11 ม.ค. 2021 เวลา 06:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
3 หุ้นวอร์เรน บัฟเฟต น่าจับตาในปี 2564
ปีที่แล้วน่าจะเป็นปีที่วอร์เรน บัฟเฟต (Warren Buffett ) น่าสงสาร หลังจากที่ Berkshire Hathaway บริษัทแสนรักของเขาเพอร์ฟอร์มได้ไม่ค่อยดี หุ้นบริษัทนี้ปรับตัวบวกขึ้นแค่ 2% ในขณะที่ดัชนี S&P 500 กระโดดขึ้น 16% นับว่าปีที่แล้ว ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่สำหรับบริษัทและเขาเอง
อย่างไรก็ตาม คีธ สเปตส์ (Keith Speights) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในกลุ่มสุขอนามัยและเทคโนโลยี และเป็นนักเขียนจาก The Motley Fool (www.fool.com) เว็บไซต์ให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อให้ประชาชนมีอิสรภาพทางการเงิน มีความเห็นว่าในปีนี้ หุ้นหลายตัวที่ Berkshire ถือ น่าจะสร้างรอยยิ้มให้แก่นักลงทุนระดับตำนานท่านนี้ได้ โดยคีธ สเปตส์ มองว่าหุ้นสามตัวนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นหุ้นวอร์เรน บัฟเฟต น่าจะเป็นหุ้นผู้ชนะแห่งปี 2564
1. Apple
เป็นที่ถกเถียงกันว่า หุ้น Apple เป็นหุ้นตัวโปรดของวอร์เรน บัฟเฟต พอๆกับหุ้น Bershire บริษัทของเขาเองหรือไม่ แต่หุ้น Apple นี้ ต่างจาก Berkshire ตรงที่ ปีที่แล้ว หุ้นเทคฯยักษ์ใหญ่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีราคาพุ่งแรงเป็นดาวเด่นด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 81% คีธ สเปตส์ กล่าวว่า ปีนี้โมเมนตั้มความแรงของหุ้น Apple ยังมีให้เห็นต่อเนื่อง
Daniel Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush มองว่า หุ้น Apple อาจจะพุ่งไปสูงถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นก็เป็นได้ นั่นแปลว่าปรับเพิ่มขึ้นไปอีกมากกว่า 50% จากราคาปัจจุบันกันเลยทีเดียว (https://www.fool.com/investing/2020/12/09/apple-stock-could-surge-61-to-200-according-to-thi/)
การคาดการณ์การเติบโตของหุ้น Apple นั้นมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย และปัจจัยที่สำคัญคือ มาจากการคาดการณ์ยอดขายของ iPhone โดย Nikkei Asia ได้รายงานเมื่อเดือนธ.ค.ว่า Apple จะเพิ่มกำลังการผลิต iPhone อีก 30% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ซึ่งก็หมายความว่ายอดขายรายไตรมาสในครึ่งปีหลังของปี 2564 จะเติบโตแข็งแกร่ง (https://asia.nikkei.com/Business/Technology/Apple-plans-30-boost-in-iPhone-production-for-first-half-of-2021)
ในขณะที่บริการต่างๆของ Apple และผลิตภัณฑ์อื่นๆยังคงมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเปิดตัวหูฟัง AirPods Max ดูเหมือนว่าน่าเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยสนับสนุนยอดขายได้บรรลุเป้า
2. Bristol Myers Squibb
วอร์เรน บัฟเฟต และ Berkshire ได้เข้าถือหุ้นยาและเวชภัณฑ์เป็นจำนวนมากในไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว โดย คีธ สเปตส์ มองว่าหุ้นในกลุ่มยาและเวชภัณฑ์น่าจะมีความแข็งแกร่งในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้น Bristol Myers Squibb หรือ BMS
หากเทียบกับหุ้น Apple หุ้น BMS ตอนนี้ถูกมาก โดยหุ้นตัวนี้ซื้อขายกันที่ราคาต่ำกว่าผลประกอบการที่คาดการณ์ ถึง 8 เท่า คีธ สเปตส์ มองว่ามูลค่าในปัจจุบันที่ถูกขนาดนี้ไม่ได้สะท้อนแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของผู้ผลิตยารายนี้เลย
เขาคาดว่า ยา Opdivo ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ของ BMS น่าจะได้รับการอนุมัติ ซึ่งก่อนหน้านี้ ยา Zeposia ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯและยุโรปสำหรับการรักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) หรือโรคเอ็มเอส (MS) แล้ว และคาดว่า Opdivo น่าจะได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯปีนี้
ในช่วงที่ BMS กำลังรอข่าวดี ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันก็ยังได้มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยารักษามะเร็งในเม็ดเลือดอย่าง Revlimid และ Pomalyst, ยาเจือจางเลือด (Blood Thinner) อย่าง Eliquis และยารักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด อย่าง Yervoy โดยคีธ สเปตส์มองว่าปีนี้มีปัจจัยสนับสนุนหลายปัจจัยสำหรับ BMS ที่จะช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้หันมาลงทุนในหุ้น
3. Mastercard
เป็นที่น่ายินดีว่าปีที่แล้ว Mastercard เติบโตมากกว่าตลาดด้วยราคาหุ้นที่บวกขึ้นเกือบ 20% และปีนี้น่าจะเป็นปีทองของยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินในระดับโลกนี้
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงในหลายๆอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และนั่นก็เป็นข่าวร้ายสำหรับ Mastercard โดยในไตรมาสที่สาม ทั้งรายได้และผลการดำเนินงานออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
คีธ สเปตส์ คาดว่า Mastercard น่าจะฟื้นตัวจากโคโรน่าไวรัสได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากที่มีการใช้วัคซีนโควิดอย่างแพร่หลาย และทำให้การแพร่ระบาดลดจำนวนลงเรื่อยๆในที่สุด ซึ่งนั่นก็จะนำมาสู่การพลิกฟื้นของเศรษฐกิจ และนั่นก็จะทำให้ธุรกิจ Mastercard กลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
สาเหตุที่เขามั่นใจกับการกลับมาของ Mastercard ก็คือ ในเดือนธ.ค. คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติเม็ดเงิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการซื้อหุ้นคืน และคาดว่าปีนี้ Mastercard ก็จะยุ่งกับการซื้อหุ้นคืนซึ่งจะเป็นการทำให้ราคาของหุ้นขยับขึ้น ทั้งนี้ วอร์เรน บัฟเฟต มีความชื่นชอบหุ้นตัวนี้มาสักระยะ แต่ปีนี้ เขาอาจจะหันมารักหุ้นตัวนี้เลยก็ได้
ภาพ
โฆษณา