Eattention ชวนกิน ; แนะนำ 10 ร้าน ตามรอยเชลล์ชวนชิม :)
เชลล์ชวนชิม
ปัจจุบัน การที่ร้านอาหารหนึ่งร้านจะมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ มักมาจากการพูดถึงในโลกโซเชียล ตามเพจหรือ application แนะนำร้านอาหารต่างๆ แล้วเมื่อก่อนเค้าทำยังไงกันนะ?
'เชลล์ชวนชิม' เป็นคอลัมน์หนึ่งในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ที่แนะนำร้านอาหารต่างๆให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยมีต้นแบบมาจาก 'มิชลินไกด์'
(อ่านที่มาของมิชลินไกด์ : คลิกเลย >>)
ในปี พ.ศ. 2504 ได้เริ่มมีความคิดที่จะนำแก๊สหุงต้มมาใช้ตามบ้าน เพื่อประกอบอาหารแทนเตาถ่าน แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากหลายคนกลัวอุบัติเหตุและระเบิด 'เชลล์ชวนชิม' จึงถือกำเนิดขึ้น
ทางบริษัทเชลล์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ผลิตแก๊สหุงต้ม ได้ใช้คอลัมน์ 'เชลล์ชวนชิม' ในการแนะนำร้านอาหารที่ใช้แก๊ส โดยทำออกมาให้ดูน่าทาน, สะอาด และปลอดภัย เพื่อลดความกลัวของประชาชน ซึ่งร้านแรกที่ได้ลงคอลัมน์นี้ คือร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นสมองหมู ย่านแพร่งภูธร
สัญลักษณ์เชลล์ชวนชิม
ในระยะแรก สัญลักษณ์ของเชลล์ชวนชิม เป็นรูปหอยเชลล์และเปลวไฟ เพื่อใช้ในการโปรโมทเชลล์แก๊ส หลังจากนั้นไม่นาน เชลล์แก๊สก็ติดตลาด และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จึงได้เปลี่ยนสัญลักษณ์เป็นชามรูปผักกาด ซึ่งเป็นชามลายครามที่นิยมใช้กันในสมัยนั้น เพื่อสื่อถึงการกินที่ดี
'เชลล์ชวนชิม' เป็นคอลัมน์ที่มี ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เป็นผู้เขียน และบริษัทเชลล์เป็นผู้สนับสนุน โดยมีหลักการคือต้องเป็นร้านอาหารที่อร่อยและปลอดภัยต่อผู้บริโภค (ไม่เน้นเรื่องราคาอาหาร)
ทุกร้านที่ได้สัญลักษณ์ 'เชลล์ชวนชิม' ไปแล้ว จะไม่มีการเรียกคืน โดยหม่อมถนัดศรีให้เหตุผลว่า หากร้านไหนคุณภาพลดลง คนก็จะรู้และไม่ไปกินเอง
การกลับมาของเชลล์ชวนชิม
เชลล์ชวนชิมหยุดทำไปสักพักใหญ่ๆประมาณ 7-8 ปี ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2562 ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้งทาง facebook, youtube และ website
ซึ่งผู้ชวนชิมหลักในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ม.ล. ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ หรือ หม่อมอิงค์ ลูกชายหม่อมถนัดศรีนั่นเอง
และในวันนี้ เรามีร้านที่ได้ตราเชลล์ชวนชิมมาแนะนำถึง 10 ร้านด้วยกัน ตามมากันได้เลย :)
1. ห้องอาหารกิมเล้ง (พระนคร)
เริ่มที่ร้านแรก กับตำนานความอร่อยที่อยู่คู่ถนนตะนาวมา 80 กว่าปี
เมนูแนะนำ - หมี่กรอบชาววัง(120บาท), หมูสับปลาเค็ม(150บาท)
รสชาติต้นตำรับชาววังแท้ๆ หมี่กรอบใส่กุ้งสดตัวโต เพิ่มความสดชื่นด้วยส้มซ่า
2. Hanaya (สี่พระยา)
ร้านเก่าแก่อีกหนึ่งร้าน กับร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกในประเทศไทย ที่เปิดมามากกว่า 80 ปีแล้วเช่นกัน
เมนูแนะนำ - ข้าวหมูทอด(150บาท), ไข่หวาน(120บาท), พุดดิงชาเขียว(100บาท)
ข้าวหน้าหมูทอดร้อนๆ เสิร์ฟคู่กับไข่และหัวหอมล้นๆ ปิดท้ายด้วยพุดดิงชาเขียว ที่นุ่มและหอมกำลังดี
3. ป.โภชยา (วิสุทธิกษัตริย์)
มาต่อกันที่ร้านอาหารสไตล์กุ๊กช็อป ย่านสะพานพระราม 8 กันบ้างค่ะ
เมนูแนะนำ - ปลากะพงราดพริก(180บาท), ตับผัดกระเทียม(80บาท)
ปลาทอดมาดี เนื้ออร่อย พริกกระเทียมที่ราดมาคือแซ่บมาก เมนูนี้คือห้ามพลาด
4. ไชยโรจน์ (พญาไท)
อีกหนึ่งร้านกุ๊กช็อปย่านพญาไท ร้านนี้บรรยากาศขลังมาก
เมนูแนะนำ - ปลาราดพริก(200บาท), ซี่โครงหมูอบ(90บาท)
ปลาทอดร้านนี้ก็ดีเช่นกัน ตัวพริกกระเทียมจะผัดมาแห้งกว่าร้านแรก แต่แน่นอนว่ารสชาติแซ่บไม่แพ้กัน
5. Ah Yat Abalone (เจริญกรุง)
ร้านติ่มซำสไตล์ฮ่องกง คิดถึงฮ่องกงต้องร้านนี้เลย
เมนูแนะนำ - หมูแดง/หมูกรอบ(600บาท), ติ่มซำ(180-200บาท)
หมูแดง/หมูกรอบที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หมูแดงนุ่มและรสชาติดี หมูกรอบหั่นมาเป็นลูกเต๋าสวยงามและไม่มันมากเกินไป
6. กอชุนฮวด (ธนบุรี)
ร้านข้าวต้มเก่าแก่ฝั่งธนบุรี มีเมนูหลากหลาย บางเมนูก็แปลกและหาทานยาก
เมนูแนะนำ หมูต้ม(80บาท), หอยกะพงผัดพริกเผา(120บาท)
หน้าตาธรรมดาแต่รสชาติอร่อยมาก หมูไม่เหนียว เพิ่มความอร่อยด้วยซอสสูตรพิเศษ หอยกะพงก็ผัดมาได้หอมพริกเผากำลังดี
7. ศิรินทร์ ภัตตาคาร (คลองเตย)
ร้านลับๆย่านคลองเตย ไม่ไกลจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เมนูแนะนำ - มะระผัดไข่, ข้าวมันไก่(65บาท), เป็ดตุ๋นฟักมะนาวดอง
มะระผัดไข่ที่นี่คือ The Best! เปลี่ยนใจคนที่ไม่ชอบทานมะระได้แน่นอน ผัดมาดีมาก หอมไข่ หอมกระทะ ทำให้ไม่เหลือความขมของมะระแม้แต่น้อย
8. Tampa Coffee Shop at Florida Hotel (พญาไท)
ใครจะไปคิดว่าโรงแรมย่านพญาไทแห่งนี้ จะมีร้านอาหารสุดเด็ดซ่อนอยู่
เมนูแนะนำ - BBQ Pork Rib(280บาท), หมี่กรอบไทย(150บาท)
ซี่โครงหมูนุ่มมาก เข้ากับซอสได้ดี ทางร้านเสิร์ฟขนมปังมาให้ด้วย จานเดียวคืออิ่มคุ้มเลย ที่แนะนำอีกอย่างคือหมี่กรอบ เป็นเมนูที่ดีงามทั้งรสชาติและรสสัมผัส
9. นายอ้วน เย็นตาโฟ (เสาชิงช้า)
คิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ ร้านเย็นตาโฟชื่อดังแถวเสาชิงช้า
เมนูแนะนำ - เย็นตาโฟบะเต็ง (60บาท)
เป็นเมนูที่มากี่รอบก็สั่ง เครื่องเค้าแน่นดี เย็นตาโฟปรุงมาได้รสชาติกลมกล่อม แทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
10. Truly Scrumptious (สุขุมวิท49)
ปิดท้ายด้วยร้านขนมหนึ่งเดียวในวันนี้ ร้านเค้กเล็กๆ ที่คนแน่นตลอดเวลาเลย
เมนูแนะนำ - Dark choc oreo with raspberry (210บาท)
เป็นเค้กที่เนื้อดีมาก ช็อกโกแลตเข้มข้น เพิ่ม texture ความกรอบด้วย oreo และตัดรสเปรี้ยวด้วย raspberry เรียกว่ารสชาติดีงามไม่แพ้หน้าตา
นี่เป็นแค่ตัวอย่างร้านส่วนหนึ่งใน 'เชลล์ชวนชิม' เท่านั้น จริงๆแล้ว ร้านในกรุงเทพที่ได้ตราสัญลักษณ์นี้มีมากถึง 481 ร้านด้วยกัน แน่นอนว่ายังไม่นับรวมร้านอาหารจากจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ
เรียกได้ว่าเชลล์ชวนชิมนั้น เป็นตำนานความอร่อยจริงๆ มีใครเคยทานร้านไหนกันบ้างมั้ยคะ comment มาบอกกันได้ค่า :)
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
