมันไม่ใช่ผลการแข่งขัน แต่มันคือรายละเอียดต่าง ๆ นอกจากการทำเงินที่อาจจะมากกว่าที่ ฟลอยด์ เคยทำได้ในไฟต์ล่าสุดกับนักชกชาวญี่ปุ่น เพราะมีการเรียกเก็บค่า เพย์ เพอร์ วิว โดยจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับเข้าชมอยู่ที่ 24.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหลังจากประกาศชกไปไม่กี่วัน ก็ขายได้กว่า 1 ล้านวิวแล้ว โดยหลังจากนี้จะมีการปรับราคาเป็น 39.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ, 59.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 69.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนกระทั่งก่อนขึ้นชก
2
Photo : www.espn.com
ยูทูบเบอร์ที่มีคนเกลียดสุด ๆ ปะทะกับ นักมวยที่คนเกลียดไม่น้อยกว่าใคร แน่นอนว่าทุกคนอยากจะเห็นไม่ใครก็ใครสักคนเสียฟอร์มโดนชกจนหน้าคว่ำ คนดูไม่เคยสนว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะพวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากความสนุกและเอ็นเตอร์เทนล้วน ๆ เช่นเดียวกับ โลแกน พอล ที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาแทบไม่มีทางชนะ แต่ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องปฏิเสธไฟต์นี้
1
"ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลยสำหรับไฟต์นี้ หลายเดือนก่อนผู้จัดถามผมว่า โลแกน คุณจะสู้กับ ฟลอยด์ ไหม ? ผมตอบทันทีเลยว่า ถ้าได้ก็เอาสิ และถามเขากลับว่าทำไมถึงมาถามคำถามนี้กับผม"
"จากนั้นเขายื่นสัญญาและบอกว่า เซ็นตรงนี้ซะ แล้วคุณจะได้ชกกับแชมป์โลก ... ผมตะโกนกลับไปเลย จะรอช้าอะไรอยู่ ส่งมาเลย คุณแม่งเจ๋งโคตรที่ทำให้ไฟต์นี้เกิดขี้นได้" เขายืนยันว่าเขาไม่กลัวแพ้ แต่กลัวไม่ได้ชกหน้าแชมป์โลกมากกว่า
Photo : www.irishmirror.ie
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ นี่คือประสบการณ์ที่ล้ำค่าสุด ๆ เรื่องเงินนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องรับกันรวยเละ แต่ลองคิดดูดี ๆ จะมีสักกี่คนบนโลกที่ได้ขึ้นเวทีกับ ฟลอยด์ อย่างจริงจัง ? ของแบบนี้มีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรซูฮกให้กับหัวสมองในการคิดคอนเทนท์ของ โลแกน พอล
เขาผิดพลาดและเรียนรู้จนกระทั่งหาคอนเทนท์ที่ทุกคนอยากจะเห็น และเมื่อเขารู้ว่ามันทำเงินได้ เขาพยายามพัฒนาตัวเองจนทำให้มันเป็นคอนเทนท์ที่จริงจังและทำเงินได้มากกว่าที่เคย ... จะแพ้หรือชนะไม่สำคัญ โลแกน พอล กำลังจะเข้าวินอีกครั้ง ในขณะที่คนที่เกลียดเขากำลังเฝ้ารอเขาโดนชก ...
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา