7 ม.ค. 2021 เวลา 09:30 • ธุรกิจ
รู้จักกับ “ท็อป จิรายุส” หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Bitkub เว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่มาแรงที่สุดในเวลานี้
3
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Bitcoin กลายเป็นคริปโตหรือสกุลเงินดิจิทัลที่มาแรงแซงทางโค้ง ราคาพุ่งพรวดทะลุหลักเพดานล้านบาทไทยจนเป็นที่น่าตกใจ
ก่อนหน้านี้ คริปโตได้รับการกล่าวหาว่าเป็นสกุลเงินหลอกลวงบ้าง ฟอกเงินบ้างอะไรบ้าง แต่ทว่าในโลกดิจิตอลเช่นนี้ ไม่อาจกล่าวเช่นนั้นได้อีกแล้ว
รู้ไหม Bitkub เป็นแพลตฟอร์มเทรด Bitcoin สัญชาติไทยอายุ 2 ขวบ ที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง
และวันนี้ ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักกับคุณ “ท็อป จิรายุส” จากเด็กจบนอกสู่นักธุรกิจหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Bitkub และโลกของสกุลเงินดิจิทัล ให้มากกว่านี้กัน..
คุณ “ท็อป” หรือคุณ “จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ตอนวัยรุ่น เขาเป็นเด็กที่แสบซ่าตามวัย เหมือนกับวัยรุ่นทั่วๆไป
1
ด้วยความที่ท็อปทะเลาะกับเพื่อนบ่อย พ่อกับแม่ จึงส่งไปเรียนมัธยมต้นที่นิวซีแลนด์ ซึ่งตอนนั้นเขายังพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้เลย
กิจวัตรประจำวันตอนอยู่ต่างประเทศของท็อปก็เหมือนเดิม คือตื่นมาวิ่ง บ่ายสามก็ไปเรียนฟุตบอล ส่วนเรื่องเรียนในคลาส ก็สอบแค่ผ่านไปเรื่อยๆ
2
กระทั่งจบมัธยมปลาย ท็อปต้องตัดสินใจว่าจะมาเรียนต่อที่ไทยหรือเปล่า
แต่ทว่า ด้วยความที่เขาชอบกีฬาฟุตบอล จึงเลือกศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร ในสาขาเศรษฐศาสตร์ ที่ University of Manchester
1
รู้ไหมว่าวัยรุ่นที่ซ่าสุดขั้ว ได้ผันตัวตั้งใจเรียน จนได้เกียรตินิยมดันดับหนึ่ง
1
แล้วหลังจากนั้นก็ต่อปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ที่ Oxford
ซึ่งแม้เขาจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาตอน ป.ตรี ทว่าขณะที่เรียนปริญญาโทนั้นไม่ง่ายเลย
เพราะเขาต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมห้อง 50 คน ที่ส่วนใหญ่ก็ได้รับเกียรตินิยมมาแบบเขา หรือบ้างก็เป็นระดับหัวกะทิที่ถูกคัดมาแล้วเช่นเดียวกัน
1
ในช่วง 2 ปีของปริญญาโท เขาเรียนหนักมาก ถึงขั้นกับอ่านหนังสือ 12-14 ชั่วโมงแบบไม่มีพัก
หลังจากที่เรียนจบจาก Oxford ท็อปอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ จึงเลือกไปทำงานเป็น Financial Analyst หรือนักวิเคราะห์ด้านสินเชื่อ ให้กับสถาบันการเงินจาก Sanfransisco อย่าง Evotech Capital สาขาเซี่ยงไฮ้
ซึ่งเขาเลือกสาขาในจีน เพราะตอนนั้นเศรษฐกิจจีนกำลังบูม
ในปี 2556 ระหว่างที่ทำงานอยู่ ท็อปได้ไปเจอเข้ากับ Financial asset ตัวหนึ่ง ที่อยู่ดีๆ ราคาก็ดีดขึ้นไปที่ 1,000 เหรียญสหรัฐ
จึงเกิดเป็นความสนใจว่ามันคืออะไร..
1
เขาจึงลงมือหาข้อมูลเพิ่มเติม ไปเจอเข้ากับบล็อกเรื่อง “Why Bitcoin Matters” ของ “Mark Anderson” ที่มักจะมองเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ก่อนใครถึง 10 ปี
1
แล้วในบทความก็ได้อธิบายว่า Bitcoin จะมาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างไร ซึ่ง ณ เวลานั้น ผู้คนยังคิดว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่อยู่เลย
เมื่อทำงานไปสักพัก ท็อปเริ่มรู้สึกไม่เหมาะกับการทำงานภายในองค์กร จึงตัดสินใจลาออก
2
แต่ก็ยังสมัครงานใหม่ แล้วไปหาประสบการณ์ในบริษัท Marquis Advisory Groupที่ San Francisco
1
ระหว่างเริ่มงานใหม่ได้ไม่นาน ท็อปได้กลับมาเมืองไทย เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมกับงานวิจัยที่บริษัทมอบหมายให้
3
ทว่า 1 เดือนนั้น ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนชีวิตเขาไปอีกแบบ
2
เพราะเขาถามเพื่อนว่า เวลา 1 เดือนทำอะไรได้บ้าง เพื่อนจึงแนะนำให้ไปฟิลิปปินส์ เพราะธุรกิจสตาร์ทอัพกำลังบูม
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ท็อปบินไปที่ฟิลิปปินส์ทันที เพื่อเรียนรู้ว่าสตาร์ทอัพคืออะไร พร้อมทำโปรเจกต์เล็กๆ World Startup Report โดยวิจัยว่า ในแต่ละประเทศในภูมิภาค Asia Pacific
แล้วเขาก็พบว่า ไม่มีสตาร์ทอัพใดที่ทำเกี่ยวกับ Bitcoin ที่เขาสนใจเลย
นอกจากนี้ เขายังเจอเพื่อนคนหนึ่งที่มาจากซิลิคอนวัลลีย์ ซึ่งมีความเชื่อเหมือนกันว่า Bitcoin จะมาเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต
5
หลังจากนั้น เขาบินกลับไปทำงานที่ Sanfrancisco ได้แค่ 1 อาทิตย์ ก็รู้สึกทนไม่ไหวกับงานวิจัยที่ต้องอ่านมากๆ
1
จึงตัดสินใจโทรบอกพ่อแม่ว่าจะขอเปิดกิจการสตาร์ทอัพ
1
ท็อปตัดสินใจไปบินไปฟิลิปปินส์เพื่อเปิดบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับ FinTech ใช้ชื่อว่า coins.ph ให้คนใช้บริการ e-wallet และโอนเงินระหว่างประเทศโดยการใช้ Bitcoin
แน่นอนว่าเป็นความยากลำบาก เพราะผู้คนยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร บางทีระบบก็โดนแฮก หรือบ้างก็ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงิน
แต่ทว่าในทางกลับกัน ก็ยังมีคนเชื่อมั่นและใช้บริการ จนตลาดและราคาก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ปี 2557 เขาขยับขยายมาที่เมืองไทย โดยใช้ชื่อเว็บ coins.co.th แต่พอทำได้สองเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ออกประกาศว่า Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และมันอาจมีมูลค่าเหลือ 0 ได้ในเวลาอันสั้น
2
แต่ท็อปก็ไม่ได้ตัดสินใจปิดบริษัททิ้งแต่อย่างใด เพราะยังเชื่อมั่นว่าคริปโตจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกจริงๆ
2
ผ่านมาได้สักพัก ท็อปก็ต้องเจอปัญหาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอีก
แถมยังเรียกตรวจสอบ Bitcoin ว่าเป็นแหล่งฟอกเงินหรือไม่ ท็อปจึงให้ข้อมูลไปว่าบริษัทของเขามีระบบตรวจสอบที่มาของเงิน
3
และต่อมาแบงค์ชาติก็เรียกไปคุยอีกว่า Digital Currency จะเป็นสกุลเงินอะไร
1
ถ้าเป็นเงินตรา ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของชาติ เขาจึงอธิบายทำความเข้าใจไป
1
ในปี 2560 หลังจากที่ท็อปต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่พักใหญ่ ท้องฟ้าก็สว่างขึ้น เมื่อประเทศญี่ปุ่น ประกาศยอมรับ Bitcoin ว่าเป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
4
ทำให้ Bitcoin เติบโตร้อนแรงมาก จนกระทั่งบริษัทแรกในฟิลิปปินส์ถูก GOJEK ซื้อกิจการไปในปี 2561
หลังจากนั้นคุณท็อปได้ตั้งทีม Private Chane เข้าร่วมแข่งขัน FinTech Challenge ที่จัดโดยสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2
ซึ่งทีมของท็อปสร้างตลาดหลักทรัพย์ยุคใหม่ขึ้นมา โดยสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้โดยไม่ต้องมีโบรกเกอร์
1
เพื่อแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีของไทยพร้อมแล้ว แต่กฎหมายรองรับยังไม่พร้อม
1
รู้ไหมว่าทีมของเขาได้ที่หนึ่ง หลังจากนั้น ก็ได้ทำงานร่วมกับสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เรื่อยมา จนกระทั่งเกิดการพัฒนากฎหมายขึ้น
3
ในปี 2561 เขาจึงก่อตั้งบริษัท Bitkub Capital Group Holdings ขึ้น
1
ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่ม Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสามธุรกิจหลักคือ
1
1. Bitkub.com เป็นบริษัทแรกๆ ของโลก ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้มีการบริการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี่ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. Blockchain Solution เป็นธุรกิจให้คำปรึกษาด้าน Blockchain ให้กับองค์กรรัฐและเอกชน
3. ให้บริการคัดกรองโครงการและระบบเสนอขายโทเคนหรือ ICO Portal ซึ่งอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
1
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ Blockchain เติบโตนอกเหนือไปกว่าการโอนเงินแล้ว
3
ท็อปจึงมองการณ์ไกล อยากสร้างให้ Bitkub.com เป็นตลาดหลักทรัพย์ 2.0 ที่สามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้ทุกชนิดเหมือนหุ้น
1
อย่างไรก็ดี หากในอนาคตเป็นเช่นนั้นจริง เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยคนไทย ไปไกลถึงระดับโลกก็เป็นได้
และที่สำคัญ หากคุณท็อปเปลี่ยนความคิดในวันที่แบงค์ชาติเตือนว่า Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่และฟอกเงิน Bitkub ก็คงจะไม่ได้มีในวันนี้
2
การดีดราคาไปแตะเพดานหลักล้านบาทของ Bitcoin ถือเป็นขาขึ้นของคุณท็อป หลังจากที่คลุกคลานอยู่หลายปีเลยก็ว่าได้
2
ไม่แน่ว่าในอนาคต Bitkub ที่ร่วมก่อตั้งโดยท็อป จิรายุส อาจจะเป็น Unicorn(สตาร์ทอัพมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ) ตัวใหม่ของไทย..ก็อาจเป็นได้
2
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Reference
Picture
โฆษณา