8 ม.ค. 2021 เวลา 19:30 • นิยาย เรื่องสั้น
ทุกอย่าง มี 2 ด้านเสมอ
ถ้าจะมูฟออน ต้องเริ่มจากการมองให้เห็นทั้ง2ด้าน
ขอบคุณภาพจาก Google ค่ะ
ใครที่กำลังอยากมูฟออน อยากให้คุณลองอ่านข้อความเหล่านี้สักครู่ เพราะความรัก ว่าด้วยเรื่องการก้าวต่อไป บางครั้ง อาจต้องใช้เวลามองย้อนกลับไปบางเรื่องราว
“ผมเป็นคนหนึ่งนะครับที่เคยเจ็บช้ำกับความรักเเละพึ่งผ่านมาได้หมาดๆเลยครับ
เรื่องของผมก็คงคล้ายกับหลายๆคน ผมได้รู้จักคนรักคนเเรกของผมคนนี้ โดยเธอเป็นครูฝึกสอนที่ได้เข้ามาสอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมของผมซึ่งตอนนั้นอยู่ม.4
ผมได้ทำความรู้จักเเละคุยกัน เราคุยกันทุกวันไม่ต่างจากเพื่อนที่สนิทกันมากๆ โดยมักจะคุยกันผ่าน Msn เราเข้าใจกันทุกเรื่อง ไม่ว่าคุยกันเรื่องอะไรมันก็ดูสอดคล้องกันไปซะหมดทุกอย่าง เเต่ ณ ตอนนั้นมันไม่ได้มีคำว่าแฟนหรือคำว่ารักอยู่ในหัวหรอกครับ เมื่อเธอจบการสอนจากโรงเรียนผมไป เราก็ยังคงติดต่อเเละคุยกันทาง Msn ทุกวันเรื่อยมา
การที่เราต้องคุยกันทุกคืนก่อนนอนกลายเป็นชีวิตประจำวันของเราทั้งคู่ไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเราคุยกันมากขึ้นเราก็ยิ่งเข้าใจกัน เเละรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆอย่างระหว่างเรามันดูมหัศจรรย์จริงๆ เธอคือความสดใสสำหรับผมในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ เธอทำให้ผมหัวใจพองโตเเละมีความสุข
1
เราเริ่มเจอกันบ้าง ไปกินข้าวกันบ้างเนื่องจากบ้านดันอยู่ใกล้กันด้วย จนผ่านไปได้เกือบปี เราก็ตกลงที่จะคบกันในฐานะแฟน ในช่วงปีเเรกทุกๆอย่างสดใส เราคุยกันเข้าใจกันไปหมดสร้างความเซอร์ไพรส์ ความประทับใจต่อกันไม่เว้นวัน มันช่างมีความสุข ในช่วงปีที่สองเราเริ่มรู้จักกันมากยิ่งขึ้น รู้จักครอบครัวของกันเเละกันเเละยอมรับกันเเละกันได้เสมอมา
บางครั้งที่ผมทำผิด เธอรับฟังเข้าใจผม เมื่อเธอพลาดผมก็ไม่เคยโกรธเธอ เราต่างประคับประคองเเละทำความเข้าใจกันได้เป็นอย่างดี
ผ่านมาได้ 2 ปีหลายๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มทะเลาะกันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มพูดคำหยาบกับผมเวลาโกรธซึ่งทำให้ผมช๊อคเหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้เราไม่เคยพูดคำหยาบต่อกันเลยเเม่เเต่ครั้งเดียว(ผมพูดกับเพื่อนปกตินะครับเเต่กับเธอผมจะไม่ใช้คำหยาบคายเเม้เเต่คำเดียว) เเละมีนิสัยชอบจับผิดมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่สามารถที่จะคุยกับเพื่อนที่เป็นผู้หญิงได้เเม้เเต่คนเดียว
เมื่อเธอเข้าเฟสบุ๊คผมไปเจอผมคุยกับเพื่อนผู้หญิง ทั้งที่ไม่ได้คุยกันสื่อไปในทางชู้สาวเลยเเม้เเต่น้อย เธอจะต่อว่าเเละด่าอย่างไม่เกรงใจผมเลย ทำให้ผมไม่สามารถที่จะคุยกับเพื่อนของผมที่เป็นผู้หญิงได้เลยเเม้เเต่คนเดียว
เธอเจ้ากี้เจ้าการกับผมมากขึ้นเรื่อย เเละจากเมื่อก่อนหากทะเลาะกันหรือมีปัญหาเราต่างจะมานั่งปรับความเข้าใจกัน เเต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นไม่ว่าเรื่องอะไร คนที่มีหน้าที่คืนสมดุลให้กับความรักของเราคือ ผม คนเดียว มันเป็นอย่างนี้อยู่นานพอสมควรจน
ผมเริ่มที่จะกลายเป็นคนระเเวงไปเลยครับ ไม่กล้าะทำอะไรหลายๆอย่างจนกลายเป็นความเบื่อหน่ายในที่สุด ในตอนนั้นถามว่าผมยังรักเเละห่วงเธอมากไหมผมก็ตอบได้ว่ายังรักเธอไม่เคยเปลี่ยน เเต่หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากอยู่ห่างๆเธอ เหนื่อยที่จะพบเจอ ผมเริ่มเฉื่อยชากับเรื่องของเรา เซอร์ไพรส์ต่างๆเริ่มหดหายไปจากเราทั้งคู่ ถึงเเม้ว่าจะไม่ได้พูดกันเเต่เราก็เริ่มรู้สึกทั้งคู่
เราทั้งคู่ต่างพยายามสร้างกำลังใจให้กับอีกฝ่ายเเต่มันไม่มีผลอะไรเพราะความเฉื่อยชาอย่างเเก้ไม่ได้ทีเกิดกับผม(ผมมักจะเหนื่อยหน่ายในใจกับการทำอะไรใหัเธอเเต่ในการกระทำก็ยังคงทำเช่นเดิม) เเละการเป็นคนชอบจับผิดทุกๆเรื่องของเธอ ทำให้เรายิ่งทะเลาะกันบ่อยขึ้น
จนในที่สุดเมื่อเวลาจากวันเเรกคบ ผ่านมาได้ 3 ปี 1เดือน 4วัน กับอีก7ชั่วโมงกว่าๆ หรือหลังจากวันเเรกเจอได้ 4 ปีกว่าๆ ทุกๆอย่างก็จบลง วันนั้นผมไปรับเธอสายครับสายไปสี่นาที สิ่งที่เกิดขึ้นคือเธอโมโหเเละด่าผมด้วยคำหยาบคาย เเละเช่นกันความอดทนของผมมันหมดลง ผมต่อว่าเธอผมบีบมือเธอเเน่น พร้อมกังตะโกนใส่เธอทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน เเล้วมันก็จบจากกัน
หลังจากทะเลาะกันไม่กี่วันผมก็กลับไปง้อเธอ เธอก็ยินดี เเต่ก็ดีอยู่เเค่วันเดียวครับ ตกเย็นเธอโทรมาบอกผมว่าเธอรำคานผม เธอเกลียดผม ด่าผมต่างๆนา เเละเราก็ห่างๆกัน เธอย้ายไปอยู่หอเพื่อนของเธอ ซึ่งระหว่างนั้นผมก็พยายามติดต่อ เเละไปพบเธอ ส่งข้อความ ด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด เเต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมา คือ คำด่าท่อ ถึงขั้นโทรมาบอกกับเเม่ผมเอง
เเละที่เเย่กว่าคือ เธอคุยกับคนใหม่หลังจากเลิกกับผมได้เพียง 4 วัน เเละเธอยอมรับว่าไอหมอนี่แอบมาจีบเธอมาตั้งนานเเล้ว เเต่ไม่ได้บอกผม ผมเฟลมาก เหมือนทั้งโลกมันหมดความสวยงาม เธอที่เคยเป็นความสดใสของผม ทำให้ผมรู้สึกว่ามันมหัศจรรย์ ตอนนี้กลายเป็นคนที่ดับโลกทั้งโลกของผม ทำลายความเชื่อในเรื่องของความรักของผมที่เชื่อเเละบูชากับมันมาก คำสัญญาของเราที่บอกว่าเราจะรักกันจะคอยประคับประคองกันตลอดไป เธอฉีกมันทิ้งพร้อมกับขยำมันปาใส่หน้าผมอย่างไม่มีชิ้นดี
ผ่านมาเกือบสามอาทิตย์เเล้วครับนับจากวันที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย ผมยังคงเพ้อถึงเธอ หมดอาลัยตายอยากกับทุกสิ่ง ยังคงโทรหาเธอยามเหงา เเละเเน่นอนเธอไม่รับหรือไม่ก็ด่าผมเป็นของเเถม
วิธีต่างๆในการลืมคนรักที่ผมอ่านในอินเทอร์เนท ไม่ได้ช่วยอะไรผมเเม้เเต่น้อย จนสามวันที่ผ่านมาผมเริ่มคิดถึงสิ่งที่ผมกำลังเพ้ออยู่ มันไร้ค่า มันไร้ค่าจริงๆครับ
ผมระลึกได้ว่าผมมีค่ามากกว่านั้น ตอนนี้ผมเจอกุญเเจดอกสำคัญที่จะไขโซ่ตรวนที่ยึดผมไว้กับเธอเเละเรื่องราวของเธอออกได้เเล้ว ผมส่งของทุกชิ้น ความทรงจำทุกอย่างกลับไปให้เธอ(ที่บ้านของเธอที่ต่างจังหวัด) ในตอนนี้ผมยังคงลืมเธอไม่ได้หรอกครับ เเละยังคงจำทุกๆสถานที่ ทุกช่วงเวลาที่เราเคยไปเเละเคยมีได้อย่างเเม่นยำ
เเต่ผมเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า เลือกที่จะปล่อยให้ความทรงจำทั้งหมดเป็นสมุดในตู้ที่รอวันเปื่อยเเละสลายไป เเละอาจจะหายไปในสักวัน
ผมใช้เวลาสามอาทิตย์ในการตั้งตัวเเละตั้งใจใหม่ ผ่านช่วงสามอาทิตย์เวลาที่โคตรทรมาน ช่วงเวลาที่ทั้งสองแก้มมีเเต่น้ำตาตลอดเวลา ตอนนี้ผมผ่านมาได้เเล้ว เเละผมเชื่อว่าทุกๆคนก็ต้องผ่านมันได้เช่นกัน ผมอยากให้ทุกคนที่กำลังเจอสภาวะแบบสามอาทิตย์ที่เเล้วของผมได้ขังความทรงจำทั้งดีที่สุดเเละเลวร้ายที่สุดไว้ในกล่องที่เราจะไม่มีวันเปิดมันอีกซะ ยัดมันลงไปซะทุกๆสิ่งที่เธอหรือเขาคนนั้นเคยฝากไว้กับคุณ ยัดน้ำเสียงแสนดีเเต่โกหกเราในตอนจบ ยัดความรูปทรงรูปร่างของทุกอย่าง วัตถุทุกชิ้น ความคิดความรู้สึกผิดทั้งหมดลงตู้เซฟไป
ต่อไปนี้จะมีเเต่ตัวของเราที่จะสร้างสิ่งดีๆต่อไปในวันข้างหน้า ผมหวังว่าคนที่อ่านคงจะได้รับสิ่งที่มีประโยชน์กลับไป เเละโดยเฉพาะคนที่เศร้าจะได้ออกจากภาวะที่เลวร้ายนั้นเสียที”
ตัดภาพไปที่อีกฝ่าย...
“ดิฉันเป็นคนหนึ่งนะคะที่เคยเจ็บช้ำกับความรักเเละพึ่งผ่านมาได้หมาดๆเลยค่ะ
เรื่องของดิฉันก็คงคล้ายกับหลายๆคน ขอใช้ชื่อเล่นนะคะ ไอค่ะ ไอรดา ไอได้รู้จักคนรักคนเเรกของไอคนนี้ โดยเค้าเป็นนักเรียนที่ได้เข้ามาในชีวิต ตอนไอสอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเค้าอยู่ม.4
ไอกับเค้าได้ทำความรู้จักเเละคุยกัน เราคุยกันทุกวันไม่ต่างจากเพื่อนที่สนิทกันมากๆ โดยมักจะคุยกันผ่าน Msn เราเข้าใจกันทุกเรื่อง ไม่ว่าคุยกันเรื่องอะไรมันก็ดูสอดคล้องกันไปซะหมดทุกอย่าง เเต่ ณ ตอนนั้นมันไม่ได้มีคำว่าแฟนหรือคำว่ารักอยู่ในหัวหรอกนะคะ เพราะไอเป็นครู เค้าเป็นนักเรียน เมื่อไอจบการสอนจากโรงเรียน เราก็ยังคงติดต่อเเละคุยกันทาง Msn ทุกวันเรื่อยมา
การที่เราต้องคุยกันทุกคืนก่อนนอนกลายเป็นชีวิตประจำวันของเราทั้งคู่ไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเราคุยกันมากขึ้นเราก็ยิ่งเข้าใจกัน เเละรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆอย่างระหว่างเรามันดูมหัศจรรย์จริงๆ เค้าคือกำลังใจสำหรับไอในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ เค้าทำให้ไอหัวใจพองโตเเละมีความสุข
เราเริ่มเจอกันบ้าง ไปกินข้าวกันบ้างเนื่องจากบ้านดันอยู่ใกล้กันด้วย จนผ่านไปได้เกือบปี เราก็ตกลงที่จะคบกันในฐานะแฟน ในช่วงปีเเรกทุกๆอย่างสดใส เราคุยกันเข้าใจกันไปหมดสร้างความเซอร์ไพรส์ ความประทับใจต่อกันไม่เว้นวัน มันช่างมีความสุข ในช่วงปีที่สองเราเริ่มรู้จักกันมากยิ่งขึ้น รู้จักครอบครัวของกันเเละกันเเละยอมรับกันเเละกันได้เสมอมา
บางครั้งที่ไองี่เง่า เค้ารับฟังและเข้าใจไอ ตามง้อ ตามขอโทษตลอด เมื่อเค้าพลาด ไอก็โกรธนะแต่พอเค้าขอโทษ ไอก็หายทุกที เราต่างประคับประคองเเละทำความเข้าใจกันแบบนี้เรื่อยมา
ผ่านมาได้ 2 ปีหลายๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มทะเลาะกันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจากวันนั้น วันที่ไอขอยืมมือถือเค้ามาถ่ายรูป แล้วบังเอิญมีผู้หญิงคนนึงทักไลน์มาหาเค้า แล้วจังหวะมือไอไปโดน เลยเหมือนเปิดอ่าน พอเลื่อนขึ้นไปดูข้อความเรื่อยๆ ทำไอเกือบช็อค เพราะเค้าสองคนดูหวาน ดูมุ้งมิ้งกันมาก แบบที่ไอไม่เคยได้รับเลย
ไอได้แต่ร้องไห้ มีคำถามในหัวมากมาย ไอผิดอะไร บกพร่องตรงไหน หรือเป็นเพราะไอไม่ยอมมีอะไรด้วย
แต่ก็ช่วยเค้าตลอดนี่ แม้จะไม่มีการสอดใส่จริงๆก็เหอะ
หลังจากวันนั้น ไอก็ระแวงมาตลอด เพราะเราอยู่ไกลกันด้วย ไอยอมรับว่า ไอกลัว ไม่ใช่กลัวเค้านอกใจ
เพราะเราสัญญากันแล้วว่า ถ้าฝ่ายใดต้องการมีคนใหม่
ก็ให้บอกกันตรงๆ แต่ที่ไอกลัวก็คือ กลัวมีคนอื่นมาทำให้เค้าสุขมากกว่าที่เราทำได้ (อันนี้ยอมรับว่าตอนนั้นแอบเห็นแก่ตัว) กลัวเค้าแอบคุย แอบคบคนอื่น ไม่ทำตามสัญญา แล้วเราจะเป็นฝ่ายโง่อยู่คนเดียว
พักหลังๆเราจึงทะเลาะกันถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึง ไอเริ่มมีความคิดที่ตรรกะป่วยมาก คือ คิดว่าที่เราทะเลาะกันบ่อย คงเพราะเค้าเบื่อ เค้าอยากมีคนใหม่รึป่าว
มีคนทักหาเค้าเยอะ ตัวเลือกเค้าเยอะ เราต้องยอมมีอะไรกับเค้ามั้ย ทุกอย่างถึงจะดีขึ้น (ตอนนั้นยอมรับว่าอ่อนประสบการณ์ เพราะเป็นแฟนคนแรกที่ไอยอมทุ่มหมดทุกอย่าง คงคล้ายผู้หญิงหลายคนที่ใช้ตัวแลกความรัก คิดว่าถ้าเค้าได้เราแล้ว เค้าจะมีความสุขและหยุดที่เรา)
แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น กลับตรงกันข้าม
เค้าไปเรียนมหาลัย เจอผู้คนมากมาย ตัวเลือกเค้ากลับยิ่งทวีคูณ บวกกับไลฟสไตล์ ที่ตอนแรก เค้ากับไอ ดูจะคล้ายกัน เข้ากัน ไปหมดทุกอย่าง แต่พอขึ้นปี 2 เค้าเริ่มอยากรู้อยากลองสิ่งใหม่
เราเริ่มคิดกันคนละมุม เห็นกันคนละอย่าง
ในขณะที่ไอ กำลังพยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อสร้างฐานะ
ไว้เพื่อสร้างครอบครัว เค้ากลับพยายามท่องเที่ยวไปในโลกมายา โลกที่เค้าเรียกว่า ความสุขของเค้า
โดยแทบจะไม่มีไออยู่ในนั้นเลย
เค้าเริ่มพูดจาด้วยน้ำเสียงแข็ง บ่งบอกว่าเบื่อ รำคาญ
ในขณะที่ตอนนั้น ชีวิตไอ เริ่มเผชิญกับโชคชะตาเลวร้าย
หลายอย่างที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต ทั้งโดนโกง ทั้งอุบัติเหตุ ทั้งโดนใส่ร้าย สารพัดความซวย
ไอเคยปรึกษาเค้าได้ทุกเรื่อง มีเค้ารับฟังทุกโมเมนต์
แต่อยู่ๆ วันนึงเค้าก็เปลี่ยนไป เราเริ่มทะเลาะกัน
เริ่มดราม่า เริ่มกดดันกันและกัน จากกำลังใจ ก็กลายเป็นบั่นทอน
จนวันนึงไอถึงกับคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย (ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า) แล้วก็ทะเลาะกับเค้าจนถึงขั้นพูดคำหยาบออกไป แต่ที่เสียใจคือ เค้าพูดคำหยาบกลับมา
และหลังจากนั้น ไอก็รู้สึกว่า เค้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ไอเฝ้าร่ำร้องเรียกหาเค้าคนเดิมให้กลับมา
(เพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่า ตอนนั้นเราไม่ได้รักเค้าแล้ว เราแค่คิดถึงคาแรคเตอร์ของเค้าในวันแรกๆ และตอนนี้ เค้าคงอยากเปลี่ยนคาแรคเตอร์ หรือไม่ก็ เค้าคงไม่จำเป็นต้องเล่นละครบทเดิมอีกเพราะได้สิ่งที่ต้องการไปหมดแล้ว)
ไอยอมรับว่าไอเองก็งี่เง่าเกินไป ที่ไม่ชอบเวลาเค้าคุยกับผู้หญิงคนอื่น แต่อย่าลืมนะ ว่าไอมีปมไปแล้ว
ไอก็ไม่อยากเป็นอย่างนี้หรอก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
วันนั้น ไอจะไม่ยืมมือถือเค้ามาถ่ายรูปเลย
ไอเริ่มที่จะกลายเป็นคนระเเวงไปเลยค่ะ ไม่อยากทำอะไรหลายๆอย่างจนกลายเป็นความเบื่อหน่ายในที่สุด ในตอนนั้นถามว่าไอยังรักเเละห่วงเค้ามากไหม ไอก็ตอบได้ว่ายังรักเค้าไม่เคยเปลี่ยน เเต่หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ไอเกิดความรู้สึกกลัว เหนื่อยที่จะพบเจอ ไอเริ่มเฉื่อยชากับเรื่องของเรา เซอร์ไพรส์ต่างๆเริ่มหดหายไปจากเราทั้งคู่ ถึงเเม้ว่าจะไม่ได้พูดกันเเต่เราก็เริ่มรู้สึกทั้งคู่
เราทั้งคู่ต่างพยายามสร้างกำลังใจให้กับอีกฝ่ายเเต่มันไม่มีผลอะไรเพราะความเฉื่อยชาอย่างเเก้ไม่ได้ทีเกิดกับเค้า (ไอรู้ว่าเค้ามักจะเหนื่อยหน่ายในใจกับการทำอะไรให้ไอ แต่เค้าก็ยังคงทำเช่นเดิมแบบไร้ความรู้สึก) เเละการเป็นคนชอบจับผิดทุกๆเรื่องของไอ ทำให้เรายิ่งทะเลาะกันบ่อยขึ้น ไอรู้ตัว แต่เพราะความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมไง แล้วเค้าก็ไม่ยอมพูดความจริงออกมา
ไอถามเค้าอยู่เสมอว่า ยังรักไออยู่จริงๆเหมือนอย่างที่บอกรักทุกวันมั้ย ไอก็นึกว่าเค้าจะรู้ ว่าไอคิดยังไง
คือถ้าคนเรามันไม่รู้สึกว่ามันต่างไปจากเดิม คงไม่ถามออกไปแบบนั้นหรอก แล้วไอก็คิดว่า เค้าคงแค่สงสารไอ บวกกับเรื่องเลวร้ายที่ไอต้องเผชิญด้วยอะไรด้วย
แต่ทุกครั้งที่ถาม ก็จะได้คำตอบกลับมาว่า ยังรักเหมือนเดิม อย่าคิดมาก คือตรงนี้แหละที่ไอเสียใจกว่าการได้ฟังความจริง
จนกระทั่ง วันที่เค้าคงไม่ไหวกับความงี่เง่าของไอ บวกกับปัญหาทางการเงินที่รุมเร้าไอ ไหนจะภาวะซึมเศร้าที่เอาแต่จะฆ่าตัวตาย เค้าคงเซ็งๆอะ (เป็นไอก็คงเซ็งเหมือนกัน55) วันนั้น ไอท้าเค้าเองแหละ ว่างั้นก็เลิกกันไปเลย (คำนี้แอบน่ากลัวอยู่นะคุณ) ในใจก็ไม่คิดหรอกว่าเค้าจะเลิก คิดว่าเค้าคงง้อเหมือนทุกครั้ง ที่ไหนได้...
เค้าเลิกจริง
1
จนวันนี้ ครบรอบหนึ่งปีแล้ว ที่เราเลิกกันไป
ช่วงแรกๆ ไอเสียใจมาก ร้องไห้ทุกคืน พร้อมกับคำถามในหัวมากมาย ว่าเพราะอะไร ไอทำผิดตรงไหน เป็นเพราะไอล้มใช่มั้ย ถึงทิ้งกันไปแบบนี้ หรือเพราะเค้ามีคนใหม่
1
จริงๆเค้าก็มาง้อนั่นแหละ หลังจากวันบอกเลิกได้อาทิตย์นึง แต่การง้อของเค้าคือ เค้าเอาเงินมาง้อไง (จริงๆใครๆก็ชอบนะเงินน่ะ แต่ไอไม่เหมือนคนทั่วไปไง ตอนนั้นไออยากได้ใจ อยากได้ความรักไง ไม่ใช่เงิน แต่ตอนนี้อยากได้เงินนะคะ555) ไอก็เลยปฏิเสธไป คิดแล้วก็เสียดายนะ ไม่ใช่แค่เงินแต่เป็นโอกาสที่เราจะปรับความเข้าใจกันต่างหาก
หลังจากที่ไอปฏิเสธเงิน ปฏิเสธการง้อของเค้า
ก็มานั่งเสียใจหนักกว่าเก่า มีคนเข้ามา แต่ไอไม่เคยทำใจให้รักคนอื่นได้เลย มีแต่ต้องการประชดเค้า (อันนี้ไม่ดีเลยนะคะ อย่าหาทำค่ะคุณ)
สุดท้ายไอก็แพ้ใจตัวเอง ยอมกลับไปง้อเค้าเอง ทั้งๆที่ไม่เคยง้อใครเลย แต่เค้าก็ปฏิเสธเรากลับเหมือนกันค่ะ
ไออาจจะง้อไม่เก่ง ไม่ได้ใช้เงิน ไม่ได้ใช้เรื่องบนเตียง
มีแค่คำพูดขวานผ่าซากที่ออกมาจากใจ แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะลบทิฐิในใจเค้าได้ ตั้งแต่ที่เราหลุดพูดคำหยาบใส่กัน ไอก็รู้สึกว่า เค้ามักจะเอาชนะไอตลอด เอาคืนทุกเรื่อง ทุกอย่าง เหมือนแก้แค้นไออะ
เมื่อง้อแล้วไม่ได้ผล ไอก็ถอยค่ะ
ตั้งใจจะมูฟออนให้ได้ ยิ่งเห็นแชทเค้า ที่เค้าอุตส่าห์เปลี่ยนพาสเวิร์ดไปแล้ว ไอยังบังเอิญเข้าไปเจอได้อีกว่าเค้าคุยกับคนใหม่ไปแล้ว เค้ากินเหล้า เฮฮากับเพื่อนได้อย่างมีความสุข ในขณะที่ไอแทบเป็นบ้า ห่วงเค้าสารพัด กลัวเค้าเสียใจจนคิดทำร้ายตัวเอง เหมือนกับที่เราเป็น ที่ไหนได้ เค้าไม่ได้เสียใจอะไรเลย 555
ก็ไม่รู้นะว่าเวลาผู้ชายเสียใจ อกหัก เป็นยังไงกันบ้าง
แต่ภาพที่เห็นคือ แฟนไอเค้ามีความสุข ลัลล้ากับเพื่อนกับคนคุยใหม่ได้สบายใจ มีการไปรับกันไปกินข้าว
คุยกันละมุนเหลือเกิน ซึ่ง กับไอ เค้าไม่เคยทำแบบนั้นให้เลย แบบนี้เรียกน้อยใจมั้ย
ก็เจ็บนะคุณ แอบเข้าไปอ่านทุกวันอะ แต่ต้องเก็บความรู้สึกไว้ไม่แสดงออกมา เพราะรู้ว่าไอหมดสิทธิ์แล้ว
ทำได้แค่ มองดูเค้ารักกันอะ
พอเห็นเค้ากับคนใหม่ทำท่าว่าจะไปไม่รอด
ไอก็เสือกไปห่วงเค้าอีก ดูความบ้าสิ 555
แต่ที่ทำให้เสียใจที่สุด คงเป็นตอนที่เห็นเค้าแชทไปบอกใครๆว่า สาเหตุที่เลิกกัน ไอไม่ดียังไงบ้าง เค้าบรรยาย สาธยายให้คนอื่นรู้แบบ เอิ่มมมม ช้อคอะ
ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเกลียดค่ะ อยากเข้าไปตบสักฉาด
แต่พอมานั่งคิดๆดู เออ! เราก็เป็นแบบนั้นจริงๆนี่นา
ไอเลยตัดสินใจ เปิดเผยตัวเอง ทำให้เค้ารู้ว่า ไอเห็นแชทเค้าทุกอย่างนะ แต่ไอเลือกที่จะเงียบกริบ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน
คิดว่า เอาให้เค้ารู้สึกผิดจนไม่กล้ากลับมาเลยไม่ว่าจะสถานะอะไรก็ตาม ไอคิดอย่างนั้น แต่ผิดคาดค่ะ เค้ากลับมาด่าไออีก ว่าทำเกินไป ก้าวก่าย ละเมิด ล้ำเส้นชีวิตเค้ามากไปละ บลาบลาบลา คำสุดท้ายที่ได้ยินเสียงคือ “อยู่ใครอยู่มัน อย่าให้ต้องเกลียดไปมากกว่านี้เลย”
ไงล่ะคุณ โอ๊ย! เจ็บไปทั้งหัวใจมั้ยล่ะ 5555
แต่จักรวาลมักจะเล่นตลกกับเราเสมอ
ยิ่งเค้าวิ่งหนี ต่อให้เค้าเลวร้ายแค่ไหน สุดท้ายเราก็ยังอยากวิ่งตาม จริงม่ะ 555 บ้าจริง!!!
ไอก็ตามง้อเค้ามาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานะ
เดือนละครั้ง จะส่งข้อความไปเจรจา
ประมาณว่า เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ
เค้าก็คุยแบบ ตามมารยาทล่ะมั้ง 55
(จริงๆแล้ว มันยากนะที่จะเป็นเพื่อนกันได้อะ)
หนักเข้าก็คือ อยากให้เค้าคุยด้วย
เลยแกล้งปรึกษาเค้า (กลัวเค้าคิดว่าเรายังรักอยู่
ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเค้าจริงๆ) ว่ากำลังมีคนมาจีบ
ให้เค้าช่วยเลือกหน่อย อะไรประมาณนี้ 555
ดูโง่ๆเนอะ
แต่สุดท้าย เค้าก็เหมือนไม่อยากคุย
ไม่อยากตอบไอแล้วอะ เค้าคงรู้ล่ะมั้ง
ว่าไอยังคิดถึงเค้าอยู่ ยังรักเค้าอยู่
ไอก็คิดนะว่า ที่ทำๆอยู่เนี่ย
ลดค่าตัวเองมากไปมั้ย
เค้ารำคาญ เค้าไม่อยากสุงสิง
ทำไมถึงทำตัวงี่เง่าแบบนี้
แล้วถ้าเค้ามีคนใหม่แล้วล่ะ
คนใหม่เค้าจะเข้าใจผิดมั้ย
เราไปสร้างความร้าวฉานรึป่าว
(น่าน! ดันห่วงเค้าอีก ห่วงตัวเองก่อนมั้ย)
จนกระทั่งสิ้นปีที่ผ่านมา จะครบรอบวันบอกเลิก
ไอเลยตัดสินใจว่า จะไม่ยุ่งกับเค้าอีกละ
ไอเหนื่อย ไอต้องเจ็บไปอีกนานแค่ไหนกัน
เพื่ออะไร? เพื่อคนใจร้ายเหรอ?
จะมีใครในโลกที่โง่แบบไอนะ?
จนได้มาเห็นข้อความของผู้ชายคนนึงแบบบังเอิญ ในกะทู้พันทิปนี่แหละ เรื่องของเค้า เหมือนถูกถ่ายทอดความรู้สึกมาจากแฟนเก่าไอเลย ไอควรทำยังไงต่อดี?
ไอควรรู้สึกยังไงกับเรื่องที่อ่านนี้ดีคะ?
ขอบที่มา: เว็บไซต์พันทิปค่ะ
นี่คือข้อความที่แอดบังเอิญเข้าไปเจอในเว็บพันทิปนะคะ
แปลกมาก ที่เรื่องราวของผู้ชายเจ้าของกะทู้ คล้ายกับแฟนเก่าแอดเลย และแน่นอนว่าผู้หญิงที่ชื่อไอรดา (นามสมมุติ) ก็คือแอดเองค่ะ 555
แล้วคุณที่กำลังอ่านอยู่ล่ะ เรื่องราวนี้คล้ายของคุณมั้ย
ถ้าใช่ เม้นท์มาเม้าท์มอยกันหน่อยน้าาา
แอดอยากอ่านค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคู่รักนะคะ
ไม่มีใครอยากคบแล้วเลิกหรอกค่ะ
แต่ถ้ามันไม่ไหว ไปกันไม่รอด
ก็คือต้องยอมรับความจริง
แต่ถ้าบางครั้ง เลิกกันเพียงเพราะต่างฝ่าย
ต่างมองไม่เห็นอีกแง่มุม เหมือนคู่แอด
ที่คุยกันน้อยไป ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดสิ่งที่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงให้อีกฝ่ายรับรู้ สะสมมาเรื่อยๆจนกลายเป็นปมที่แก้ยาก สุดท้ายเลยเลือกวิธีการตัด...ตัดออกจากชีวิตกันไป เศร้านะ แต่มันคือความจริง
บางครั้ง ก็น่าเสียดายนะคะ ที่กว่าจะรักกัน
กว่าจะรู้ใจ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
ต้องมาเลิกกันเพียงเพราะเรื่องแค่นิดเดียว
3 วินาที หากเรายั้งความคิด ยั้งปาก
ยั้งการกระทำ เราคงไม่ต้องมานั่งเสียใจกันทั้งคู่แบบนี้
ฝากถึงคนที่จะมูฟออนนะคะ
ถ้าจะมูฟออน ต้องมูฟแบบไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว
แต่ถ้ายังรักเค้าอยู่ ก็รักไปเลยค่ะ
ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ...แม้ไม่ได้ครอบครอง
เป็นกำลังใจให้แอดด้วยนะคะ 🤍
โฆษณา