13 ม.ค. 2021 เวลา 00:15 • ธุรกิจ
รู้มั้ยครับว่าเดี่ยวนี้วิธีที่บริษัทเลือกคนเข้าไปทำงาน เลือกว่าจะจ่ายให้ตำแหน่งไหนเท่าไหร่ดี เลือกว่าใครควรจะเติบโตขึ้นไประดับสูง ๆ มันเปลี่ยนไปจากเดิม แล้วก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อย ๆ
การเลือกการจ่ายตามวัยก็เคยเป็นแนวคิดนึง จ่ายตามประสบการณ์ที่ใครมีมากกว่าได้เยอะกว่าก็เป้นแนวคิดนึง จ่ายตามความรู้ใหม่ ๆ ไม่เน้นประสบการณ์เอาแค่ให้ทำได้จริง ๆ ก็เป็นอีกแนวคิดนึง
คิดว่าวันนี้บริษัทส่วนใหญ่เค้าจ่ายกันด้วยวิธีไหน แล้วเคยคิดมั้ยว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้า เค้าน่าจะจ่ายด้วยวิธีการแบบไหน
1
ประสบการณ์ผมนะ บริษัทเองก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนวิธีคิดหรอก ยุ่งยากวุ่นวายกว่าจะลงตัว แต่ไม่เปลี่ยนมันก็ไม่ได้ไง การแข่งขันในตลาดยิ่งสูง ก็ต้องยิ่งคิดให้ชัวร์ว่า จ่ายแบบไหน เลือกคนแบบไหนถึงจะช่วยให้บริษัทไปรอด
1
ย้ำอีกทีว่า บริษัทเองก็ไม่ใช่มูลนิธิ ถ้าเราทำงานให้เค้าไม่ได้ เค้าก็เลี้ยงเราไปตลอดชีวิตไม่ได้เหมือนกัน น้ำก็ต้องพึ่งเรือ เสือก็ต้องพึ่งป่า จริงมั้ย
ทีนี้ครับทีนี้
สิ่งที่เราต้องคิดให้ดีก็คือ วันเนี้ยเราเป็นคนเก่งนะ ความรู้ที่เรามีเนี่ย เป็นสิ่งที่บริษัทต้องใช้เลยแหละ แต่ก็ต้องคิดให้ได้เหมือนกันว่า วันข้างหน้าความรู้ความเก่งเหมือนเดิม มันจะพอใช้ในอนาคตหรือเปล่า
บุญยังหมดกันได้ ความเก่งของเรามันจะไม่หมดได้ยังไง
หน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของบริษัทคือจ่ายค่าจ้างให้เรา และกับความสามารถกับเวลาที่เราให้กับเค้า ผ่านชิ้นงาน ผ่านผลงานที่ให้กับเค้า แต่ถ้าวันนึงความสามารถเราไม่พอ บริษัทเค้าก็คงไม่ได้อยากจ้างเราทำงานต่อ จริงมั้ย
ความรู้ ทักษะ ความสามารถในทุกวันนี้ มันหมดอายุเร็วขึ้นนะ เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยก็เยอะขึ้น ความรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่ช่วยทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็มีให้เห็นเรื่อย ๆ ถ้าเราเองยังยึดติดกับความเก่งเดิม ๆ ความเก่งของเราหมดอายุได้ง่ายแน่ ๆ
เพราะฉนั้นไม่ว่างานไหนก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำถ้ายังอยากจะเติบโตในองค์กรหรืออย่างน้อยมีงานทำไปจนเกษียณ คือต้องรู้ว่าทักษะความรู้อะไรบ้างที่เราควรมีเพิ่ม คนเก่งจะเก่งได้ตลอด ถ้าเค้าคอยเทน้ำที่เต็มแก้วแล้วเติมน้ำใหม่ ๆ เข้าไปอยู่เสมอ
อย่ามัวรอให้บริษัทต้องมาบอก หรือส่งเราไปพัฒนาความรู้นะ เราเองก็ต้องขวนขวายด้วยตัวเองด้วย พึ่งตัวเองก่อนพึ่งคนอื่น ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะนะครับ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
โฆษณา